IPO Ant Group

ทำไม IPO ยักษ์ “Ant Group” ถึงโดนจีนเบรก!

2 min read  

ฉบับย่อ

  • Ant Group ว่าที่หุ้น IPO ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โดนเบรกจากรัฐบาลจีน โดยเพิ่มกฎต่าง ๆ เพื่อควบคุมและลดอำนาจการแข่งขัน
  • Ant Group เป็นบริษัทเทคโนโลยีการเงิน มี Service ทางการเงินที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ หนึ่งใน Service ที่คนไทยคุ้นหูคือ Alipay
  • Antitrust Law ถูกตั้งขึ้นเพื่อควบคุมการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Ant Group Alibaba และ Tencent

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

“Ant Group” ว่าที่หุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กับมูลค่าประมาณ 34.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ใหญ่กว่า Alibaba ตอน IPO เกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกยุติการ IPO โดยประธานาธิบดีจีน Xi Jinping หลังจากที่ Jack Ma ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของแอนท์ กรุ๊ปพูดถึงข้อจำกัดและความล้าหลังของระบบธนาคาร กับเทคโนโลยีในปัจจุบัน

อย่างที่รู้กัน Jack Ma เป็นผู้มีอิทธิพลและได้รับการยกย่องในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอันดับต้น ๆ ของโลก การที่ออกมาพูดแง่ลบของธนาคารจึงเหมือนเป็นการโจมตีธนาคารและระบบของรัฐบาล ทำให้แอนท์ กรุ๊ปถูกสั่งยุติการ IPO ไปอย่างกระทันหัน

“Ant Group” คือใคร ?

แอนท์ กรุ๊ปเป็นบริษัทเทคโนโลยีการเงิน หรือ Fintech ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้ระบบการเงินง่ายขึ้น มีชื่อในอดีตคือ Ant Financial ส่วนชื่อที่คนไทยคุ้นหาก็คือ Alipay แพลตฟอร์มการชำระเงินหลักของจีนที่ดังมาถึงไทย

นอกจาก Alipay แล้ว แอนท์ กรุ๊ปยังมี Service ทางการเงินอื่น ๆ อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น

  1. Wealth Management – Yu’e Bao, Ant Fortune
  2. Lending – Mybank, Zhao Cai Bao, Ant Cash Now
  3. Insurance – Ant Insurance Service
  4. Credit Reference – Sesame Credit
  5. Payment – Alipay

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แอนท์ กรุ๊ป ถูกประเมินมูลค่าไว้สูงมาก จาก Service ที่หลากหลาย อำนาจการแข่งขันจากเทคโนโลยี และความสามารถในการเติบโตที่สูง

MyBank หนึ่งในประเด็นหลักที่จีนใช้เบรก Ant Group

MyBank หรือธุรกิจปล่อยกู้ออนไลน์ ที่สามารถปล่อยกู้ขนาดเล็กได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยใช้ข้อมูลการชำระเงินแบบ Real-Time ระบบจัดการความเสี่ยงควบคู่กับ AI และ Big Data ในการประเมินการปล่อยกู้ให้กับลูกค้า

ซึ่ง MyBank เคยปล่อยกู้ได้เร็วสุดเพียง 3 นาที เท่านั้นในปีที่ผ่านมา โดยยอดปล่อยกู้นั้นสูงถึงกว่า 16 ล้านราย แต่ที่น่าตกใจเลยคือหนี้เสียที่เกิดขึ้นนั้นมีเพียง 1% จากตัวเลขของปีที่แล้วเท่านั้น ซึ่งฉีกกฎการกู้เงินที่ธนาคารทั่วโลกนี้กำลังมี ทั้งใช้เวลาเยอะ ยุ่งยาก แถมยังต้องค้ำประกัน

ซึ่งในมุมมองของจีนนั้น ปัญหาหนี้สินเป็นอีกเรื่องนึงที่น่ากังวล เพราะจีนเองมีหนี้ในประเทศสูงถึง 317% เลยทีเดียว เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา แถมแอนท์ กรุ๊ปเองยังมีบริการบัตรเครดิตเสมือน ที่ทั้งสะดวกสบายเปิดใช้งานง่ายกว่าการเปิดบัตรเครดิตปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการเชิญชวนคนรุ่นใหม่ก่อหนี้มากขึ้นนั่นเอง จึงเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่รัฐบาลกังวล

การเบรกครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อหยุด Ant Group อย่างเดียว

ในปัจจุบันเทคยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในจีนนั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมากไม่ต่างจากบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ในอเมริกา และหลายบริษัทนั้นมีอำนาจต่อตลาดเป็นอย่างมาก ทางจีนเองจึงออกกฎหมาย Antitrust Law หรือ กฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาดขึ้นมา

เพื่อลดทอนอำนาจของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ และควบคุมให้บริษัทอื่นในธุรกิจใกล้เคียงกัน มีอำนาจในการแข่งขันในตลาดได้ เพราะหากเรารวมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba, Ant และ Tencent เข้าด้วยกันแล้ว 3 บริษัทนี้มีมูลค่าตลาดรวมเกือบ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว ซึ่งใหญ่กว่า Bank of China Ltd. เสียอีก

ซึ่งจจากกฎหมายตัวนี้ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีชั้นนำทั้งหลายลดลงอย่างรุนแรง โดยหุ้นของ Alibaba ลดลงเกือบ 10% ในขณะที่ Tencent เองลดลง 7.3% ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นวันเรียกเงินของธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์แต่ตลาดหุ้นต้องมาเซอร์ไพรส์กับกฎ Antitrust Law

ซึ่งจากผลกระทบอาจทำให้การประเมิณมูลค่าของแอนท์ กรุ๊ปอาจเปลี่ยนไป เพราะแอนท์ กรุ๊ปเองอาจต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในการปล่อยกู้ต่าง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ถูกมาตรการคุมเข้มเท่าธนาคารใหญ่ ๆ ทั่วไปในจีน

โดยในกฎใหม่นั้น แอนท์ กรุ๊ปต้องมีเงินกองทุนเริ่มต้นอย่างน้อย 30% ซึ่งในปัจจุบันแอนท์ กรุ๊ปมีแค่ 2% เท่านั้น ทำให้อำนาจการแข่งขันและข้อได้เปรียบของแอนท์ กรุ๊ปลดลง และอาจทำให้มูลค่าของแอนท์ กรุ๊ปลดลงถึง 50%

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply