[เจาะลึก] กองทรัสต์ HYDROGEN ลงทุนในคลังสินค้า และโรงงานของเครือสหพัฒน์

ถ้าพูดถึงสินค้าอุปโภคบริโภค “เครือสหพัฒน์” นับว่าเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศเลยล่ะ เพราะทั้งอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน แถมยังมีบริษัทในเครือกว่า 200 บริษัท และที่สำคัญ ยังมี SPI เป็นโฮลดิ้งหลักของเครือฯ ที่ดำเนินธุรกิจลงทุน และพัฒนาสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ คลังสินค้า โรงงานให้เช่า รวมไปถึงธุรกิจอสังหาฯ อื่น ๆ ในหลากหลายประเภท ซึ่งล่าสุด SPI ก็ได้จัดตั้งผู้จัดการกองทรัสต์ Hydrogen REIT Management และเตรียมออก REIT กองแรกในชื่อ “HYDROGEN REIT” เปิดโอกาสให้พวกเราสามารถเข้าร่วมลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานได้

“HYDROGEN REIT” ลงทุนอะไรบ้าง ? มีอะไรที่น่าสนใจ ? ตามพี่ทุยมาเลย !!

เพื่อน ๆ รู้กันหรือไม่ว่า บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น SPI ที่นักลงทุนคุ้นเคยเนี่ย เป็น Holding Company หลักของเครือสหพัฒน์ ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 50 ปีแล้วนะ 

ก่อนอื่นพี่ทุยอยากจะพาทุกคนไปรู้จักธุรกิจภายใต้การบริหารของเครือสหพัฒน์ซะก่อน โดยประกอบไปด้วย 3 ธุรกิจหลัก

1. ธุรกิจการลงทุนในธุรกิจสินค้าอุปโภค
2. ธุรกิจการลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
3. ธุรกิจการพัฒนาสวนอุตสาหกรรม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ และลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ 

ซึ่ง SPI เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ถือธุรกิจต่าง ๆ มากมายในเครือสหพัฒน์ รวมถึงส่วนธุรกิจการพัฒนาสวนอุตสาหกรรม เพิ่งครบรอบ 50 ปีไปไม่นานมานี้เอง เรียกว่าอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานเลย

และแน่นอนว่าด้วยเครือข่ายทางธุรกิจที่กว้างขวาง และประกอบกิจการหลากหลาย ดังนั้น เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร

ดังนั้น SPI เองจึงมีการพัฒนาคลังสินค้าสำหรับหมุนเวียนจัดเก็บสินค้า และโรงงานสำหรับให้บริษัทในเครือสหพัฒน์และพันธมิตรคู่ค้าต่าง ๆ เช่า เพื่อให้บริษัทเหล่านั้นสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร

โดยล่าสุดทาง SPI ได้นำคลังสินค้าและโรงงานบางส่วนออกมาขายเข้ากองทรัสต์ฯ (REIT) ที่มีชื่อว่า HYDROGEN ซึ่งถือว่าเป็น REIT กองแรกของเครือสหพัฒน์เลยก็ว่าได้

HYDROGEN กองทรัสต์ กองแรกของเครือสหพัฒน์

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไฮโดรเจน หรือ HYDROGEN REIT จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 2,845.34 ล้านบาท ได้แก่

1. [กรรมสิทธิ์] คลังสินค้าโครงการไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี ลาดกระบัง

ตั้งห่างจากสถานีคัดแยกสินค้ากล่อง (ตู้คอนเทนเนอร์) ICD ลาดกระบัง เพียง 1 กิโลเมตร และใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมเพียง 4.5 กิโลเมตร หรือจะตรงเข้าสนามบินสุวรรณภูมิก็ห่างเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น

2. [สิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี] โรงงานโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา

ตั้งอยู่ในเขต EEC ที่ถือว่าเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมในอนาคตของไทย ใกล้ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเพียง 7 กิโลเมตร

3. [สิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี] โรงงานโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ แม่สอด

อยู่ในเขตส่งเสริมการลงทุนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของไทย ที่สะดวกต่อการส่งออกสินค้า อีกทั้งยังช่วยให้สามารถเข้าถึงแรงงานจากประเทศพม่าได้

4. [สิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี] โรงงานโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี

ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) ที่เป็นเส้นทางหลักเชื่อมไปยังปอยเปต ประเทศกัมพูชา

จุดเด่นของ HYDROGEN REIT ที่ทำให้เป็นอีก REIT ที่น่าสนใจและสามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องได้ก็ คือ

1. ที่ตั้งของทรัพย์สินอยู่ในทำเลศักยภาพ

ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HYDROGEN จะเข้าลงทุน ล้วนตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมทั้งหมด โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือการ Support ให้การขนส่งและกระจายสินค้าเป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงบางส่วนยังอยู่ในพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษของภาครัฐด้วย

2. สามารถจัดหาผู้เช่าคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากบริหารงานโดย SPI ผู้เช่าส่วนใหญ่จึงมาจากบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่มีจำนวนมากกว่า 200 บริษัท ด้วยเครือข่ายทางธุรกิจที่กว้างขวาง รวมไปถึงคู่ค้านอกเครือก็ยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดี กองทรัสต์ HYDROGEN จึงหายห่วงเรื่องความสามารถในการหาผู้เช่าคุณภาพ

3. ผู้เช่าอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ กระจายตัวในหลายอุตสาหกรรม และเชื้อชาติ

นอกจาก SPI จะสามารถหาผู้เช่าที่ดีมีคุณภาพได้แล้ว ถ้าหากเราไปดูการกระจายตัวของประเภทธุรกิจของผู้เช่า ก็จะพบว่าอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม และหลากหลายเชื้อชาติ จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงไปตัว

จาก 2 ปัจจัยข้างต้นนี้ จึงทำให้อัตราการเช่าเฉลี่ย ณ ไตรมาส 2/2565 ของทั้ง 4 โครงการอยู่สูงถึง 99.20% ทำให้หายห่วงเรื่องปัญหาการหาผู้เช่า

4. อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่มั่นคงอยู่ที่ระดับประมาณ 7.0%

ประมาณการอัตราผลตอบแทนปีแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2566 อยู่ที่ประมาณ 7.0%* ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ

นอกจากนี้รูปแบบการเข้าลงทุนของกองทรัสต์ HYDROGEN ประกอบด้วย Freehold 70% และ Leasehold 30% (30 ปี) แปลว่า “การลดทุน” (หรือการคืนเงินต้นบางส่วนจากเงินปันผล) ของกองจะลดลงในอัตราที่น้อยกว่า REIT ส่วนมากที่เป็นแบบ Leasehold 100%

*อ้างอิงจากรายงาน และข้อมูลทางการเงินตามสถานการณ์สมมติสำหรับงวด 12 เดือน ช่วงเวลาประมาณการวันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึง 31 ธ.ค. 2566

5. โอกาสการเติบโตในการลงทุนในอนาคตบนทรัพย์สินของ SPI และจากบุคคลภายนอก

กองทรัสต์ HYDROGEN มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าที่ดิน คลังสินค้า โรงงาน และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ที่ SPI เป็นเจ้าของ และจากบุคคลภายนอก และมีโอกาสที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความมั่นคงและขยายขนาดของกองด้วยในอนาคต

ตลอดระยะเวลาการจองซื้อหน่วยทรัสต์ HYDROGEN ในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย.ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก แม้ปัจจุบันจะได้ปิดรับจองซื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ใครที่พลาดโอกาสไป และสนใจอยากเข้ามาร่วมเติบโตไปกับ HYDROGEN REIT สามารถเข้ามาซื้อหน่วยทรัสต์ได้ในตลาดรองผ่าน App Streaming โดยคาดว่า HYDROGEN จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงกลางเดือน ธันวาคม นี้

เพื่อน ๆ ที่สนใจ HYDROGEN REIT สามารถติดตามข่าวสารหรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย www.sec.or.th

คำเตือน : ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน