สำหรับนักลงทุนมือใหม่คงมีคำถามที่ว่า จะเริ่มต้นเล่นหุ้นเป็นต้องทำอย่างไร ? “ซื้อหุ้น” ขายหุ้นตอนไหนดี ? ถ้าเราลองศึกษาเรื่องการลงทุนในหุ้นมาสักพัก เราจะเห็นว่านักลงทุนหลาย ๆ ท่านก็มีสไตล์การลงทุนของตนเองไม่เหมือนกัน เนื่องจากวัตถุประสงค์ใน การลงทุน องค์ความรู้ที่ได้เรียนมาจากหลายศาสตร์ ความชอบส่วนบุคคล
พี่ทุยจะมาขออธิบายสไตล์ การลงทุน ในปัจจุบันที่ทั้งมืออาชีพ และนักลงทุนรายย่อยนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายนั้นโดยทั่วไปจะแบ่งได้เป็น 2 สไตล์หลัก ๆ ได้แก่
1. สายพื้นฐาน (VI)
2. สายเทคนิค
ซึ่งทั้ง 2 แนวทางนี้มีแนวคิดในการวิเคราะห์ และจุดเข้าซื้อจุดขายที่แตกต่างกัน โดยเริ่มต้นจาก
1. สายพื้นฐาน (VI)
หรือเรียกชื่อเต็มๆว่า Value Investor ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “นักลงทุนเน้นคุณค่า” โดยภาพรวมของการวิเคราะห์สายนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหุ้นจะมีแนวคิดหลักอยู่ 2 แบบที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายคือ
(1) วิธีวิเคราะห์จากบนลงล่าง (Top – Down Approach)
เป็นการวิเคราะห์โดยเริ่มจาก“วิเคราะห์เศรษฐกิจ” ซึ่งใช้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ผลผลิตอุตสาหกรรม ดัชนีราคาผู้ผลิต อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ อัตราการว่างงาน หนี้สาธารณะ ฯลฯ เพราะจะทำให้เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันของเศรษฐกิจมหภาค ต่อมาก็จะเริ่มที่การ “วิเคราะห์อุตสาหกรรม” เป็นการวิเคราะห์การเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ การแข่งขันระหว่างอุตสาหกรรม กฎหมายข้อบังคับ และสุดท้าย “วิเคราะห์บริษัท” โดยดูจากรูปแบบการดำเนินธุรกิจ โอกาสเติบโต ผลประกอบการของบริษัท ฐานะทางการเงินของบริษัท คำนวณอัตราส่วนทางการเงิน จนได้หุ้นที่มีคุณภาพ
(2) ประเมินมูลค่าหุ้น
เมื่อนักลงทุนคัดเลือกหุ้นจากขั้นตอนแรกได้แล้ว เราจึงมาประเมินมูลค่าของหุ้น เพื่อเทียบกับราคาปัจจุบันในตลาดว่าหุ้นที่เราเลือกมานั้นมีราคาที่เหมาะสมแล้วรึยัง โดย read money ขอนำวิธีประเมินมูลค่าหุ้นที่นักลงทุนนิยมกันมากและง่ายที่สุดนั้นก็คือ P/E Ratio วิธีคิดก็คือ
P/E Ratio = ราคาตลาดของหุ้น / กำไรต่อหุ้น
ตัวอย่างเช่น บริษัท read money มีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2 บาท โดยราคาตลาดของหุ้นในปัจจุบันเท่ากับ 15 บาท ดังนั้น P/E Ratio จะเท่ากับ 7.5 เท่า(15/2) จากนั้นนักลงทุนนำค่า P/E Ratio ที่หาได้ไปเทียบกับ P/E Ratio ของอุตสาหกรรมนั้นโดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.set.or.th
> ถ้า P/E Ratio ของบริษัทที่เราประเมิณมีค่าน้อยกว่า P/E Ratio ของอุตสาหกรรมนักลงทุนควร “ซื้อ” เพราะราคาที่แท้จริงของหุ้นถูกกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน
> ถ้า P/E Ratio ของบริษัทที่เราประเมิณมีค่ามากกว่า P/E Ratio ของอุตสาหกรรมนักลงทุนควร “ขาย” เพราะราคาที่แท้จริงของหุ้นแพงกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน
2. สายเทคนิค
สำหรับนักลงทุนสายนี้จะศึกษาพฤติกรรมของราคาหุ้นผ่าน “กราฟราคา” โดยจะอาศัยข้อมูลในอดีต วอลลุ่มการซื้อ อินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ในการคาดการณ์ราคาหุ้น และไม่ค่อยสนใจในรายละเอียดพื้นฐานของหุ้น
นักลงทุนสายนี้มีความเชื่อที่ว่า “ราคาจะสะท้อนทุกอย่างไว้หมดแล้ว” ซึ่งหมายความว่า พื้นฐานของกิจการจะดีหรือไม่ ผลประกอบการจะเป็นอย่างไร จะมีข่าวดีหรือข่าวร้าย ราคาจะเป็นตัวบอก Story ของหุ้นตัวนั้นเอง สำหรับการวิเคราะห์จุดซื้อ-จุดขายของสายเทคนิคที่เพิ่งเริ่มต้นนั้นมีแนวทางที่เป็นที่นิยมกันอยู่ 3 แบบคือ
(1) Buy on dip
จะวิเคราะห์จากแนวโน้มที่เป็นขาขึ้น(up trend) โดยราคาจะย่อตัวลงมาจังหวะที่ย่อตัวนักลงทุนจะใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) เป็นจุดที่ใช้เข้าซื้อ โดยนำราคาหุ้นย้อนหลัง (ส่วนมากจะใช้ 5,10,15,35,89,200 วัน) มาคำนวณ
(2) Channel Trade
จะวิเคราะห์จากแนวโน้มที่แกว่งตัวออกข้าง (Sideway) โดยจะตีกรอบแนวรับแนวต้านเพื่อวิเคราะห์จากนั้นก็ “ซื้อหุ้น” ที่แนวรับ และขายที่แนวต้าน วิธีนี้เป็นวิธีที่นักลงชอบมากที่สุดเพราะสามารถทำกำไรได้ง่ายและเร็ว
(3) Break out
วิธีนี้เป็นการ ซื้อหุ้น ที่ค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของความคุ้มทุนในการเข้าซื้อ เพราะจะซื้อหุ้นเมื่อราคาเริ่มขยับทะลุแนวต้านขึ้นไปเพื่อเป็นสัญญาณที่คอนเฟิร์มว่าหุ้นกำลังจะเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นขาขึ้น เหมือนเราซื้อหุ้นที่ต้นน้ำ ดังนั้นถ้าเปลี่ยนแนวโน้มได้จริงๆนักลงทุนจะได้หุ้นที่มีต้นทุนที่ต่ำมากๆและสามารถถือสร้างผลตอบแทนได้เยอะ
จากที่พี่ทุยได้นำแนวทางของ 2 แนวทางมาให้ลองเลือกกันดูว่า การลงทุน ตัวเราเหมาะกับแนวไหนมากกว่านั้น ต้องบอกก่อนว่าทั้งสองแนวทางสามารถทำกำไรได้เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเราถูกจริตกับแบบไหนมากกว่ากัน หรือถ้าเราถนัด 2 สองแบบเลยก็สามารถนำทั้ง 2 วิธีมาผสมได้เช่นกัน เช่น เราอาจจะใช้สายพื้นฐานหาหุ้นที่มีคุณภาพดีได้แล้ว จากนั้นเรานำสายเทคนิคมาใช้เพื่อหาจุดเข้าซื้อที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละครั้ง รวมถึงการกำหนดจุดขายเมื่อหุ้นมีการกลับเทรนด์ เป็นต้น
แต่สิ่งที่สำคัญที่นักลงทุนทุกคนต้องมี คือ ไม่ว่าจะวิเคราะห์ด้วยวิธีใดต้องกำหนดจุด cut loss ไว้เสมอ
Top Crypto Casinos
7bit casino
ShaynaMtMi
Breen
JoeteMtMi
JoeteMtMi
ChandaMtMi
AvivaMtMi
amord
DortheaMtMi
VerieeMtMi
GlynnisMtMi
SuzannMtMi
online games
casino games
SalliMtMi
DarsieMtMi
TandiMtMi
MabelleMtMi
TandiMtMi
JenneeMtMi
AbagaelMtMi
HerminaMtMi
ShaylaMtMi
AudreMtMi
HestiaMtMi
VerenaMtMi
DixieMtMi
LaureenMtMi
FranniMtMi
PearlMtMi
BobbieMtMi
LeslieMtMi
Ralph
Dorian
Twanna
Shannon
Roxy
HonorMtMi
TrudieMtMi
TeddieMtMi
JaynellMtMi
MarrileeMtMi
JenneeMtMi
DulceaMtMi
JenneeMtMi
CarolanMtMi
AshleighMtMi
FanyaMtMi
KelseyMtMi
CarolinMtMi
LaurellaMtMi
FifineMtMi
SheelaghMtMi
SheelaghMtMi
FifineMtMi
SheelaghMtMi
FifineMtMi
GwenoreMtMi