"ความเสี่ยง" จากการลงทุน

วิธีจัดการ “ความเสี่ยง” ของการลงทุน

1 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • การลงทุนนั้นมี “ความเสี่ยง” ไม่ว่าจะสินค้าการเงินอะไรก็ตาม เรามักจะเห็นคำเตือนกันอยู่บ่อย ๆ ประมาณว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน”
  • เราต้องจัดพอร์ตการลงทุนให้ดี หรือถ้าจัดพอร์ตไม่เป็น หรือไม่มีเวลามากพอ แนะนำให้ลงทุนผ่านกองทุนรวม เพราะกองทุนเค้าจะทำ Asset Allocation ให้อยู่แล้ว ถ้าใครลงกองทุนรวมก็จะได้ประโยชน์เรื่องนี้ไปเต็ม ๆ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

อย่างที่ใครหลายคนรู้กันอยู่แล้วว่า การลงทุนนั้นมี “ความเสี่ยง” ไม่ว่าจะสินค้าการเงินอะไรก็ตาม เรามักจะเห็นคำเตือนกันอยู่บ่อย ๆ ประมาณว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” บทความนี้พี่ทุยจะมาแยกประเภทของความเสี่ยงกันให้เห็นแบบตามตำรากันเลยว่า ความเสี่ยงที่เราต้องเจอเวลาที่เราลงทุนมีอะไรบ้าง ?

“ความเสี่ยง” มีกี่แบบ

ความเสี่ยงมีทั้งหมด 2 แบบ คือ

1. ความเสี่ยงที่เป็นระบบ (Systematic Risk)

ความเสี่ยงชนิดนี้เป็นความเสี่ยงที่เราทำอะไรกับมันไม่ได้ ไม่ว่าเป็นใครมาจากไหนก็ต้องเจอ เช่น พวกความเสี่ยงจาก “อัตราดอกเบี้ย” ที่ไม่รู้จะถูกปรับขึ้นหรือลงเมื่อไหร่ หรืออย่างความเสี่ยงเรื่อง “เงินเฟ้อ” ไม่มีใครรู้เลยว่าปีหน้าเงินเฟ้อจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ หรือว่าเงินอาจจะฝืดก็เป็นไปได้เหมือนกัน

2. ความเสี่ยงที่ไม่เป็นระบบ (Unsystematic Risk)

เป็นความเสี่ยงที่สามารถกำจัดมันทิ้งหรือลดมันได้ เพราะความเสี่ยงชนิดนี้เกิดจากเฉพาะสินทรัพย์การลงทุน เช่น เราลงทุนในหุ้น ABC แล้วเกิดผู้บริหารโกงขึ้นมา หรืออยู่ดีดีอุตสาหกรรมที่ ABC อยู่เกิดราคาวัตถุดิบเพิ่มซะงั้น แบบนี้เราสามารถลดความเสี่ยงตรงนี้ได้ ด้วยวิธีการแบบพื้นบ้านคือ “การจัดพอร์ตการลงทุน” หรือ Asset Allocation เป็นวิธีที่พี่ทุยว่าทุกคนรู้อยู่แล้วล่ะว่าคืออะไร คงไม่มีใครเอาเงินทั้งหมดไปวางในหุ้นตัวเดียว หรือถ้ามีก็จะเสี่ยงมาก ๆ เพราะถ้าหุ้นตัวที่เราถือ เกิดไม่เป็นอย่างที่คิดหรือเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้นมา เราจะขาดทุนอย่างหนักหน่วงมาก ๆ เลยล่ะ

พี่ทุยเลยพยายามบอกตลอดเวลา เราต้องจัดพอร์ตการลงทุนให้ดี หรือถ้าจัดพอร์ตไม่เป็น หรือไม่มีเวลามากพอ ก็ลงทุนผ่านกองทุนรวมไปเลยก็ดีเหมือนกัน เพราะกองทุนเค้าจะทำ Asset Allocation ให้อยู่แล้ว ถ้าใครลงกองทุนรวมก็จะได้ประโยชน์เรื่องนี้ไปเต็ม ๆ แต่พี่ทุยแนะนำว่าให้ซื้อสักประมาณ 2-3 กองทุนนะ กำลังสวย ถ้าซื้อแค่ 1 กองทุน ก็เสี่ยงเกินไปหน่อย เพราะถ้าซื้อหลายกองมากเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน เพราะติดตามดูแลยาก แล้วกระจายมากเกินไป ก็ไม่เกิดประโยชน์นอกจากสร้างความยุ่งยากให้กับชีวิตเราแค่นั้นเลย

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile