แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้ ได้เวลาลงทุนอีกครั้งหรือยัง ?

แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้ ได้เวลาลงทุนอีกครั้งหรือยัง ?

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • หลังเปิดประเทศ ทุกฝ่ายคาดว่าจะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างโดดเด่น แม้ GDP ไตรมาสแรกจะเติบโต 4.5% แต่หลังจากนั้นในไตรมาส 2 ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นก็น่าผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสินทรัพย์คงทน, ค้าปลีก, การส่งออก ต่างออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ทั้งสิ้น
  • เริ่มเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ชัดขึ้น หลัง Ant Group ถูกสั่งปรับน้อยกว่าคาด ตามด้วยนายกฯ จีนได้พบกับผู้บริหารบริษัทเทคฯ จีน ส่วนธนาคารกลางจีน (PBOC) เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมอายุ 1 ปี และ 5 ปี ลง 0.1%
  • ใกล้ถึงเวลาแล้วที่ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้น เพราะในอดีตธนาคารกลางจีนมักใช้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือแรกก่อน จากนั้นจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องตามเข้ามา ส่วนรัฐบาลก็จะใช้มาตรการอุดหนุนทางภาษีและนโยบายขาดดุลการคลังช่วยกระตุ้นอีกช่องทาง

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว กูรูการลงทุนหลายสำนักมองว่าในปีนี้ตลาดหุ้นจีนจะเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจที่สุด หลังรัฐบาลยกเลิกมาตรการ Zero-COVID เปิดประเทศ ผ่านมาแล้วครึ่งปี แต่ แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้ กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ แต่แล้วหลังนายกฯ จีนพบปะกับผู้บริหารบริษัทเทคฯ จีนนับเป็นการส่งสัญญาณว่าการควบคุมบริษัทเทคฯ จีนได้จบลงแล้ว

ด้านตลาดหุ้นจีนเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังทำให้นักลงทุนกังวลมาก พี่ทุยเลยจะขอพานักลงทุนทุกคนไปดูกันหน่อยว่าทำไมเวลานี้ถึงเป็นเวลาที่เหมาะสมกับการลงทุนหุ้นจีน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย!!!

ย้อนรอย Ant Group ถูกระงับ IPO ลามควบคุมไปถึงวงการเรียนออนไลน์

Ant Group ว่าที่หุ้น IPO ใหญ่ที่สุดในโลกถูกรัฐบาลจีนสั่งระงับการเข้า IPO จากนั้นก็ตามด้วยนโยบายต่อต้านการผูกขาดซึ่งสร้างผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Alibaba, Tencent และ Meituan ทั้งควบคุมทิศทางการดำเนินธุรกิจและสั่งปรับเงิน

นโยบายนี้ยังลามไปถึงบริษัทติวเตอร์ออนไลน์ โดยรัฐบาลจีนสั่งให้บริษัทต้องจดทะเบียนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และยังห้ามเพิ่มเงินทุนทั้งจากช่องทางตลาดหุ้นและนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลกระทบหนักต่อบริษัทอย่าง TAL Education และ Gaotu Techedu ซึ่งต่างเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นจีน

จากนั้นทางการจีนก็ควบคุมธุรกิจอสังหาฯ ด้วยการกำหนดว่าต้องสร้างโครงการที่เริ่มไว้ให้เสร็จก่อนจึงจะสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินมาสร้างโครงการอื่นได้ ส่งผลให้ Evergrande เกิดปัญหาสภาพคล่อง โครงการที่เริ่มไว้ก็สร้างไม่เสร็จ โครงการใหม่ก็เริ่มไม่ได้ ราคาอสังหาฯ ก็ลดหวบ กระทบประชาชน เพราะชาวจีนชอบเก็บเงินไว้ในรูปอสังหาฯ

เปิดประเทศแล้ว แต่ตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่น่าพอใจ

หลังเปิดประเทศ ทุกฝ่ายคาดว่าจะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างโดดเด่น แม้ GDP ไตรมาสแรกปี 2023 จะเติบโต 4.5% แต่หลังจากนั้นไตรมาส 2 เลข GDP ก็โตแค่ 6.3% ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นก็น่าผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสินทรัพย์คงทน +3.8%, ค้าปลีก +3.1%, การส่งออก –12.4% จากปีที่แล้ว ทั้งหมดออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ทั้งสิ้น

ส่วนดัชนี PMI ที่ช่วยบอกสภาพเศรษฐกิจในอนาคตก็ยังไม่น่าประทับใจ โดยภาคอุตสาหกรรมโดนผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ดัชนี PMI เคลื่อนไหวสลับกันระหว่างแดนขยายตัวและหดตัว ด้านดัชนี PMI ภาคบริการที่สะท้อนการบริโภคภายในประเทศ พุ่งขึ้นไปในแดนขยายตัวหลังเปิดประเทศ แต่ก็เริ่มลดลงต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่สัญญาณที่ดีมากนัก

ธนาคารกลางจีนนำร่องลดดอกเบี้ย ภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุม

ธนาคารกลางจีน (PBOC) เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมอายุ 1 ปี และ 5 ปี ลง 0.1% นับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 2022 นอกจากนี้ยังลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสำหรับการกู้ยืมระหว่างธนาคารพาณิชย์ พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ

ด้านรัฐบาลขยายมาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องในภาคอสังหาฯ ไปจนถึงปลายปี ผ่อนคลายแรงกดดันระยะสั้นไปได้ ส่วนบริษัทเทคฯ ก็มีสัญญาณดี หลัง Ant Group ถูกสั่งปรับน้อยกว่าคาด ซึ่งนักลงทุนต่างมองว่ามาตรการควบคุมบริษัทเทคฯ ที่ลากยาวมากว่า 3 ปี ได้จบลงแล้ว ซึ่งยืนยันด้วยการที่นายกฯ จีนได้พบกับผู้บริหารบริษัทเทคฯ จีน พร้อมเรียกร้องให้บริษัทเหล่านี้สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น

มาถึงตรงนี้พี่ทุยมองว่าเริ่มเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ชัดขึ้นเรื่อย ๆ

แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้: เหลืออะไรบ้างที่จะเอามาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจีนได้อีก?

เหล่านี้คือ มุมมองจากนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ เริ่มจากรัฐบาลต้องใช้นโยบายขาดดุลการคลังมากขึ้น ด้วยการกู้ยืมผ่านหุ้นกู้รัฐบาลท้องถิ่น แต่รัฐบาลท้องถิ่นก็เผชิญปัญหาแบกหนี้มากเกินไปจากหุ้นกู้ที่เคยออกไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นธนาคารกลางจีนต้องเข้ามามีบทบาทด้วยการรับซื้อหุ้นกู้จากรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อกระจายสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

นอกจากนี้รัฐบาลต้องลดภาษีเพื่อให้ประชาชนมีเงินเหลือมากขึ้น หรือรัฐบาลอาจเลือกใช้นโยบายอัดฉีดเงินเข้ากระเป๋าประชาชนโดยตรงด้วยคูปองใช้จ่ายหรือให้เงินอุดหนุนการใช้จ่าย ไม่ว่าจะใช้นโยบายใดก็ตาม ต้องประเมินไปพร้อมกับการขาดดุลการคลังด้วยว่ามีช่องว่างเหลือให้ลดภาษีได้แค่ไหน

ขณะที่ธนาคารกลางจีนยังมีอุปกรณ์ในมือเพียงพอกระตุ้นแน่นอน โดยอาจเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยต่อ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าหากลดอัตราดอกเบี้ย 1% จะมีเงินเข้าระบบการเงินมากกว่ากำไรที่บริษัทภาคอุตสาหกรรมทำได้ตลอด 5 เดือนแรกของปี

แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้ ได้เวลาลงทุนอีกครั้งหรือยัง ?

อีกอุปกรณ์ คือ การลดอัตราสำรองเงินของธนาคารพาณิชย์ (Required Reserve Ratio) โดยถ้ามีการปรับลดก็จะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์มีเงินไปปล่อยสินเชื่อเข้าเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งธนาคารกลางจีนปรับลดครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2023

ปลายเดือน มิ.ย. 2023 ธนาคารกลางจีนเพิ่มโควต้าสำหรับโปรแกรมสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษให้เกษตรกรและบริษัทขนาดเล็ก นี่อาจเป็นสัญญาณแรกของการปรับลด Required Reserve Ratio

แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้: กลุ่มที่ได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ

กลุ่มเทคโนโลยีแม้จะไม่ได้รับผลดีโดยตรง แต่ด้วยแรงกดดันจากมาตรการควบคุมที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ก็พร้อมฟื้นตัวโดดเด่นทันทีที่รัฐบาลจีนส่งสัญญาณหยุดมาตรการควบคุม

ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์และอสังหาฯ รับผลดีจากปัญหาสภาพคล่องที่ผ่อนคลายในระยะสั้น ด้านกลุ่มบริโภคภายในจะรับผลดีจากมาตรการกระตุ้นโดยตรงจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

ซึ่งเพียง 4 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ก็สามารถช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นได้แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นที่ทางการจีนจะนำมาใช้เมื่อไรเท่านั้นเอง

สรุปมุมมอง แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้

พี่ทุยมองว่าใกล้ถึงเวลาแล้วที่ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้น เพราะในอดีตธนาคารกลางจีนมักใช้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือแรกก่อน จากนั้นจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องตามเข้ามา ส่วนรัฐบาลก็จะใช้มาตรการอุดหนุนทางภาษีและนโยบายขาดดุลการคลังช่วยกระตุ้นอีกช่องทาง

อย่างไรก็ตามในมุมมองพี่ทุย ก็อยากแนะนำเพื่อน ๆ ว่า ด้วยธรรมชาติของหุ้นจีนที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวไปตามตลาดอื่น ๆ ในโลก แต่เคลื่อนไหวด้วยปัจจัยเฉพาะตัวในประเทศมากกว่า ทำให้เป็นตลาดหุ้นหนึ่งที่นักลงทุนควรจะมีเอาไว้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อบริหารความเสี่ยง เวลาที่การลงทุนในตลาดอื่น ๆ ในโลกปรับลดลง ตลาดหุ้นจีนก็อาจจะเป็นหนึ่งในตลาดที่ยืนหนึ่งอยู่ได้ แต่ในทางกลับกัน เวลาตลาดอื่นขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจีนจะขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย เพราะจีนมีปัจจัยเฉพาะตัวจริง ๆ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายทางการที่สร้างเซอร์ไพร์สได้ตลอด

สุดท้ายคำว่า “จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว” ยังใช้ได้เสมอ ดังนั้นลองหันไปดูรอบข้างว่าทุกคนกลัวหุ้นจีนหรือยัง ถ้ากลัวแล้วนี่อาจเป็นโอกาสสะสมหุ้นจีนเช่นกัน แต่อย่าลืมบริหารความเสี่ยงกันนะ

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile