SCGC หนึ่งในรายได้หลักของปูนใหญ่ หลังจากมีการประกาศ Spin Off มาสักพัก และยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระหว่างรอวัน IPO มาดูกันดีกว่าว่า หุ้น SCGC นั้นมีความน่าสนใจในมุมไหนบ้าง แล้วธุรกิจนี้น่าลงทุนหรือไม่
SCGC จัดเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าสูงอันดับต้น ๆ ของไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 114,453.15 ล้านบาท เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์จะถูกจัดเข้าไปในดัชนี SET50 และ SET100 ภายใน 3 วันทำการ จากเกณฑ์ Fast track โดยมีแผนจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 3,854,685,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.2% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
วัตถุประสงค์การใช้เงิน และเหตุผล ที่ “หุ้น SCGC” spin off ออกมาจาก SCC
SCGC นั้นเป็นหนึ่งในธุรกิจภายใต้เครือ SCC หรือ “ปูนใหญ่” ที่เราเรียกกัน แต่ SCGC นั้นจะทำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเคมี มีรายได้จากการขายสูงถึง 239,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 62.3% เป็นสัดส่วนสูงถึง 45% ของรายได้ทั้งหมดของ SCC
ส่วนกำไรสุทธิของ SCGC อยู่ที่ 43,164 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 129.4% คิดเป็นกำไร 61% ของ SCC มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 377,174 ล้านบาท เทียบเป็น 43.8% ของสินทรัพย์รวมทั้งหมดของ SCC เรียกได้ว่า SCGC เป็นหัวเรือหลักทั้งด้านรายได้ กำไร และ สินทรัพย์ของ SCC เลยทีเดียว
การที่ SCGC IPO นั้นจะช่วยให้ทั้งตัว SCC เองที่ไม่ต้องแบกภาระในการสนับสนุนเงินทุนให้กับ SCGC ในด้านของ SCGC ก็จะมีโครงสร้างธุรกิจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มีความยืดหยุ่นในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเอง และเพิ่มขีดความสามารถในการขยับขยายแข่งขันทางธุรกิจได้มากขึ้น
เงินที่ได้รับจากการระดมทุน IPO จะถูกนำไปขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสริมความแข็งแกร่งโครงสร้างทางการเงิน และเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต
สัดส่วนรายได้ของ “หุ้น SCGC”
ธุรกิจโอเลฟินส์ เป็นสายธุรกิจหลักของ SCGC โดยมีสัดส่วนรายได้สูงเกือบ 80% โดยโอเลฟินส์นั้นเป็นสารตั้งต้นหลักในการผลิตพลาสติก ที่นำไปยอดในการผลิต ฝาพลาสติกขวดน้ำ ขวดแชมพู ชิ้นส่วนสำคัญในรถยนต์ และ ยังเป็นส่วนสำคัญในแบบงานอาคารและระบบโครงสร้างอีกด้วย
โดย SCGC มีกำลังในการผลิตโอเลฟินส์สูงถึง 3,400,000 ตันต่อปี และยังสามารถผลิต พอลิโอเอฟินส์ 2,130,000 ตันต่อปี และ พอลิไวนิลคลอไรด์ 1,330,000 ตันต่อปี ทำให้ SCGC เองเป็นเบอร์ 1 ด้านปิโตรเคมีของ ASEAN และกำลังขายธุรกิจเติบโตในต่างประเทศ
สัดส่วนรายได้ในไทยและต่างประเทศ
SCGC มีบริษัทในเครือและบริษัทร่วมทุนกว่า 50 บริษัท โดยมีทั้งที่ตั้งอยู่ในไทยและต่างประเทศ อย่างจีน ฮ่องกง นอร์เวย์ อิตาลี และอีกหลายประเทศ รวมมูลค่าสินทรัพย์เฉพาะในอาเซียนไม่รวมประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 197,503 ล้านบาท
รายได้หลักในปัจจุบันนั้นเป็นภายในประเทศ 52% รายได้จากธุรกิจใน ASEAN 26% โดยมีเวียดนามเป็นประเทศที่มีรายได้สูงสุด 8.36% ตามมาด้วยอินโดนีเซีย 6.26% ซึ่ง SCGC เองก็มีแผนการเติบโตในต่างประเทศที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะเวียดนาม และ อินโดนีเซีย ใครที่กำลังมองหาโอกาสในการเติบโตใน 2 ประเทศนี้ SCGC ก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจเลยทีเดียว
เคมีภัณฑ์ในชีวิตประจำวันของพวกเรา
เคมีภัณฑ์ที่ SCGC แฝงอยู่ในชีวิตประจำวันมีอยู่เยอะมาก อีกทั้ง SCGC ยังโฟกัสในธุรกิจที่เป็น Megatrend ในอนาคตด้วย ไม่ว่าจะเป็น
มุมมองการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
สำหรับใครที่ชอบธีม ESG และ Green ที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและใส่ใจต่อโลก ก็คงให้ความสนใจ SCGC เช่นกัน ด้วยบริษัท SCG ที่เป็นบริษัทใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน จึงให้ความใส่ใจในการทำธุรกิจที่ยั่งยืน
ทำให้บริษัทในเครืออย่าง SCGC ยิ่งใส่ใจเรื่อง ESG และ Green เป็นพิเศษ แม้ผลิตภัณฑ์ของ SCGC อาจกระทบต่อสภาพแวดล้อมของโลก โดยใส่ใจเรื่อง ESG และ Green ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมคู่ค้าธุรกิจให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การวางแผนผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบที่ลดการใช้ทรัพยากร สามารถนำมา Recycle ได้ และนำทรัพยากรกลับมาใช้หมุนเวียนอีกครั้ง
สำหรับใครที่สนใจอยากลงทุนแต่ไม่อยากรอให้หุ้นเข้าตลาด ก็สามารถไปซื้อ SCC เก็บไว้ได้เพราะถึงแม้ SCGC จะ Spin off ออกมาจาก SCC ก็ตาม แต่ SCC ก็ยังคงสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ และยังมีภาพรวมการทำธุรกิจที่เกาะ Mega Trends ในอนาคตเช่นเดียวกัน ใครที่สนใจก็อย่าลืมศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรืออ่านรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ SCGC ได้
อ่านเพิ่ม