หลังจาก "แจ็ค หม่า" วางมือ Alibaba จะเป็นอย่างไร ?

หลังจาก “แจ็ค หม่า” วางมือ Alibaba จะเป็นอย่างไร ?

   Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • “แจ็ค หม่า” ประกาศวางมือจาก Alibaba เดือนกันยายน 2019 มอบตำแหน่งให้กับ Daniel Zhang ผู้เป็นอดีต CEO Taobao และ ประธานบริษัท Tmall.com บริษัทลูกของ Alibaba พร้อมดีกรีความสำเร็จอย่างอีเวนท์ “Double 11”
  • Alibaba มุ่งเน้นสร้างคนให้มีศักยภาพมากกว่าจะพึ่งพาความสามารถจาก CEO เพียงคนเดียว
  • 1 ในบุคคลต้นแบบของ แจ็ค หม่า คือ Bill Gates โดยสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Bill Gates คือการเกษียณกับการใช้ชีวิตให้มีความสุข
  • เป้าหมายของ แจ็ค หม่า คือการให้เวลากับกองทุนการศึกษาของเค้ามากขึ้น และ อาจใช้บั้นปลายชีวิตกับการเป็นครู

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

“แจ็ค หม่า” ประกาศวางมือ จากการเป็นผู้บริหารสูงสุด (CEO) ของ Alibaba โดยดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน และมีแผนจะมอบตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด (CEO) นี้อย่างเป็นทางการให้แก่ Daniel Zhang หรือ Zhang Yong ในเดือนกันยายน ปี 2019

ใครคือ Daniel Zhang ?

Daniel Zhang เป็นที่รู้จักกันดีในตำแหน่ง CEO ของ Taobao ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Alibaba และ ยังเป็น ประธานบริษัท Tmall.com อีกหนึ่งบริษัทลูกของ Alibaba ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง Zhang ได้สร้างชื่อเสียงครั้งสำคัญจากการคิดวันช็อปปิ้งของคนโสดกับโครงการ “Double 11” ที่จัดให้สอดคล้องกับวัน “Single’s Day” วันที่ 11 เดือน 11 วันของคนโสด จนกลายเป็นวันช็อปปิ้งที่สร้างยอดขายสูงถึงสามเท่าของยอดขายรวมของ Black Friday และ Cyber Monday รวมกัน (วันลดราคาครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นก่อนและหลังวันขอบคุณพระเจ้าของอเมริกา) โดยล่าสุดในปี 2017 มีการทำธุรกรรม 256,000 ธุรกรรมต่อวินาที และมีการซื้อขายรวมกว่า 1.48 พันล้านธุรกรรม สร้างยอดขายไปมากกว่า 19.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยตั้งแต่ปี 2013 Zhang ได้รับตำแหน่งเป็น Chief Operating Officer ซึ่ง Zhang เรียกได้ว่าเป็นมือวางอันดับ 1 คนปัจจุบันที่ แจ็ค หม่า เชื่อมั่นและคาดว่าจะเป็นคนพา Alibaba ก้าวผ่านยุคใหม่ที่สำคัญ

เป้าหมายของ Alibaba คืออะไร ?

ในปี 1999 แจ็ค หม่า ได้เริ่มก่อตั้ง Alibaba ขึ้นมา และเป้าหมายสำคัญของบริษัท Alibaba คือ จะเป็นบริษัทที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศจีน จะขยายตลาดไม่เพียงแต่ภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่จะขยายไปทั่วโลก และสามารถดำรงผ่าน 3 ศควรรษ หรือ 102 ปี ซึ่งด้วยระยะเวลาที่ยาวนานนั้น แจ็ค หม่า คิดได้ว่าไม่มี CEO คนไหนที่จะแข็งแรงพอและสามารถดูแลบริษัทได้นานขนาดนั้น เพื่อที่จะให้ Alibaba สามารถผ่านช่วงเวลาอันยาวนานได้ จะต้องมีบุคลากรที่มีความสามารถ ทำให้ในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา Alibaba มุ่งเน้นที่จะพัฒนาและสร้างบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ และ ยึดวัฒนกรรมองค์กรที่เน้นสร้างบุคลากรให้มีความสามารถเป็นหลัก และหวังว่าวัฒนธรรมองค์กรจะสร้างคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ให้เก่ง และก้าวเข้ามาเป็นผู้นำองค์กรคนต่อไปได้ “ครูทุกคนหวังให้ลูกศิษย์ของเค้าไปได้ไกลกว่าตน ดังนั้นความรับผิดชอบของผมที่มีต่อบริษัทนี้คือการที่ทำให้คนหนุ่มสาวมีศักยภาพ และความเป็นผู้นำจนการทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา” แจ็ค หม่า กล่าวเอาไว้

การวางมือครั้งนี้อาจไม่ใช่จุดจบของ Alibaba แต่จะเป็นยุคใหม่ของ Alibaba “The begining of an era” ถึงแม้คนที่เริ่มต้นผลักดันทุกอย่างให้เกิด Alibaba อาจจะเกิดจากฝีมือของ แจ็ค หม่า ก็จริง แต่สิ่งที่ แจ็ค หม่า ได้วางแผนไว้ คือ การพัฒนาองค์กรที่มีประสิทธิภาพและสามารถพัฒนาและสร้างคนให้เก่งขึ้น เขาจึงเชื่อว่าองค์กรยังสามารถเดินต่อได้โดยที่ไม่มีเขา เพราะด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างคนเก่งจะทำให้คนรุ่นต่อๆไปสามารถรับช่วงต่อและพัฒนา Alibaba ต่อไปได้ แถม แจ็ค หม่า ยังทิ้งท้ายประโยคที่พี่ทุยชอบมากไว้ให้ในบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร The New York Times คือ “I was not considered a good student but I improved, we keep on learning all the time” “ถีงแม้ผมอาจจะไม่ถูกเรียกว่าเป็นเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ผมก็สามารถพัฒนาและใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา”

“แจ็ค หม่า” เดินตามรอย Bill Gates

แจ็ค หม่า เกิดวันที่ 9 กันยายน 1964 เท่ากับว่าในปีนี้ 2018 เขาจะมีอายุ 54 ปี ซึ่งได้ประกาศข่าวสำคัญถึงแผนในการวางมือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน Alibaba ในกันยายนปีหน้า 2019 โดยจะมีอายุครบ 55 ปี พอดี อย่างไรก็ตามเขาได้วางแผนการเกษียณครั้งนี้ไว้ตั้งแต่อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเวลานานแล้ว และหนึ่งในแรงบันดาลใจนี้ก็ได้มาจาก Bill Gates เจ้าของ Microsoft บริษัท Computer ยักษ์ใหญ่ของโลก โดยที่ Bill Gates นั้นได้ลาออกจาก Microsoft เมื่ออายุครบ 58 ปี แจ็ค หม่า ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ไว้ว่า “ผมได้เรียนรู้หลายอย่างจาก Bill Gates และถึงแม้ผมจะยังไม่สามารถรวยเท่า Bill Gates ได้ แต่สิ่งที่ผมสามารถชนะ Bill Gates ได้ในตอนนี้คือ การเกษียณด้วยอายุที่น้อยกว่า Bill Gates” โดยการเกษียณครั้งนี้คาดว่า แจ็ค หม่า จะได้เงินประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ น้อยกว่า Bill Gates ซึ่งได้ประมาณ 95.5 ล้านเหรียญ แต่เกษียณอายุที่น้อยกว่า Bill Gates ถึงสามปีเลยทีเดียว

เป้าหมายต่อไปของ แจ็ค หม่า คืออะไร ?

คนที่รู้จัก แจ็ค หม่า ดีต้องรู้อยู่แล้วว่าเค้าไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไป แต่แค่มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้ไปเดินตามความฝันอื่นๆที่มี และวางใจปล่อยให้หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่เป็นคนขับเคลื่อนบริษัทจนวันนึงสามารถนำไปได้ไกลกว่าเขา ส่วนหนึ่งในความฝันของ Jack Ma ที่กำลังจะทำต่อไปคือการทุ่มเทให้กับแจ็ค หม่า Foundation หรือ มูลนิธิแจ็ค หม่า ซึ่งให้ความสำคัญด้านการศึกษาเป็นหลัก และหวังว่าซักวันหนึ่งหลังจากเขาได้เกษียณอายุแล้วจะมีโอกาสได้กลับไปสอนหนังสืออีกครั้ง เพราะรู้สึกว่าการสอนหนังสือเป็นสิ่งที่เค้าสามารถทำได้ดีและมีความสุขที่ได้ทำ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile