[สรุปโพสต์เดียวจบ] เจาะลึกโปรเจค ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2050

[สรุปโพสต์เดียวจบ] เจาะลึกโปรเจค ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2050

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • โปรเจคญี่ปุ่นเป็นแชมป์โลก 2050 เป็นแผนงานที่ตั้งเอาไว้ล่วงหน้า 45 ปี มีการกำหนดเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลาไว้อย่างชัดเจน เช่น ปี 2022 ต้องเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ปี 2030 ต้องเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย
  • แผนงานมีความยืดหยุ่น มีการพัฒนาครอบคลุมไม่ใช่แค่เรื่องในสนาม แต่มีทั้งโค้ช สมาคม การทำธุรกิจ ไปจนถึงฟุตบอลระดับรากหญ้า และมีปรับเปลี่ยนรีวิวแผนงานทุกปี
  • จะว่าไปแล้ว ญี่ปุ่นมีโอกาสเป็นแชมป์โลก 2050 สูง เพราะทำได้ทุกอย่างตามแผนงานบนพื้นฐานความเป็นจริง นักเตะมีคุณภาพสูง แข็งแกร่ง กว่าครึ่งทีมเล่นอยู่ในเวทียุโรป

 


รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

หนึ่งในผลการแข่งขันที่ช็อกผู้ชมทั่วโลกในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์หนนี้ คงหนีไม่พ้นเกมที่ญี่ปุ่นพลิกกลับมาชนะเยอรมนีไปด้วยสกอร์ 2-1 จนหลายคนเริ่มวาดฝันไปถึง ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก

ฟอร์มการเล่นที่สู้ไม่ถอยแบบนี้เป็นสไตล์ของขุนพลซามูไรบลูอยู่แล้ว หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่รู้หรือไม่ว่ามันคือ การวางแผนงานที่มีวิสัยทัศน์และลงมือทำอย่างต่อเนื่องของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น

แผนงานนี้น่าสนใจมาก มีการวางโครงสร้างการพัฒนาฟุตบอลญี่ปุ่นไว้ทั้งระบบ เป้าหมายที่สำคัญคือ การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้ได้ภายในปี 2050

พี่ทุยมาสรุปรายละเอียดของโปรเจคนี้ของญี่ปุ่นให้ฟังกัน ว่าเป็นแบบไหน แล้วตอนนี้เขาไปไกลถึงไหนกันแล้ว 

โปรเจคญี่ปุ่นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2050

ญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความมีระเบียบวินัยและการทำงานหนักอย่างจริงจังมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่ง DNA นี้ก็ยังได้รับการถ่ายทอดมาไว้ในแผนการพัฒนาของสมาคมฟุตบอลของญี่ปุ่น (JFA) ด้วย

การตั้งเป้าว่าจะเป็นแชมป์โลกในปี 2050 ไม่ได้เพิ่งมาตั้งเร็ว ๆ นี้ แต่สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นมีการประกาศ (The JFA Declaration) เอาไว้ตั้งแต่ปี 2005 (ล่วงหน้า 45 ปี) ควบคู่ไปกับการสร้างฐานแฟนบอลที่รักฟุตบอลอย่างจริงจังอย่างน้อย 10 ล้านคน

The JFA Declaration

ถ้าฟังดูเผิน ๆ ก็ดูไม่ได้ต่างอะไรกับแผนพัฒนาฟุตบอลของชาติอื่น ๆ แต่สิ่งที่ต่างกันของญี่ปุ่น คือ มีแนวทางการดำเนินงานแบบชัดเจน จริงจัง และจับต้องได้

ญี่ปุ่นวางเป้าหมายไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนว่าในทุก ๆ ช่วง 10 ปี หรือ 15 ปีจะต้องเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมอะไรบ้าง เพื่อให้มั่นใจว่ายังคงอยู่บนเส้นทางที่จะไปสู่เป้าหมายที่วาดหวังเอาไว้ เช่น 

  • ปี 2015 ญี่ปุ่นต้องเป็น 1 ใน 10 สมาคมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก และมีฐานแฟนบอลที่รักฟุตบอลอย่างจริงจังให้ได้ 5 ล้านคน 
  • ปี 2025 ญี่ปุ่นจะต้องคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในรุ่นเยาวชนไม่เกิน 20 ปี หรือ 17 ปี และจะต้องเป็นแชมป์ฟุตบอลชายหาด
  • และในปี 2030 ญี่ปุ่นจะต้องเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ และขยายฐานแฟนบอลที่รักฟุตบอลแบบจริงจังให้ได้ 8 ล้านคน (ตอนนี้มีอยู่ 6.4 ล้านคน) และติด 1 ใน 3 สมาคมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก

พอเห็นแบบนี้ ก็ใช่ว่าหลังจากปี 2030 ทาง JFA จะไม่มีแผนการอะไรเลย เพราะในแผนมีการบอกไว้ว่าจะต้องมีการทบทวนเป้าหมายกันใหม่ ว่าสิ่งที่ทำมาจะต้องแก้ไขหรือเพิ่มเติมอะไร เพื่อให้ถึงเป้าหมายการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2050 และขยายฐานแฟนบอลให้ถึง 10 ล้านคน

ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก

ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก

ที่มา https://www.jfa.jp

โปรเจคที่ดีต้องยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้

นอกจากแผนระยะยาวแล้ว JFA ยังมีแผนระยะกลาง (Mid-term Plan) แบบราย 5 ปี ว่าจะต้องทำอะไรก่อน-หลัง ต้องพัฒนาอะไร และที่สำคัญคือมีการยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เพื่อใช้งานได้จริง อะไรที่ไม่เป็นไปตามเป้าก็มาแก้ไขแผนแบบละเอียดเป็นรายปี รีวิวกันทุกปี

พอมีการวางแผนงานที่จับต้องได้ ทำได้จริง ก็เลยทำให้วงการฟุตบอลของญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นแบบรวดเร็วมากตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

และตอนนี้แผนระยะกลางที่ใช้อยู่ คือ แผนระยะกลางปี 2022-2025 มีตั้งแต่การพัฒนาระดับฟุตบอลอาชีพ ฟุตบอลรากหญ้า ไปจนถึงพัฒนาระบบโค้ช ผู้ตัดสิน และพัฒนาฟุตบอลในเชิงธุรกิจ

JFA ยังมีแผนระยะกลาง (Mid-term Plan)

ที่มา https://www.jfa.jp/eng/about_jfa/plan/

สิ่งที่น่าสนใจและชวนให้เราติดตาม คือ แผนนี้ได้กำหนดว่าในฟุตบอลโลก 2022 นี้ คาดหวังไว้ว่าจะต้องไปให้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย (4 ปีที่แล้วที่รัสเซีย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย)

ฟุตบอลโลกปี 2050

แล้วญี่ปุ่นมีโอกาสเป็นแชมป์โลกปี 2050 มากแค่ไหน ?

ปี 2022 ที่พี่ทุยมาสรุปให้ทุกคนฟังตอนนี้ ถ้าเราลองย้อนกลับไปดูที่จุดเริ่มต้นในปี 2005 จะพบว่าแผนพัฒนาของ JFA นั้นเติบโตไปมาก มีเส้นทางที่มั่นคง และมีโอกาสสำเร็จตามเป้าหมายเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2050 ได้สูงมาก

เหตุผลก็คือ ที่ผ่านมาญี่ปุ่นได้โควต้าเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกมาตลอด ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อปี 1998 แถมประสิทธิภาพการทำงานของ JFA ยังได้รับการยอมรับในระดับโลก

ส่วนผลงานในระดับฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 20 ปีที่ผ่านมา สามารถเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ทั้งหมด 3 ครั้ง

  • ปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม
  • ปี 2010 ที่แอฟริกาใต้
  • และ ปี 2018 ที่รัสเซีย

ทำให้เป้าหมายฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ที่จะต้องไปให้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ดูน่าจะไม่ไกลเกินเอื้อม แถมขุมกำลังนักเตะของญี่ปุ่นเองก็มีมาตรฐานที่สูงขึ้น กว่าครึ่งทีมเป็นนักฟุตบอลที่ค้าแข้งอยู่ในทวีปยุโรป

ลีกฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่น (J-League) ที่เป็นกระดูกสันหลังของการพัฒนานักฟุตบอลญี่ปุ่นมาตลอด ก็เข้มแข็งและได้รับการยอมรับมากขึ้น จนส่งออกนักฟุตบอลไปค้าแข้งในยุโรปได้เป็นจำนวนมาก

โดยมีตัวอย่างชัดเจนล่าสุด คือ คาโอรุ มิโตมะ ที่ย้ายจาก Kawasaki Frantale ในญี่ปุ่น ไปโชว์ฟอร์มร้อนแรงให้กับ Brighton and Hove Albion ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

คาโอรุ มิโตมะ

ที่มา: https://www.eurosport.com

พอเราเห็นแผนงานที่ชัดเจนและจริงจังแบบนี้ พี่ทุยว่าหลายคนคงเลิกสงสัยกันแล้ว ว่าทำไมผลงานของทีมชาติญี่ปุ่นถึงได้โดดเด่นและเป็นความภูมิใจของคนเอเชียได้ขนาดนี้

หวังว่าแผนงานของญี่ปุ่นนี้ น่าจะสร้างแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างให้กับทีมชาติไทย และสมาคมฟุตบอลไทยได้พัฒนาเพื่อก้าวไประดับโลกกับเขาบ้าง

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile