ตั้งแต่รัสเซียเปิดศึกโจมตียูเครน นานาชาติก็พร้อมใจกันคว่ำบาตร ทั้งด้านการเงิน การค้า การเดินทาง ทำให้ธุรกิจรัสเซียตกที่นั่งลำบากกันถ้วนหน้า แต่ในช่วงวิกฤติที่นานาชาติแบนรัสเซียแบบนี้ กลับเป็นโอกาสของมหาอำนาจอย่างจีน เพราะ “จีน” เลือกที่จะ “ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย”
ในขณะที่สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรในยุโรปจำนวนมากเลือกที่จะแบนการนำเข้าเชื้อเพลิงจากบริษัทน้ำมันและก๊าซ ธุรกิจที่มีความสำคัญที่สุดกับเศรษฐกิจรัสเซีย แต่ก็มีข่าวแว่วมาว่า จีนกำลังจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ในรัสเซียแทน
ไอเดียซื้อกิจการหรือถือหุ้นเพิ่มในธุรกิจพลังงานและโภคภัณฑ์ในรัสเซีย
ล่าสุดมีรายงานข่าวออกมาว่า จีนกำลังพิจารณาซื้อหรือเพิ่มการถือหุ้นในบริษัทพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซีย เช่น Gazprom บริษัทก๊าซยักษ์ใหญ่ และ United Co. Rusal International ผู้ผลิตอะลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ
บริษัทจีนที่พิจารณาเข้าถือหุ้น ก็เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ China National Petroleum (CNPC), China Petrochemical, Aluminum Corporation of China และ China Minmetals Corporation
สื่อจีน เผยว่า ทุกข้อตกลงที่จีนกำลังทำ มีเป้าหมายหลักสนับสนุนการนำเข้าเพื่อความมั่นคงทางพลังงานและอาหารของจีน ไม่ใช่ไปสนับสนุนรัสเซียรุกรานยูเครน และการพูดคุยข้อตกลงอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
ขณะที่ ปัจจุบันบริษัทจีนที่ลงทุนพลังงานในรัสเซีย เช่น CNPC ถือหุ้น 20% ในโครงการ Yamal LNG และ 10% ในโครงการ Arctic LNG2 บริษัท China National Offshore Oil Corporation หรือ Cnooc ถือหุ้น 10% ใน Arctic
เรียกได้ว่า ยามที่ประเทศอื่นกำลังรุมคว่ำบาตรรัสเซีย แต่จากข่าวที่ออกมา จีนมองช่วงเวลานี้เป็นจังหวะของการ “ลงทุน” หรืออย่างน้อยถ้ายังไม่ได้เข้าไปลงทุนจริงวันนี้ก็เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่า ถึงโลกจะรุมแบนรัสเซีย แต่จีนชัดเจนว่า ยังคงคบหากันได้อยู่ และพร้อมยื่นมือเข้าไปอุ้มธุรกิจสำคัญด้วย ถ้าธุรกิจนั้นมีประโยชน์กับจีน
แต่ก็มีอีกเสียงที่ค้านกระแสข่าวจีนเข้าซื้อธุรกิจรัสเซีย โดย Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า ช่วงที่รัสเซียมีข้อจำกัดถูกคว่ำบาตรทางการเงินแบบนี้ คงจะทำให้จีนมีความสามารถจำกัดในการเข้าไปซื้อน้ำมันรัสเซีย เพราะสถาบันการเงินหลายแห่งในจีนก็ทำธุรกรรมด้วยเงินสกุลดอลลาร์และยูโรอยู่ ก็คงไม่ได้อยากจะโดนลูกหลงการคว่ำบาตรไปด้วย และท่าทีของจีนที่ออกมา ก็ไม่ได้ลดแรงกดดันการคว่ำบาตรลงไปได้
“จีน” มีท่าทีชัดเจน “ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย” แต่ไม่ได้สนับสนุนโจมตียูเครน
ถ้าเรามาดูที่ท่าทีของจีน ก็ค่อนข้างชัดเจนแต่แรก คือ ต่อให้มหาอำนาจซีกโลกตะวันตก ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ ยุโรป หรือประเทศใด ๆ จะประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย และกดดันให้จีนเข้าร่วมวงกดดันรัสเซียด้วย แต่มหาอำนาจฝั่งตะวันออกอย่างจีน ก็แกร่งมากพอจะบอกว่า ไม่ขอคว่ำบาตรด้วย
นายกรัฐมนตรี Li Keqiang ของจีน ออกมาพูดในโอกาสที่พบสื่อมวลชนว่า จีนก็มีความกังวลกับสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่เกิดขึ้น เหมือนกับที่ทั่วโลกเป็นห่วง และยังยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนทุกความพยายามที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพอย่างอิสระ แต่ไม่ขอเข้าร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย เพราะมองว่านี่ไม่ใช่วิธีนำไปสู่สันติภาพได้
“จีน” มีบทบาทด้านการเงินและการค้ากับรัสเซียมากขึ้น หลังเลือกที่ “ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย”
ท่ามกลางนานาชาติที่คว่ำบาตรรัสเซียในระบบการเงิน แต่จีนก็ยังอ้าแขนรับรัสเซียอยู่ โดยที่ผ่านมาจีนและรัสเซียทำงานร่วมกันเพื่อลดการพึ่งพิงระบบการเงิน เทคโนโลยี และตลาดซีกโลกตะวันตกอยู่แล้ว ในโอกาสที่รัสเซียถูกทั่วโลกคว่ำบาตร ก็เลยทำให้แนวทางนี้ได้ใช้งานจริงมากขึ้น
ธนาคารกลางรัสเซีย ก็ถือเงินหยวนในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้น ลดการถือครองสินทรัพย์ของซีกโลกตะวันตก ทั้งสหรัฐฯ และยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่ภายหลังคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบการชำระเงิน UnionPay ของจีน แทน Visa กับ Mastercard บริษัทในรัสเซียก็พร้อมทำธุรกิจกับจีนเพิ่มขึ้น ด้วยธุรกรรมสกุลเงินหยวนที่ยังสามารถทำได้
เช่นเดียวกับ ธนาคารเวเตเบ (VTB – ВТБ) ธนาคารที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของและใหญ่เป็นอันดับสองของรัสเซีย ได้เสนอโอกาสให้ลูกค้าธนาคารเปิดบัญชีออมทรัพย์ในสกุลเงินหยวนของจีนที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 8% เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางตะวันตก ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์และยูโรเพิ่มสูงขึ้น
จะเห็นได้ว่า โดยรวมแล้ว จีนมีบทบาททางการเงินและการค้ากับรัสเซียมากขึ้น และถ้าวกไปดูก่อนเกิดสงครามก็จะพบว่า รัสเซียกับจีนมีการคบค้าสมาคมทางธุรกิจกันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2021 รัสเซียเป็นประเทศที่จีนพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ อันดับ 3 ในโลก จีนนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย 10% ของการนำเข้าก๊าซทั้งหมด
และรัสเซียเป็นประเทศที่ป้อนน้ำมันดิบให้กับจีน มากอันดับ 2 โดยส่งน้ำมัน 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2021 คิดเป็น 15.5% ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดในปี 2021
จีนมีการทำสัญญาระยะยาว ด้านการส่งน้ำมันและก๊าซกับรัสเซีย บริษัทจีนและรัสเซียร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนรัสเซีย-จีน เพื่อผลิตน้ำมัน รวมถึงพลังงานรูปแบบอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจนัก ถ้าจีนจะไม่ร่วมวงคว่ำบาตรรัสเซีย เพราะจีนก็คงไม่ต้องการทำร้ายตัวเองเหมือนกัน
จีนได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อะไรจากเหตุการณ์รัสเซีย-ยูเครนบ้าง
มาถึงตรงนี้ถ้าให้พี่ทุยวิเคราะห์ว่าจีนได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อะไรจากเหตุการณ์รัสเซีย-ยูเครนบ้าง พี่ทุยขอไม่กล่าวถึงในมุมมองการเมือง ที่มักจะมีการกล่าวถึงกรณีรัสเซีย-ยูเครน เทียบกับจีน-ไต้หวันก็แล้วกัน
แต่พี่ทุยอยากพูดถึงในมุมโลกของการลงทุนว่า เวลานี้จีนอาจจะเป็นชาติที่อยู่เงียบ ๆ แล้วกินเรียบเพราะการที่จีนไม่คว่ำบาตร แถมยังเดินหน้าการเงินและการค้ากับรัสเซีย ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจลงทุนในบริษัทจีนที่จะได้ประโยชน์จากมูลค่าการค้ากับรัสเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังเหตุการณ์คว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดที่นักลงทุนรายย่อยมีอิทธิพลสูง ซึ่งหลายครั้ง การซื้อขายก็เก็งกำไรเกินกว่าปัจจัยที่แท้จริง ดังนั้น ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากราคาหุ้นจีนที่ได้ประโยชน์จากการค้าของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นก็อาจเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เพราะถึงจุดหนึ่งหุ้นก็ต้องเจอแรงเทขายออกมาเช่นกัน
หากมองภามรวมระยะยาวหลังสงครามสงบไปแล้ว พี่ทุยก็เชื่อว่า จีนนี่แหละได้ประโยชน์ที่สุด เพราะถ้าจีนซื้อหุ้นรัสเซียในช่วงเวลาแบบนี้ไปได้ ก็น่าจะได้ต้นทุนที่ถูกอยู่พอสมควร
ตอนนี้เศรษฐกิจจีนเป็นยังไง
เศรษฐกิจโดยรวมของจีน ก็ยังแข็งแกร่งอยู่ แม้จะมีปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา แต่การที่จีนงัดยาแรงมาจัดการอย่างรวดเร็ว ก็ช่วยเบรกไม่ให้สถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์เลวร้ายลงไปจนถึงจุดที่เกินเยียวยา เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
อ่านเพิ่ม
และเนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลจีนก็ยังไม่ได้อัดมาตรการผ่อนคลายเศรษฐกิจมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นการเติบโต มีแตะเบรกชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจเป็นระยะ ดังนั้นก็ยังมีพื้นที่ให้รัฐบาลจีนงัดมาตรการออกมาสนับสนุนเศรษฐกิจได้อีก
พอดูที่ผลกระทบด้านต่าง ๆ ที่จีนจะได้รับจากสงครามของรัสเซีย-ยูเครนก็น้อยมาก ๆ เพราะจากการที่จีนไม่คว่ำบาตร แปลว่าบริษัทที่ทำธุรกิจกับรัสเซีย ก็ยังทำธุรกิจต่อไปได้ ไม่มีข้อติดขัด แตกต่างจากสหรัฐฯ และยูเครน ที่บางบริษัทถึงขั้นต้องถอนตัวออกจากรัสเซียกันเลย
สรุปโดยรวมแล้วคือ จีนไม่เสียอะไรจากการนิ่งเฉยที่ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย และท้ายที่สุด การนิ่งสงบของจีนก็อาจจะจบลงแบบสวย ๆ ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ด้วย
ส่วนนักลงทุนอย่างเรา ถ้าคิดจะเข้าไปลงทุนหุ้นจีน ในช่วงเวลานี้เพราะคาดหวังผลประโยชน์จากการค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงคราม พี่ทุยก็เตือนไว้ก่อนว่า ต้องทำความเข้าใจอารมณ์ตลาดและเศรษฐกิจจีนให้ดีเสียก่อน แล้วหากเชื่อมั่นจีนอย่างมาก แต่พี่ทุยไม่แนะนำให้ลงทุนกับจีนเต็มพอร์ต 100% นะ เพราะว่าความเสี่ยงจะสูงมาก หากเกิดความผิดพลาดไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ จะไม่เหลือเลยนะ
สุดท้ายนี้ พี่ทุยก็หวังว่าเหตุการณ์รัสเซีย-ยูเครนจะจบลงด้วยการเจรจาโดยเร็วที่สุด เพราะความรุนแรงของสงคราม จบลงด้วยความเสียหายเสมอ