รู้จัก กระเป๋า Chanel บริษัทรายได้เกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์

รู้จัก กระเป๋า Chanel บริษัทรายได้เกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์

   Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • แบรนด์ Chanel เริ่มต้นจากหญิงสาวชาวฝรั่งเศสชื่อ Coco Chanel ในวัย 23 ปี เริ่มเปิดร้าน และพบรักกับ Arthur Edward Capel ที่มีอิทธิพลและเป็นแรงบัลดาลใจกับชีวิต แถมสนับสนุนให้ทำกิจการจนรุ่งเรืองครองโลกมาถึงทุกวันนี้
  • ช่วงรุ่งเรืองราวปี 1922 Coco Chanel ต้องการให้น้ำหอม Chanel N°5 ติดตลาดยุโรปและสหรัฐฯ จึงหุ้นธุรกิจนี้กับอีก 2 คน คือ Théophile Bader และ Pierre Wertheimer นับเป็นจุดเริ่มต้นการเสียบริษัทนี้ไปอยู่ในมือครอบครัว Wertheimer
  • ปี 2022 มีรายได้ 17,224 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ถึง 10.1% มีรายได้หลักจาก Asia Pacific 8,645 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Europe 4,720 ล้านดอลลาร์ และ Americas 3,859 ล้านดอลลาร์

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

พูดถึงแบรนด์กระเป๋าที่สาว ๆ ต่างอยากได้มาครอบครองก็คงต้องมีชื่อ กระเป๋า Chanel อย่างแน่นอน นอกจากจะสวย ให้ความรู้สึกหรูหราแล้ว บางคนยังมองเป็นการลงทุนอีกด้วย ก็เพราะราคาขึ้นบ่อยจริง ๆ แต่อะไรกันที่ทำให้แบรนด์อายุมากกว่า 100 ปี ยังคงครองใจคนยุคใหม่อย่างอยู่หมัด ที่มาที่ไปแบรนด์นี้เป็นยังไง รายได้แต่ละปีรุ่งหรือร่วง

วันนี้พี่ทุยจะพาไปรู้จักแบรนด์ Chanel กันทุกแง่มุม ไม่แน่ว่าอ่านบทความนี้จบแล้ว อาจอยากได้กระเป๋าแบรนด์นี้มากขึ้นเป็นเท่าตัวก็ได้

Chanel จากเด็กกำพร้าสู่แบรนด์อมตะครองโลก

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 1883 หญิงชาวฝรั่งเศสชื่อ Gabrielle Bonheur Chanel (กาเบรียล บอนเนอร์ ชาแนล) ถือกำเนิด ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Coco Chanel (โคโค่ ชาแนล) เป็นบุตรสาวคนที่ 2 จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน เมื่ออายุ 12 ปี แม่ก็เสียชีวิตจากวัณโรค Gabrielle Chanel จึงถูกส่งตัวไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และพ่อก็ไม่ได้กลับมาพบลูกสาวอีกเลย

เมื่ออายุ 18 ปี เธอย้ายออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ตลอด 6 ปี ณ ที่แห่งนี้ ทำให้ได้เรียนรู้การตัดเย็บเสื้อผ้า ด้วยความขยัน ใฝ่รู้ จึงสามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาประกอบอาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้า หาเลี้ยงตัวเอง

เวลาว่างก็หารายได้เสริมจากการไปร้องเพลง ซึ่งก็คาดกันว่าชื่อ Coco ก็มาจากทำนองเพลงที่ชอบร้องที่มีชื่อว่า Qui qu’a vu Coco บางคนก็ว่ามาจากคำว่า Cocotte ในภาษาฝรั่งเศสซึ่งแปลว่า “เมียเก็บ” บางส่วนก็ว่ามาจากชื่อ Coco ที่พ่อใช้เรียกตอนเป็นเด็ก

ในวัย 23 ปี พบรักกับ Etienne Balsan และเป็นเมียเก็บ ด้วยความที่ Baldan เป็นทายาทมหาเศรษฐีทำให้ Chanel มีโอกาสใช้ชีวิตกับข้าวของสวยงามและหรูหรา ปี 1909 Balsan ได้ให้ Chanel ยืมพื้นที่ที่ Deauville เปิดร้าน พร้อมแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนสนิท Arthur Edward Capel (อาเธอร์ เอ็ดเวิร์ด คาเปล)

Capel ให้เงินสนับสนุน Chanel เปิดร้านขายหมวกที่ Chanel ออกแบบชื่อ Chanel Modes และหมวกของ Chanel ก็โด่งดังจากการที่นักแสดงหญิงชื่อ Gabrielle Dorziat (เกเบรียน โดชิแอด) นำหมวกไปสวมเข้าฉากในภาพยนตร์ จึงทำให้ร้านหมวกของ Chanel ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ผ่านไป 5 ปี Chanel เลิกกับ Balsan และหันไปคบกับ Capel ซึ่งนี่คือรักแท้ของ Chanel ชีวิตของ Capel มีอิทธิพลและเป็นแรงบัลดาลใจ

ปี 1913 เปิดร้านเพิ่มที่ Deauville โดยใช้ชื่อร้านว่า Chanel และอีกร้านในปี 1915 ที่ Biarritz แต่แล้วปลายปี 1919 Capel เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ แต่เพียง 1 ปีหลังจากนั้นชีวิตของ Chanel ก็กลับมาแกร่งอีกครั้งด้วยการออกคอลเล็กชันใหม่ ช่วงนั้นทำตลาดด้วยการเข้าสังคมพบผู้มีชื่อเสียง

ปี 1921 เปิดตัวน้ำหอม Chanel N°5 รุ่นสุดไอคอนิก ซึ่งเป็นน้ำหอมแรกของโลกที่ตั้งชื่อตามเจ้าของแบรนด์ และยังคงรุ่นสุดฮิตมาจนถึงทุกวันนี้

ช่วงอายุ 40-50 ปี กราฟชีวิต Chanel เป็นขาขึ้นอย่างมาก ขยายธุรกิจไปทั้งแฟชั่นเฮาส์ วัสดุผ้าและสิ่งทอ น้ำหอม และจิวเวลรี่ชนิด Custom แต่แล้วสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ Chanel ต้องปิดร้านทั้งหมด แต่ปี 1947 โลกแฟชั่นกลับมาคึกคักจากอิทธิพลของ Dior ซึ่ง Chanel ก็รับอานิสงส์ไปด้วย

ปี 1953 Chanel ฟื้นตัวกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และเปลี่ยนจากธุรกิจแฟชั่นเฮาส์สู่ธุรกิจเน้นทำกำไรเต็มตัว ปี 1955 เปิดตัวกระเป๋ารุ่น Chanel 2.55 โดยชื่อรุ่น 2.55 มีที่มาจากวันแรกของการจำหน่ายในเดือน ก.พ. 1955

โดยมีที่มาจากปี 1929 Chanel ดีไซน์กระเป๋าถือใช้วัสดุเป็นหนัง แต่ Chanel ชอบสูบบุหรี่เลยเพิ่มสายสะพายเข้าไปเพื่อใช้งานสะดวกสบาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากระเป๋าสะพายก็กลายเป็นสิ่งที่สาวๆ อยากได้มาครอบครอง ต้องมี Chanel 2.55 ติดอันดับอย่างแน่นอน

ปี 1954 ในวัย 71 ปี Chanel เปล่งแสงอีกครั้งในแบบที่อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข ด้วยการเปิด Couture House ไลน์แฟชั่นตามฤดูกาล ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Chanel อยู่

Coco Chanel จากโลกนี้ไปในวัย 87 ปี เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 1971 หลังจากนั้นยอดขาย Chanel N°5 ตกฮวบ ผู้บริหารแก้เกมส์ด้วยการเพิ่มสินค้าเครื่องสำอาง ที่เปิดโลกใหม่ให้กับแบรนด์แต่จนแล้วจนรอดก็ยังขาดผู้นำแบรนด์นี้อยู่ดี

สุดท้ายปี 1983 ได้ Karl Lagerfeld (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) ดีไซเนอร์ขั้นเทพเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งได้หยิบเอาความเป็น Chanel ดั้งเดิมผสมผสานกับรูปแบบใหม่ จนปล่อยกระเป๋ารุ่นสุดฮิตโดยเฉพาะ Chanel Boy ที่กลายเป็นที่หมายปองของสาวทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ตัวล๊อกรูป CC แถมราคาก็ขึ้นทุกปี

เพื่อน (ไม่) รักก็หักเหลี่ยมโหดได้

ย้อนไปช่วงรุ่งเรืองราวปี 1922 Coco Chanel ต้องการให้น้ำหอม Chanel N°5 ติดตลาดยุโรปและสหรัฐฯ จึงหุ้นธุรกิจนี้กับอีก 2 คน คือ Théophile Bader (ทีโอฟิล บาแดร์) และ Pierre Wertheimer (ปิแอร์ เวิร์ตไฮเมอร์) ภายใต้บริษัท Parfums Chanel

Pierre Wertheimer ถือหุ้น 70% รับหน้าที่ลงทุนผลิต ทำการตลาด และจัดส่งสินค้า

Théophile Bader ถือหุ้น 20% รับหน้าที่จัดจำหน่าย

Coco Chanel ถือหุ้น 10% ให้สิทธิ์ผลิตน้ำหอม

จุดนี้ Chanel ทำพลาด ตกลงผลประโยชน์ไว้น้อยกว่าที่คิด ซึ่ง Chanel ก็ไม่พอใจจึงเจรจากับ Wertheimer แต่โดนปฏิเสธ

จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมนียึดครองฝรั่งเศส Chanel ใช้ประโยชน์จากกฎหมายพรรคนาซีที่ห้ามไม่ให้ชาวยิวเป็นเจ้าของกิจการในประเทศ แต่ Wertheimer หัวไวกว่าที่คิด โอนหุ้นให้ผู้แทนชาวฝรั่งเศส ทำให้ Chanel ใช้ข้ออ้างเรื่องเชื้อชาติแย่งความเป็นเจ้าของกลับจาก Wertheimer ไม่ได้

จนถึงปี 1954 Wertheimer จ่ายเงินสนับสนุนทางการเงินให้ Chanel แลกด้วยสิทธิ์ในการสินค้าแบรนด์ Chanel ทั้งหมดนอกจากน้ำหอม ส่วนน้ำหอมยังให้ Chanel ผลิตกลิ่นอื่นได้แต่ต้องไม่มีคำว่า N°5

ส่วน Bader ขายหุ้น 20% ให้ Wertheimer ด้วยสัดส่วนหุ้นถึง 90% จึงกลายเป็นผู้มีสิทธิ์ควบคุมบริษัททั้งหมด เมื่อ Coco Chanel เสียชีวิต Jacques Wertheime (ฌาร์ค เวิร์ตไฮเมอร์) ลูกชายของ Pierre ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจก็ได้ซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ 10% ปิดฉากสงครามแย่งหุ้นบริษัท Chanel อันแสนยาวนาน

ปัจจุบัน Alain Wertheimer (อแลง เวิร์ตไฮเมอร์)  และ Gerard Wertheimer (เจอราร์ด เวิร์ตไฮเมอร์)  2 ลูกชายของ Jacques Wertheimer เข้ารับช่วงต่อกิจการ

3 กระเป๋ารุ่นสุดฮิตแบรนด์ Chanel

Chanel Classic

กระเป๋า Chanel Classic

เป็นรุ่นที่ Karl Lagerfeld ออกแบบ เมื่อปี 1983 มีชื่อเรียกว่า 11.12 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นคลาสสิคตลอดกาล Chanel 2.55 พร้อมตัวล๊อกแบบใหม่ลักษณะ CC ไขว้อันเป็นเอกลักษณ์ ที่เรียกว่า CC turn-lock

เมื่อต้นเดือน ก.ย. 2023 กระเป๋า Chanel Classic มีการปรับขึ้นราคาอีกครั้งจาก 365,000 บาท มาที่ 386,500 บาท

Chanel Boy

Chanel Boy

เปิดตัวเมื่อปี 2011 ผลงานการออกแบบโดย Karl Lagerfeld ด้วยแรงบันดาลใจจากกระเป๋าใส่กระสุนปืนนักล่าสัตว์ ด้วยความเรียบง่ายทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่แฝงด้วยความหรูหราและทันสมัย พร้อมสายสะพายโซ่ ตัวล๊อกแตกต่างจากรุ่น Classic

ต้นเดือน ก.ย. 2023 กระเป๋า Chanel Boy ปรับราคาขึ้นจาก 239,000 บาท มาที่ 253,000 บาท

Chanel 19

กระเป๋า Chanel 19

ผลงานทิ้งท้ายจาก Karl Lagerfeld ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ตัวเลข 19 มาจากวันเกิดของ Coco Chanel ผสมผสานความโดดเด่นของรุ่นฮิตอื่นมาไว้ในกระเป๋ารุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นลายเย็บตาราง สายโซ่และหนังจากรุ่น Gabrielle และ Boy ที่นำมาใส่เข้าไว้ด้วยกัน ตัวล๊อก CC ไขว้จากรุ่น Classic Flap ด้วยความพิเศษขนาดนี้ก็ทำให้ Chanel 19 ก้าวขึ้นมาครองใจสาวๆ ได้ไม่ยาก

ต้นเดือน ก.ย. 2023 กระเป๋ารุ่นนี้ปรับราคาขึ้นจาก 229,500 บาท มาที่ 243,000 บาท

ส่องการเติบโต รายได้แบรนด์ Chanel

ครอบครัว Wertheimer เป็นเจ้าของแบรนด์ Chanel ผ่าน Holding Company ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน ความต้องการสินค้าหรูหราส่งให้ผลประกอบการแบรนด์นี้เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจโลกเช่นกัน

แม้ Chanel จะไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็มีการเปิดเผยผลประกอบการประจำปี โดยปี 2022 มีรายได้ 17,224 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ถึง 10.1% มีรายได้หลักจาก Asia Pacific 8,645 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Europe 4,720 ล้านดอลลาร์ และ Americas 3,859 ล้านดอลลาร์

  • ปี 2021 มีรายได้ 15,639 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 54.7% จากปี 2020
  • ปี 2020 มีรายได้ 10,108 ล้านดอลลาร์ ลดลง  17.6% จากปี 2019
  • และปี 2019 มีรายได้ 12,273 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.4% จากปี 2018

เรียกได้ว่ามีเพียงปี 2020 ที่ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะ lockdown จาก COVID-19 เท่านั้นที่รายได้ลดลง ยืนยันกระแสสินค้าแบรนด์หรูหราที่อาจกลายเป็น Megatrend แถมตอกย้ำว่า Chanel ยังเป็นแบรนด์หรูชั้นนำของโลกไม่เสื่อมคลาย

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile