รู้หรือไม่ ? เบี้ยประกันลดหย่อนภาษี ได้สูงถึง 300,000 บาท

ภารกิจที่พี่ทุยแนะนำให้ทุกคนให้เร่งจัดการก่อนหมดปีเลยก็คือเรื่อง “ลดหย่อนภาษี” เป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมสำหรับการบริหารภาษีในช่วงปลายปีแบบนี้เลย วันนี้พี่ทุยไม่ได้มาแนะนำว่าประกันที่ไหนเด็ด ประกันที่ไหนโดน แต่จะมาแนะนำว่าสำหรับใครจะลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิต ทำไมถึงควรจ่ายหรือชำระเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี มาฝากกัน

รู้หรือไม่ ? เบี้ยประกันลดหย่อนภาษี ได้สูงถึง 300,000 บาท

ปกติแล้ว ทางกรมสรรพากรกำหนดให้เราสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท รวมถึงสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อนับรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วห้ามเกิน 100,000 บาท

และสำหรับประกันชีวิตบำนาญสามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อนับรวม SSF RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

และในกรณีที่ยังไม่ลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิตใด ๆ เลยก็สามารถซื้อเพิ่มในส่วนของประกันชีวิตทั่วไปอีก 100,000 บาท รวมเป็นสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท

โดยแบบของ “ประกันชีวิต” ที่จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ต้องครบเงื่อนไขดังนี้

1. กรมธรรม์ประกันชีวิตต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
2. ทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย 
3. กรณีมีการจ่ายเงินปันผลหรือผลตอบแทนระหว่างสัญญา ต้องได้รับไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตรายปี 
4. ต้องแจ้งบริษัทประกันชีวิตว่าต้องการนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 

ซึ่งแบบประกันโดยส่วนใหญ่ก็จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่ทั้งนี้พี่ทุยแนะนำว่าให้ลองสอบถามทางบริษัทประกันหรือตัวแทนก่อนเสมอว่าแบบประกันสามารถลดหย่อนภาษีได้ด้วยมั้ยอีกครั้ง เพื่อความชัวร์นะ เพราะอย่างประกันสุขภาพก็ไม่ใช่ว่าทุกตัวที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

จ่ายเบี้ยประกันผ่าน บัตรเครดิต กรุงศรี ได้รับสิทธิพิเศษและโปรโมชันอะไรบ้าง ?

สำหรับใครที่วางแผนจะซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีหรือกำลังจะจ่ายเบี้ยประกันอยู่ พี่ทุยแนะนำว่าให้จ่ายผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี บอกเลยว่าคุ้มแบบสุด ๆ เพราะนอกจากจะได้เครดิตเงินคืนแล้ว ยังมี

โปรโมชันอื่น ๆ ให้แบบจัดเต็มเลย ไม่ว่าจะเป็น

1. ชำระเบี้ยประกันสุดคุ้ม รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 18,000 บาท*

สำหรับการจ่ายเบี้ยประกันจะเป็นปีแรกหรือปีต่ออายุ เมื่อจ่ายครบ 10,000 บาท รับเครดิตเงินคืน 0.6%* รับคืนรวมสูงสุด 18,000 บาทไปเลย

สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม, บัตรเครดิต กรุงศรี ซิกเนเจอร์, บัตรเครดิต กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ซิกเนเจอร์ และ บัตรเครดิต กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง

ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ม.ค. 66 – 31 ธ.ค. 66

แต่สำหรับบัตรเครดิต กรุงศรีประเภทอื่น ๆ จ่ายเบี้ยประกัน ทั้งปีแรกและปีต่ออายุ ครบ 10,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 9,000 บาท

ระยะเวลาตั้งแต่ 1 พ.ย. 66 – 31 ธ.ค. 66

2. แลกพอยต์ รับเครดิตเงินคืน 15%*

สำหรับการ ชำระเบี้ยประกันภัย ทั้งปีแรกและปีต่ออายุ ผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี ครบ 10,000 บาทขึ้นไป/หมายเลขบัตร/เซลล์สลิป และใช้พอยต์ตั้งแต่ 1-200,000 คะแนน แลกรับเครดิตเงินคืน 15% ของพอยต์ที่แลก แต่ไม่เกินยอดชำระเบี้ยประกันภัยต่อเซลล์สลิป

ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ส.ค. 66 – 31 ต.ค. 66

3. ผ่อนเบี้ยประกัน 0%* 3 เดือน #KRUNGSRIINSURANCE0%

สำหรับใครที่สภาพคล่องตึงมือ บัตรเครดิต กรุงศรี ก็สามารถเปลี่ยนยอดจากรูดเต็มเป็นผ่อนชำระ 0% 3 เดือนได้ง่าย ๆ ผ่านแอป UCHOOSE เมื่อสะสมยอดใช้จ่ายในหมวดประกันตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป/เดือน และต้องมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป

ระยะเวลาตั้งแต่ 16 ส.ค. 66 – 31 ต.ค. 66

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

สำหรับใครที่กำลังจะซื้อหรือตัดสินใจทำประกันอยู่แล้ว แนะนำว่าเตรียมบัตรเครดิต กรุงศรีให้พร้อม ปกติแล้วการจ่ายเบี้ยประกันหรือซื้อสินค้าทางการเงินมักจะไม่ค่อยร่วมโปรโมชันทั้งเงินคืนและสะสมแต้มสักเท่าไหร่ ยังไงก็คุ้มกว่าจ่ายเงินสดหรือตัดบัตรที่ไม่ได้ร่วมโปรโมชันแน่นอน

ใครที่สนใจและอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมของบัตรเครดิต กรุงศรี เข้าไปดูได้เลยที่นี่

ก่อนลดหย่อนภาษีด้วยประกัน หรือนำ เบี้ยประกันลดหย่อนภาษี มีอะไรที่ต้องคิดให้ดี ?

สุดท้ายพี่ทุยอยากจะฝากย้ำเตือนว่า การทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพสำหรับการลดหย่อนภาษี ต้องอย่าลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของการทำประกันด้วย นั่นก็คือ การบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ ถ้าหากเราลองประเมินดูแล้วว่า ณ ปัจจุบัน เรามีความคุ้มครองต่าง ๆ เพียงพออยู่แล้ว การเลือกทำประกันทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพอาจจะไม่ใช่ทางเลือกการลดหย่อนภาษีที่ดี

นอกจากนี้เราต้องอย่าลืมประเมินความพร้อมการทำประกันชีวิตด้วย เนื่องจากสินค้าประกันเป็นสินค้าทางการเงินที่ความผูกพันในระยะยาว อย่างประกันชีวิตก็จะต้องมีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ดังนั้น ต้องประเมินว่าเราสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ตลอดรอดฝั่ง สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้เพื่อให้สามารถได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพนั่นเอง