ช่วงที่ผ่านมานี้ พี่ทุยเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องได้ยินการลงทุนแปลก ๆ เยอะมาก เช่น ลงทุนใน “Forex” แล้วการันตีเงินให้แบบนั้นแบบนี้หรือว่าจะเป็นการร่วมทุนก็ตาม
พี่ทุยบอกได้เลยว่า การลงทุนใด ๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10% ต่อปี การลงทุนนั้นมี “มีความเสี่ยงที่สูง” และถ้าถามต่อว่ามีคนลงทุนแล้วได้ 100%+ ต่อปี บ้างมั้ย ? ตอบได้เลยว่ามี ! แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน
ถ้าเราลงทุนในหุ้นที่ถูกตัวปีที่แล้วทั้งปี ก็มีหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 300% อยู่เหมือนกัน แต่ความเสี่ยงก็คือ เราสามารถ “เลือกหุ้นผิดตัว” หรือ “ขายผิดเวลา” ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
สำหรับ “Forex” เดิมทีมันเอาไว้ใช้สำหรับการบริหาร “ความเสี่ยงเรื่องค่าการเงิน” เช่น ถ้าเราต้องมีเหตุที่ต้องแลกเงินดอลลาร์ เพื่อใช้งาน 100,000 USD และเราไม่อยากได้รับความเสี่ยงเรื่องค่าเงินเราก็สามารถไปที่ตลาด Forex แล้วเปิดสัญญา Future ขา Short ค่าเงิน USD มูลค่าสัญญา 100,000 USD ได้
สมมติว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง (เดิม 1 USD เท่ากับ 35 บาท เป็น 1 USD เท่ากับ 30 บาท) แปลว่าขาไปเราต้องใช้เงิน 3,500,000 บาทในการแลก นั่นแปลว่าถ้าเราแลกเงิน 100,000 USD กลับมาเราจะได้รับเงินบาทคืนแค่ 3,000,000 บาทเท่านั้น แปลว่าเราขาดทุน 500,000 บาททันที !
แต่ถ้าเรา Short ไว้อย่างที่พี่ทุยบอก (Short คือ ถ้าขมูลค่าลดลงเราจะได้กำไร) เราจะได้กำไรจากที่ดอลล่าร์ปรับค่าลดลง เราขาดทุนค่าแลกเงิน แต่กำไรขา Short พอมารวมกันแล้วก็อาจจะกำไรขาดทุนนิดหน่อยแบบนี้เค้าเรียกว่าการทำ Hedging
แล้วลองคิดต่อว่าที่ชวน ๆ กันมาเนี้ย ไม่ได้เอามาบริหารความเสี่ยงแบบที่พี่ทุยบอกข้างต้น แต่เอาสัญญา Future มาเก็งกำไรแทน เหมือนแทงขึ้นหรือแทงลง โดยใช้กราฟหรือเทคนิคในการเทรด ก็อย่างที่รู้กันว่าเทคนิคมันไม่ชัวร์ 100% ถ้าแทงถูกก็ดี แล้วถ้าแทงผิดล่ะ ? จะไม่ขาดทุนแบบที่เค้ากล่าวอ้างหรือเปล่า ถ้ามีคนที่เก่งขนาดว่าสาารถแทงถูฏข้างตลอด พี่ทุยว่าเค้าไม่นั่งบริหารเงินให้รายย้อยเงินลงทุนหลักหมื่นหลักแสนหรอก เก่งขนาดนี้ค่าตัวคงแพงมากน่าดูเลยล่ะ
ไม่ต้องพูดถึงการร่วมทุนนอกตลาดเลยด้วยซ้ำที่มาชวน ๆ กัน แต่ร่วมทุนกันในตลาดอย่างตลาดหุ้นก็เห็นเจ๊งกันเละเทะ ขนาดมีหน่วยงานตรวจสอบเยอะแยะขนาดนั้น
แล้วถ้าไม่มีหน่วยงานกำกับจะเละเทะขนาดไหน ? ถามว่ามีของดีดีอยู่บ้างมั้ย ? พี่ทุยว่ามีแหละ แต่พี่ทุยว่าถ้าดีจริงๆการลงทุนแบบนั้นไม่ตกมาถึงนักลงทุนรายย่อยแบบเราแน่ ๆ เพราะคนที่มีเงินเยอะ ๆ หรือนักลงทุนสถาบันต่าง ๆ ก็วิ่งหาผลตอบแทนเช่นกัน
หรือว่ามีใครมีความคิดเห็นที่ต่างออกไปจากพี่ทุยกันบ้าง ? ลองมาแชร์กันได้เลยนะ