หุ้น IPO เป็นที่จับตามองของนักลงทุนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือมือเก่าที่มีประสบการณ์มาแล้ว วันนี้เรามาดูกันว่าการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรกคืออะไร และเราจะลงทุนอย่างไรให้ได้กำไรโดยไม่ต้องเสี่ยงเจ๊งกันนะ!
การเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจ
IPO ย่อมาจาก Initial Public Offering หรือการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก เป็นเหมือนการเปิดตัวบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะได้รับความสนใจสูงโดยเฉพาะช่วงที่ตลาดหุ้นขาขึ้น
บริษัทที่ออกหุ้นสู่สาธารณะมักมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนจากนักลงทุนทั่วไป แทนที่จะกู้เงินจากธนาคารที่อาจมีต้นทุนสูงกว่า เงินทุนเหล่านี้จะนำไปใช้ขยายกิจการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือลงทุนในโครงการต่างๆ
บริษัทใหญ่ที่คุ้นหูอย่าง After You, Kerry Express หรือ PTT Oil and Retail (OR) ล้วนเคยผ่านช่วงเสนอขายหุ้นครั้งแรกมาก่อน และกลายเป็นที่แย่งซื้อของนักลงทุนกันอย่างคึกคัก
2 วิธีซื้อหุ้นเสนอขายครั้งแรกที่คุณต้องรู้
1. จองหุ้นก่อนเข้าตลาด
วิธีนี้บริษัทจะประกาศให้จองหุ้นผ่านโบรกเกอร์หลักทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่ในความเป็นจริง หุ้นมีจำนวนจำกัด และมักมีการจัดสรรให้กับนักลงทุนรายใหญ่ก่อน
สำหรับการเสนอขายของบริษัทดังๆ มือใหม่อย่างเราอาจได้โอกาสค่อนข้างน้อย เพราะมีการจัดโควต้าให้กับลูกค้า VIP หรือนักลงทุนที่มีปริมาณการซื้อขายสูง
2. ซื้อหุ้นวันแรกที่เข้าเทรด
นี่คือวิธีที่นักลงทุนทั่วไปนิยมกันมาก คือรอซื้อในวันแรกที่หุ้นเข้ามาซื้อขายในตลาด ราคาจะผันผวนอย่างมาก บางตัวพุ่งขึ้นเป็นเท่าตัว บางตัวกลับร่วงต่ำกว่าราคาจอง
ข้อระวัง: ราคาช่วงเช้าอาจขึ้นไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์ แต่พอใกล้ปิดตลาด อาจถูกขายทำกำไรจนราคาต่ำกว่าราคาจองเดิม ทำให้มือใหม่ที่เข้าไปตอนราคาสูงต้องขาดทุน
กลยุทธ์ป้องกันไม่ให้เจ๊งจากหุ้นเสนอขายครั้งแรก
1. วิเคราะห์โมเดลธุรกิจให้ละเอียด
ก่อนลงทุน IPO ต้องเข้าใจธุรกิจของบริษัทให้ดี:
- ประกอบธุรกิจอะไร มีอนาคตหรือไม่
- อยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตหรือตกต่ำ
- มีส่วนแบ่งตลาดเท่าไหร่
- คู่แข่งเยอะมากแค่ไหน
- มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าหรือไม่
ดูผลประกอบการย้อนหลัง 3-5 ปี เพื่อดูแนวโน้ม:
- รายได้เติบโตหรือลดลง
- กำไรสุทธิมีทิศทางอย่างไร
- สินทรัพย์และหนี้สินเป็นอย่างไร
- อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับปลอดภัยมั้ย
2. เช็ควัตถุประสงค์การระดมทุน
วัตถุประสงค์ในการออกขายหุ้นสำคัญมาก เพราะบอกได้ว่าบริษัทมีแผนอย่างไร:
สัญญาณดี:
- ระดมทุนเพื่อขยายกิจการ
- ลงทุนโครงการใหม่ที่มีศักยภาพ
- พัฒนาเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์
สัญญาณต้องระวัง:
- ระดมทุนเพื่อจ่ายหนี้
- ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท
- ไม่มีแผนการใช้เงินที่ชัดเจน
3. ประเมินมูลค่าหุ้นก่อนซื้อ
การประเมินมูลค่าหุ้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ควรซื้อเพราะความฮือฮาเพียงอย่างเดียว
วิธีประเมินง่ายๆ:
- เปรียบเทียบค่า P/E (Price to Earnings) กับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน
- ดูค่า P/BV (Price to Book Value) ว่าสูงหรือต่ำกว่าคู่แข่ง
- ศึกษาบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
- สอบถามโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ
เทคนิคลงทุนสำหรับมือใหม่
เลือกเวลาที่เหมาะสม
อย่าเพิ่งรีบ ในวันแรกที่เข้าเทรด ให้สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาก่อน บางครั้งการรอสัก 1-2 สัปดาห์ อาจได้ราคาที่ดีกว่า
ใช้กลยุทธ์ Dollar Cost Averaging
แทนที่จะซื้อครั้งเดียวเยอะๆ ลองซื้อทีละน้อยหลายครั้ง เพื่อเฉลี่ยราคาทุน เช่น ซื้อ 1,000 หุ้นเป็น 4 ครั้ง ครั้งละ 250 หุ้น
ตั้งเป้าหมายกำไรและขาดทุน
- Take Profit: กำหนดราคาขายทำกำไรไว้ล่วงหน้า เช่น กำไร 20-30%
- Stop Loss: กำหนดระดับขาดทุนที่ยอมรับได้ เช่น ขาดทุน 10-15%
ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่
อย่าหลงกับความฮือฮา
หุ้นเสนอขายครั้งแรกที่ได้รับความสนใจสูงไม่ได้หมายความว่าจะทำกำไรได้เสมอ บางครั้งความคาดหวังที่สูงเกินไปทำให้ราคาแพงเกินจริง
ศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- อ่าน Filing ของบริษัทที่ยื่นต่อ ก.ล.ต.
- ติดตามข่าวสารจากสำนักข่าวการเงินที่น่าเชื่อถือ
- ฟังความเห็นจากนักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์
จัดการความเสี่ยง
- ไม่ใส่เงินทั้งหมด ในหุ้นตัวเดียว
- กระจายการลงทุน ในหลากหลายสินทรัพย์
- ใช้เงินที่เสียแล้วไม่กระทบการใช้ชีวิต
จิตวิทยาการลงทุนที่ต้องควบคุม
อย่าให้อารมณ์ครอบงำ
เมื่อเห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่าเพิ่งตื่นเต้นเข้าไปซื้อทันที หากยังไม่ได้ทำการบ้านศึกษาข้อมูลให้ดีพอ
ความอดทนคือกุญแจสำคัญ
หุ้นบางตัวอาจราคาสูงเกินไปในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ราคาก็จะปรับตัวลงมาสู่ระดับที่เหมาะสม การรอคอยหุ้นดีในราคาที่ถูกนั้น ไม่มีคำว่าสายเกินไป
คิดเป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักเก็งกำไร
การลงทุนในหุ้นควรมองในมุมของการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรระยะสั้น ถ้าเป็นบริษัทดีที่มีแนวโน้มเติบโต การถือครองระยะยาวอาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
เคล็ดลับสำเร็จกับการลงทุนหุ้น IPO
การลงทุนในหุ้น IPO ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีระเบียบวินัยและความรู้ที่ถูกต้อง อย่าหลงใหลกับความฮือฮา แต่ให้มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของบริษัท
จำไว้เสมอ: การลงทุนที่ดีคือการลงทุนที่มีเหตุผล ไม่ใช่การเดาทาย หากทำตามหลักการเหล่านี้ คุณจะมีโอกาสประสบความสำเร็จกับการลงทุนมากขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าจะกลายเป็น “แมงเม่าน้อยหลงบินเข้าไปในกองไฟ” แน่นอน!
ติดตามพี่ทุยเพิ่มเติมได้ที่ Facebook
อ่านเพิ่มเติม
ลงทุน S&P500 ทำยังไง ? เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน