Ant Financial กับการเป็น Fintech Startup ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Ant Financial กับการเป็น Fintech Startup ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

3 min read  

ฉบับย่อ

  • Fintech Startup หรือ ธุรกิจเทคโนโลยีด้านการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • ปัจจุบัน Ant Financial มีมูลค่ามากกว่าประมาณ 1 เท่าตัว ย้อนไปเมื่อปี 2004 ยักษ์ใหญ่ด้าน E-commerce ของจีนอย่าง Alibaba เริ่มเปิดช่องทางให้บริการธุรกรรมทางการเงินของตัวเอง ภายใต้ชื่อ ‘Alipay’

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

‘Ant Financial’ ดูเหมือนจะจิ๋วแค่ชื่อเท่านั้น เพราะปัจจุบันนี่คือ Fintech Startup หรือ ธุรกิจเทคโนโลยีด้านการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ถ้าถามว่า ‘Ant Financial’ มีขนาดใหญ่แค่ไหน ? อาจจะลองเทียบกับบริษัทเก่าแก่ในแวดวงการเงินด้วยกันอย่าง Goldman Sachs ปัจจุบัน Ant Financial มีมูลค่ามากกว่าประมาณ 1 เท่าตัว! ย้อนไปเมื่อปี 2004 ยักษ์ใหญ่ด้าน E-commerce ของจีนอย่าง Alibaba เริ่มเปิดช่องทางให้บริการธุรกรรมทางการเงินของตัวเอง ภายใต้ชื่อ ‘Alipay’

อีก 10 ปีให้หลัง Alipay ถูกรีแบรนด์ พร้อมกับการจัดโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการเงินภายใต้ Alibaba เสียใหม่ และเป็นจุดกำเนิดของ ‘Ant Financial’ ขึ้นมาในปี 2014 และนอกจากการทำหน้าที่เป็นช่องทางธุรกรรมทางการเงินแล้ว สิ่งสำคัญที่ Ant Financial ได้รับจาก Alipay คือ ‘Big Data’ หรือข้อมูลจำนวนมหาศาลซึ่งสะท้อนให้เห็นประวัติการทำธุรกรรมของผู้ใช้งาน Alipay ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

จากรายงานของ Wall Street Journal ระบุว่า เมื่อปี 2017 ธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน Alipay มีจำนวนถึง 8 ล้านล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่ารวมกันกว่า 2 เท่าของ GDP ประเทศเยอรมัน ด้วยข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ Ant Financial เล็งเห็นช่องว่างจากการทำธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ทั่ว ๆ ไป โดยปกติแล้ว ธนาคารพาณิชย์จะปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือ โดยอาจจะพิจารณาจากสลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง หรือใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันทางการเงิน แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่พอจะมีความสามารถในการผ่อนชำระอยู่ด้วย แต่ไม่สามารถที่จะแสดงหลักฐานให้เข้ากับเงื่อนไขของธนาคารได้ ซึ่งกลุ่มนี้นี่เองที่ Ant Financial นำมาพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อ

โดยทั่วไปแล้วประวัติในการจับจ่ายใช้สอย มักจะแสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องของคนในแต่ละช่วงเวลาได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ Ant Financial มองเห็นคือ การที่คนคนหนึ่งสามารถจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งก็มีแนวโน้มที่บุคคลเหล่านั้นจะมีความสามารถในการผ่อนชำระที่มากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ Ant Financial เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา แม้จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก แต่ภาพของ Ant Financial ในอีก 5 ปีข้างหน้า กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

เมื่อปี 2017 สัดส่วนรายได้จาก ‘การให้บริการทางด้านเทคโนโลยี’ อยู่ที่ประมาณ 34% แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้า Ant Financial ตั้งเป้าว่าส่วนธุรกิจนี้จะเติบโตขึ้นไปเป็น 65% ของรายได้ทั้งหมด เดิมที Ant Financial ถูกวิเคราะห์กันว่าจะเป็นธุรกิจที่เข้ามา ‘ทำลาย (Disrupt)’ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิมของจีน แต่นี่ไม่ใช่ความมุ่งหวังของบริษัท เพราะจากเป้าหมายในส่วนนี้ บริษัทต้องการจะเติบโตในฐานะที่ปรึกษาทางธุรกิจของสถาบันการเงิน โดนให้บริการในลักษณะของการบริหารความเสี่ยงและป้องกันการฉ้อโกงทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทได้ดึงเอาจุดแข็งของตนออกมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นั่นก็คือการผสมผสาน Big Data กับเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จากฐานที่แข็งแกร่งในประเทศจีน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 53.8% Ant Financial กำลังพยายามก้าวไปสู่ระดับโลกอย่างเต็มตัว หลังจากพยายามมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สำเร็จ

เมื่อปี 2017 บริษัทพยายามเข้าซื้อบริษัทธุรกรรมการเงินขนาดใหญ่ อย่าง MoneyGram ด้วยมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ก็ถูกบล็อกเสียก่อน จาก CFIUS หรือคณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐฯกลับมาในปีนี้ Ant Financial ตัดสินใจทุ่มเงิน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเข้าซื้อ WorldFirst ผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์ สัญชาติอังกฤษ และเป็นการเปิดตลาดใหม่ในประเทศกลุ่มยุโรป และเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการเป็น Fintech Startup ระดับโลก

ที่ผ่านมา Ant Financial อาจจะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างนัก แต่พี่ทุยว่าด้วยเป้าหมายสูงสุดขององค์กรที่ว่า ‘Bring the world equal opportunities’ เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าอีกไม่นาน เจ้า ‘มดการเงิน’ ตัวนี้ คงจะพาตัวเองออกไปให้ทุกคนรู้จักอย่างแน่นอน

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply