วันนี้พี่ทุยจะพาทุกคนไปตะลุยโคราช 2 วัน 1 คืน ด้วย รถ EV กัน ! จะประหยัดได้ขนาดไหน ? ชาร์จสะดวกมั้ย ? เดี๋ยวไปดูกัน
ส่วนใครที่มีหรือกำลังสนใจรถ EV แล้วยังเป็นกังวลเรื่องการชาร์จรถ ไม่กล้าขับไปไกล ๆ อยู่ พี่ทุยก็พิสูจน์มาให้แล้วด้วยทริปนี้ และขอบอกเลยว่า สบายใจได้ หายห่วง ! เพราะ “การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)” หรือ “EGAT” เขามีเครื่องชาร์จรถ EV ให้ตลอดระยะเวลาเดินทางเลย หาง่าย แล้วก็ใช้งานสะดวกสุด ๆ เลยล่ะ
DAY 1
วันนี้พี่ทุยกับผองเพื่อนทั้งหมด 4 คน จะพาทุกคนไปเที่ยวจังหวัดโคราช เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน (EV) ที่กำลังเป็นที่พูดถึงของคนยุคใหม่ในตอนนี้ พร้อมแจกแจงค่าใช้จ่ายในการเดินทาง กับรถยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน (EV) ว่าจะประหยัดมากแค่ไหน ? สะดวกมั้ยเวลาเดินทาง ? คิดว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงอยากรู้แน่ ๆ
พี่ทุยและผองเพื่อนสตาร์ทรถออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 6.00 น. เพื่อที่จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวแบบครบรสและจัดเต็มกันไปเลยจ้า
แต่ก่อนอื่นเลยกองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง แวะปั๊มน้ำมันทานข้าวกันก่อนเนอะ มื้อนี้ราคาเบา ๆ คนละ 70 บาทเท่านั้น อิ่มแล้ว ก็ไปลุยกันเล้ย
รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน (EV) ที่พี่ทุยเลือกใช้ภายในก็คือสะดวกสบาย มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย จะมีค่าแบตเตอรี่บอกเป็นเปอร์เซ็นต์แสดงที่หน้าจอ คล้าย ๆ กับแบตโทรศัพท์เลย เต็มถังที่ 100% วิ่งไปเรื่อย ๆ เปอร์เซ็นก็จะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเปอร์เซ็นต์เหลือน้อย ก็จะมีแจ้งเตือนว่าควรรีบไปชาร์จแบตได้แล้วน้า
แอบบอกก่อนว่าที่แรกที่จะพาไปเที่ยว สวยมาก!! เป็นที่ที่ใครมาเที่ยวที่จังหวัดโคราช จะต้องแวะมาถ่ายภาพกัน เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คเลยทีเดียว
First Stop
ถึงแล้วจ้า ที่นี่ก็คือ “อ่างพักน้ำตอนบน โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา (จุดชมวิวกังหันลม)” นั่นเอง
ตอนนี้ก็เป็นเวลา 9.00 น. ใช้เวลาจากกรุงเทพ ฯ มาถึง ประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทางรวมประมาณ 200 กิโลเมตร ถ้าชาร์จรถมาแบบเต็ม ๆ พี่ทุยว่าไม่ว่าจะเป็นรถ EV รุ่นไหนก็สามารถพามาถึงได้แบบสบาย ๆ รถที่พี่ทุยขับมาวันนี้วิ่งได้ประมาณ 300 กิโลเมตรก็วิ่งถึงแบบเหลือ ๆ เลย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความซิ่งของคนขับด้วยนะ ถ้าซิ่งมากก็อาจจะวิ่งได้น้อยกว่านั้น 5555
ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาต้นไม้ วิวดีมาก ถ่ายรูปสวยมาก พี่ทุยแชะไปเบา ๆ 100 รูป ฮ่า ๆ และไม่ได้มีดีแค่วิวสวยนะ แต่ประโยชน์เขามากมายเลย เพราะที่นี่เขาเป็นเหมือนแบตเตอรี่สำรองที่เก็บน้ำไว้ใช้ผลิตไฟฟ้ายามจำเป็น ถือเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่าสูงสุด และที่สำคัญไม่มีค่าเข้าชม ฟรีตลอดพื้นที่เลยจ้า เพราะเป็นพื้นที่ของ กฟผ.
อย่างที่ทุกคนเห็นว่าอ่างเก็บน้ำตอนบนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก จะให้เดินจนครบรอบก็คงจะเคล็ดขัดยอกเที่ยวต่อไม่ไหว เพื่อน ๆ สามารถเช่าจักรยานปั่นชมวิวทิวทัศน์ได้เลย ราคาถูกมาก!! เพียง 40 บาท/ชั่วโมงเท่านั้นเอง
นอกจากจักรยานแล้ว ที่นี่ยังมีรถกอล์ฟให้เช่าด้วย ราคา 200 บาท/ครึ่งชั่วโมง พี่ทุยเลือกเป็นรถกอล์ฟ เพราะมากัน 4 คน หาร 4 ก็เหลือแค่คนละ 50 บาท ถูกไม่แพ้จักรยานเลย ใครมาหลายคนหรือว่ามากับครอบครัวมีผู้ใหญ่มาด้วย ต้องการความสะดวกสบาย รถกอล์ฟก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลย เพราะทั้งขับสบาย ถ่ายรูปเท่ ได้รูปไปอวดเพื่อน ๆ บนโซเชียล ดูพี่ทุยสิเท่มั้ยล่ะ
ระหว่างทางที่ขับรถไปก็แวะไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกันสักหน่อย “ขอให้หุ้นปัง ๆ ขอให้หุ้นปัง ๆ” ฮ่า ๆ
มาถึงลำตะคองแล้วจะไม่ให้ถ่ายภาพกังหันลมยักษ์เก็บไว้ก็กะไรอยู่ ถือว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ พี่ทุยแอบเห็นในโซเชียลใครมาจะต้องแชะภาพคู่กับกังหันลมกัน ซึ่งทุ่งกังหันลมนี้ไม่ใช่กังหันลมธรรมดานะ แต่เป็นพื้นที่ที่มีพลังลมดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย เพราะมีลมพัดผ่านตลอดทั้งปี จึงทำให้กังหันลมหมุนอยู่ตลอดเวลานั่นเอง แล้วอีกอย่างหนึ่ง คือ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาด้วย เป็นโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยเลย
วิวทิวทัศน์สวยมากจริง ๆ ยิ่งมาช่วงหน้าหนาวเหมือนพี่ทุย อากาศดีมาก เหมาะกับการปั่นจักรยาน รับลมชมวิว พี่ทุยแนะนำให้เพื่อน ๆ มาเที่ยวที่นี่กันนะ ไม่มีผิดหวังแน่นอน
Second Stop
มาตะลุยกันต่อเลยดีกว่า พี่ทุยจะพาเพื่อน ๆ ไปที่ผายายเที่ยง เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา จากด้านบนมองลงมาจะเห็นวิวของเขื่อนลำตะคองและกังหันลมได้อย่างชัดเจน สามารถซื้อตั๋วขึ้นรถสองแถวจากที่เขื่อนลำตะคองได้เลย คนละ 20 บาท นั่งจากเขื่อนลำตะคองไปไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงผายายเที่ยงแล้ว
นอกจากจะเพลิดเพลินกับการชมวิวแล้ว ที่นี่เขามีกิจกรรมปลูกป่าให้ทำด้วยนะ เป็นการปลูกป่าโดยใช้หนังสติ๊ก ยิง “เมล็ดมะค่าโมง” ซึ่งเป็นต้นไม้ทางเศรษฐกิจ และเป็นที่ต้องการอย่างมากในวงการเกษตร พี่ทุยซื้อชุดปลูกป่ามาเพียงชุดละ 20 บาทเท่านั้น สนุกแถมได้ปลูกป่าอีกด้วย
Third Stop
วันนี้ขับรถมาทั้งวัน แวะไปชาร์จแบตรถกันหน่อยดีกว่า ที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากผายายเที่ยง ที่นี่เขามีบริการเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าประหยัดพลังงาน (EV) เพียงแค่โหลดแอป ฯ EleXA ก็สามารถชาร์จได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะในแอป ฯ มีฟังก์ชันที่แสดงสถานะการชาร์จแบบ Real-time ทำให้ระหว่างที่รอรถชาร์จเราก็สามารถแวะไปทานข้าวกันก่อนได้ แล้วถ้าอยากรู้ว่าชาร์จไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็แค่เปิดแอป ฯ ดูเท่านั้นเอง ใช้งานง่ายมาก
พี่ทุยกับเพื่อน ๆ แวะทานข้าวกันที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา เดินจากที่ชาร์จแบตรถมา 20 ก้าวก็ถึงแล้ว ร้านนี้มีชื่อว่าครัวตาตีบ อร่อยทุกเมนู มื้อนี้อยู่ที่ 575 บาท หารกับเพื่อนอีก 3 คน รวมพี่ทุยเป็น 4 คน มื้อนี้ตกคนละ 144 บาทเท่านั้นเอง อิ่มอร่อย รถชาร์จแบตเต็ม 100% พร้อมเที่ยวต่อจ้า
ที่ที่พี่ทุยจะพามาสนุกกันต่อก็คือที่ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง (EGAT Learning Center) ที่นี่เขาอัดแน่นไปด้วยความรู้เรื่องพลังงานต่าง ๆ จะบอกว่าที่นี่เขาไม่ได้ให้ความรู้อย่างเดียวนะ เขายังมีภารกิจและเกมให้เล่นเยอะมาก บอกเลยว่าน่าตื่นตาตื่นใจ ใครมาเป็นเดอะแก๊งค์ หรือว่ามากับครอบครัว บอกเลยแข่งเล่นเกมกันจนตีกันไปข้างแน่นอน ฮ่า ๆ
ก่อนอื่นเลยก็ต้องวัดอุณหภูมิ ลงทะเบียน ยื่นใบรับรองว่าเราได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว เพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 กันนะทุกคน
พอเข้ามาถึงข้างในแล้ว เราก็ต้องไปลงทะเบียนผู้กล้ากันก่อน เพื่อที่จะใช้สะสมคะแนนที่เล่นเกมตามโซนต่าง ๆ เมื่อทำภารกิจเสร็จ ผลคะแนนก็จะปรากฏตอนท้ายว่าใครคือผู้ชนะ
ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง มีด้วยกัน 7 โซน
Plaza Nova – ลานผู้กล้า เป็นจุดลงทะเบียน
Lamtakong – Energy Quest ภารกิจพิชิตแดนพลังงาน
New Frontier – ดินแดนพลังงาน
New Discovery – ดินแดงพลังงานแห่งอนาคต
EGAT Energy Quest – ภารกิจผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย
The Balance – ฐานบัญชาการสมดุลพลังงาน
The Happiness of Lamtakong – ม่วนชื่นลำตะคอง
โซนนี้จะเป็นการรับชมภาพยนตร์ 7 มิติ เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า ค่อนข้างอลังการดาวล้านดวง รูป รส กลิ่นเสียง จัดเต็มมาก เก้าอี้โยกเยกได้ สนุกเลย พี่ทุยชอบ ฮ่า อีกทั้งยังเป็นโรงหนังที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานด้วยนะ
ที่นี่นอกจากจะให้ความรู้เรื่องพลังงานต่าง ๆ การตกแต่งแต่ละโซน ก็ดีงามไม่แพ้กัน ให้พี่ทุยอยู่ใน EGAT Learning Center ทั้งวันก็อยู่ได้
ทุกโซนของที่นี่จะมีภารกิจให้เราเล่น เป็นที่ที่ให้ความรู้แบบไม่น่าเบื่อ ถ้าเป็นเรียนในห้องเรียนพี่ทุยคงหลับไปแล้วแน่ ๆ นับว่าเป็นแหล่งความรู้นอกห้องเรียนที่ดีแห่งหนึ่งเลยล่ะ
มาเที่ยวกับเพื่อน ๆ ก็สนุก พาลูก ๆ หลาน ๆ มา เด็กน้อยต้องชอบมากแน่ ๆ แสงสีของเขาคือจัดเต็มมาก พี่ทุยถ่ายรูปทุกมุมจนเมมเต็มไปเลยจ้า
ขอถ่ายอีกภาพละกัน ตรงนี้นอกจากจะถ่ายรูปสวยแล้ว ตามผนังโค้ง ๆ ยังให้ความรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดพลังงาน กฟผ. ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคตอีกด้วย
มาถึงลำตะคองแล้ว จะไม่แวะเที่ยวที่นี่สักหน่อยคงไม่ได้ ‘โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา’ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กฟผ. (EGAT) ซึ่งนอกจากจะลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตแล้ว ยังจ่ายไฟฟ้าได้เร็วและเสถียรไม่แพ้ใครอีกต่างหาก
และความเจ๋งที่ทำให้พี่ทุยต้องแวะมาเที่ยวที่นี่ก็เพื่อสิ่งนี้ เพราะที่นี่เขาเป็นโรงไฟฟ้าใต้ดินเพียงแห่งเดียวและแห่งแรกของไทย ขอแวะสักหน่อยก็แล้วกัน
บรรยากาศข้างในเล่นเอาประทับใจทีเดียว เพราะมันโอ่อ่ามากเลยทุกคน เป็นทางเดินใต้ดินปูนเปลือยที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ใครจะมาแชะภาพหาทำคอนเทนต์ล่ะก็อย่ามองข้ามที่นี่เชียวล่ะ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการเข้าชมโรงไฟฟ้าใต้ดินจะต้องติดต่อทาง กฟผ. (EGAT) ก่อนนะ เพราะว่าบริเวณข้างในโรงไฟฟ้าจะเป็นพื้นที่ควบคุม ต้องมีเจ้าหน้าที่พาเข้าเท่านั้นจ้า
ปกติแล้วโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้โดยต้องติดต่อล่วงหน้า แต่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จึงงดให้เข้าชมชั่วคราว ในอนาคตสำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดต่อขอเข้าชมได้ที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา โทร. 044-222573 ได้เลย
วันนี้เราก็สนุกกันมามากพอแล้ว ไปเที่ยวกันมา 3 สถานที่ ถึงเวลาที่จะกลับที่พักไปพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมตะลุยเที่ยวกันต่อในวันที่ 2
พี่ทุยกับผองเพื่อนเลือกที่จะมากางเต็นท์กันที่ท้ายเขื่อนลำพระเพลิง เพราะช่วงนี้อากาศดีมาก เพื่อน ๆ เสิร์ชหาใน Google ได้เลยว่า จุดกางเต็นท์ท้ายเขื่อนลำพระเพลิง มีที่ให้กางเต็นท์เยอะมาก ๆ เสียค่าที่พักวันนี้ 1 คืน 250 บาท/คน คืนนี้พักผ่อนนอนฟังเสียงคลื่นน้ำไปก่อน แล้วมาเจอกันพรุ่งนี้เช้าจ้า
DAY 2
เช้าวันที่ 2 ได้เริ่มขึ้นแล้ว เรามากันที่ Bonanza Exotic Park เป็นสวนสัตว์ขนาดเล็ก พื้นที่ประมาณ 100 ไร่ เสียค่าเข้าชม 150 บาท/คน บัตรเข้าชม 1 ใบ สามารถแลกซื้อแครอท เพื่อนำไปเลี้ยงน้อง ๆ ได้ 1 ถุง พาพี่ทุยมาสวนสัตว์ ก็เหมือนได้พาพี่ทุยมาหาเพื่อน ๆ ฮ่า
มาต่อกันที่คาเฟ่เลย Daydreaming Café Khaoyai เป็นคาเฟ่ยอดฮิตที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาในโคราชเหมาะกับวันมาพักผ่อนสุด ๆ บรรยากาศในร้านตกแต่งได้คลาสสิค มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้นั่งเล่น มีลานสเก็ตบอร์ดให้เพื่อน ๆ ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน มีขายทั้งเครื่องดื่มและอาหารหลากหลายมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอิตาเลี่ยน
พี่ทุยไม่รอช้ารีบสั่งอาหารมาแบบจุก ๆ ทั้งพิซซ่า พาสต้า และสปาเก็ตตี้ หน้าตาดี รสชาติอร่อยเลิศ ให้ 10 ดาวไปเลย มื้อนี้กินแบบราชา สิริรวมแล้ว 830 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 207 บาทเท่านั้นเอง เมื่อเติมพลังแล้วก็พร้อมไปลุยต่อที่สุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ ฯ กันเพื่อน ๆ
Fourth stop
สงสัยละสิ นี่ริสแบนอะไร? พี่ทุยพาเพื่อน ๆ มาตะลุย Activity กันที่ “ไร่ทองสมบูรณ์คลับ” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่ทุกคนต้องมาเที่ยวหาความสนุก เสียค่าเข้า 150 บาท/คน ซึ่งบัตร 1 ใบสามารถเล่นเครื่องเล่นฟรีได้ 1 อย่าง
ไร่ทองสมบูรณ์คลับมีพื้นที่มากกว่า 350 ไร่ เพราะฉะนั้นให้เดินเข้าไปคงไม่ได้เล่นเครื่องเล่นแน่ ๆ ที่นี่เข้ามีบริการรถรางฟรี ระหว่างทางก็ชมวิวที่เขียวขจีของหุบเขาไปเรื่อย ๆ ตลอดสองข้างทาง
ที่นี่มีเครื่องเล่นหลายอย่างมาก ๆ ทั้งขับ ATV, ยิงปืนเลเซอร์, ฝึกขี่ม้า, วัวจักรกล, ยิงปืนเป้านิ่ง, สนามบีบีกัน, ถ่ายภาพสไตล์คาวบอย, สกีบก, กระเช้าลอยฟ้า และอีกเยอะแยะมากมาย เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมความสนุกขนาดใหญ่ของโคราชเลย พี่ทุยก็ไม่รอช้าตะลุยเครื่องเล่นทันที พี่ทุยเลือกเล่นเป็นสกีบก เพราะว่าเครื่องเล่นนี้แถมฟรีนั่งกระเช้าลอยฟ้าด้วย
ของแถมก็จะวิวสวยประมาณนี้เลย
พี่ทุยเลือกเล่นไป 1 อย่างเพราะว่าถ้ากลับกรุงเทพฯ เย็นกว่านี้รถต้องติดมากแน่ ๆ พี่ทุยแนะนำเลยหากเพื่อน ๆ มีเวลาลองแวะมาสนุกกันที่ไร่ทองสมบูรณ์คลับนะ สนุกแบบเต็ม 100 แน่นอน
ได้เวลากลับกรุงเทพฯ กันแล้วทุกคน เป็น 2 วัน 1 คืน ที่สนุกครบเครื่องมาก ๆ ได้ทั้งความรู้ ความสนุกมากมาย ขากลับพี่ทุยขอแวะชาร์จแบตรถจากตู้ชาร์จ EleX by EGAT ที่ปั๊ม PT ปากช่อง ก่อนนะ
จะบอกว่าเดินทางด้วยรถ EV สะดวกสบายมากกว่าคิด เพราะว่า กฟผ. (EGAT) เขามีเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าครอบคลุมหลายพื้นที่ตลอดการเดินทาง ไม่ต้องกลัวแบตจะหมดระหว่างทาง สบายและประหยัดค่าใช้จ่ายขึ้นเยอะมาก เพียงแค่โหลดแอปฯ EleXA ก็สามารถใช้งานคู่กับสถานีชาร์จได้เลย หรือจะค้นหาสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุดผ่านแอปฯ ก็ได้นะ
ตลอดระยะเวลา 2 วันขับรวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 500 กม. รวมทั้งระยะทางเดินทางไปกลับจากกรุงเทพ จนถึง ลำตะคอง แล้วก็มีวนรถอยู่แถว ๆ นั้นเล็กน้อย รวมค่าชาร์จแบตไปทั้งหมด 2 รอบรวม 512 บาท หรือคิดเป็นกิโลเมตรละ 1.024 บาท ตกคนละ 128 บาทเท่านั้น ! ถ้าเปรียบกับรถน้ำมันตกเฉลี่ยกิโลเมตรละ 2-3 บาท พี่ทุยว่ารถ EV ประหยัดเอาเรื่องอยู่นะ
แต่ก็อาจจะต้องเผื่อเวลาตอนชาร์จแบตสักเล็กน้อย เพราะต้องชาร์จครั้งนึงประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง แต่สำหรับใครที่เอารถ EV ไปใช้ในชีวิตประจำวันก็ใช้งานไปกลับที่ทำงาน กลับมาก็ชาร์จทิ้งไว้ตอนกลางคืนตื่นเช้ามาก็ไปใช้งานต่อได้เลย ก็น่าจะลงตัวดีเหมือนกัน
สรุปแล้วทริปนี้ใช้เงินไปแค่คนละพันกว่าบาทเท่านั้น ! และส่วนที่ช่วยประหยัดได้เห็นภาพที่สุดก็คงเป็นเจ้า “รถ EV” นี่ล่ะ เพราะถ้าเราไปด้วยรถยนต์ธรรมดาในระยะทางเท่ากัน ค่าน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท แต่รถ EV กลับช่วยประหยัดลงไปได้ถึง 50%
ใครที่กังวลเรื่องการชาร์จอยู่ ตอนนี้ก็น่าจะเห็นภาพละเนาะว่า กฟผ. (EGAT) เขาซัพพอร์ตผู้ใช้งานขนาดไหน ทั้งมีจุดให้บริการเยอะ ราคาย่อมเยา และก็ใช้งานง่ายแบบนี้ เห็นทีเพื่อน ๆ ต้องเอารถ EV ไปออกโรงต่างจังหวัดบ้างแล้วล่ะ จริงมั้ย !
โอ้ะ และก็อย่าลืมดาวน์โหลดแอป ฯ EleXA เพื่อความสะดวกกันด้วยนะทุกคน เพราะ EleXA เค้ามีฟังก์ชันในการค้นหาสถานีชาร์จพร้อมบอกจำนวนตู้ชาร์จที่ว่าง อีกทั้งยังแสดงสถานะการชาร์จให้เราสามารถเช็กเปอร์เซ็นต์แบตได้แบบ Real-time ด้วย สะดวกขนาดนี้ ผู้ใช้งานรถ EV จะขาดแอป ฯ นี้ไปได้ยังไง
ดาวน์โหลด “EleXA” เพื่อนคู่ใจ ผู้ใช้ รถ EV