"ตาลีบัน" หารายได้จากไหนมาสู้รบ ?

“ตาลีบัน” หารายได้จากไหนมาสู้รบ ?

3 min read  

ฉบับย่อ

  • “ตาลีบัน” มีรายได้ต่อปีมากถึง 1,600 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่มาจากการค้ายาเสพติด โดยเฉพาะฝิ่น และการทำเหมืองแร่
  • Forbes จัดอันดับให้ตาลีบันเป็นกลุุ่มก่อการร้ายที่รวยสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก ในปี 2559 มีรายได้ 400 ล้านดอลลาร์
  • ตาลีบันเป็นกลุ่มนักรบที่ไม่ได้เก่งแต่เฉพาะสมรภูมิสงครามเท่านั้น แต่ยังมีหัวในการทำธุรกิจเองอีกด้วย เช่นเก็บค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ และทำธุรกิจส่งออกและนำเข้า

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

หลังจากอดทนสู้รบมายาวนานกว่า 20 ปี ในที่สุดกองกำลัง “ตาลีบัน” ก็สามารถหวนคืนสู่อำนาจได้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อสามารถบุกยึดกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานให้กลับมาอยู่ในการครอบครองได้สำเร็จเมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. 2564 ตามเวลาประเทศไทย    

นับเป็นการประกาศชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของกลุ่มตาลีบัน (Taliban) ที่มีต่ออิทธิพลของชาติตะวันตกที่เข้ามารุกรานและแทรกแซงกิจการภายในของดินแดนอัฟกานิสถานแห่งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทยอยบุกยึดเมืองต่าง ๆ สะสมมาได้ทีละเล็กทีละน้อย      

แม้กลุ่มตาลีบัน (Taliban) จะขึ้นชื่อเรื่องความอึดถึกทนในการทำสงครามกับชาติมหาอำนาจมาอย่างยาวนาน แต่จากการที่พี่ทุยลงทุนไปสืบค้นข้อมูลพบว่า กลุ่ม Taliban ก็มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจเพื่อหารายได้มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้แก่กองทัพของตนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

จนกระทั่งทำให้กองทัพของตนเองแข็งแกร่งมากพอที่จะเอาชนะกองทัพรัฐบาลที่มีทั้งสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตกคอยหนุนหลังอยู่ลงได้

แหล่งข่าวความมั่นคงหลายแห่งระบุตรงกันว่ากลุ่ม Taliban น่าจะมีรายได้มากถึง 300 – 1,600 ล้านดอลลาร์ ต่อปี ตรงข้ามกับรัฐบาลอัฟกานิสถานที่แม้จะมีเงินอู้ฟู่ถึง 5,500 ล้านดอลลาร์ ต่อปี แต่ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ได้มาจากการบริจาคของต่างชาติแทบทั้งสิ้น เพราะรัฐบาลแทบจะหารายได้เข้าไม่ได้เลย 

ตาลีบัน ติด Top 5 กลุ่มก่อการร้ายที่รวยที่สุดของโลก

พี่ทุยบอกเลยว่าความมั่งคั่งทางการเงินของกลุ่ม Taliban นั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะแม้แต่นิตยสาร Forbes ยังเคยจัดอันดับให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่รวยที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกมาแล้วในปี 2559 ด้วยรายได้ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ ต่อปี ขณะที่อันดับ 1 คือกลุ่ม IS มีรายได้ 2,000 ล้านดอลลาร์ ต่อปี

และข้อมูลจากรายงานขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) แสดงให้เห็นว่างบประจำปีของกลุ่ม Taliban ในปี 2562-2563 ได้พุ่งขึ้นไปถึงเกือบ 1,600 ล้านดอลลาร์ เท่ากับเพิ่มขึ้น 400% เมื่อเทียบกับรายได้เมื่อ 4 ปีที่แล้วที่ Forbes จัดอันดับไว้

เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว พี่ทุยเชื่อว่าหลายคนคงเริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมว่า กลุ่ม Taliban ใช้วิธีไหนสร้างรายได้ให้กับตนเอง ที่ว่าเก่งในเชิงธุรกิจด้วยนั้น เก่งแบบไหนกัน 

แหล่งรายได้หลักของตาลีบันมาจากไหน ?

"ตาลีบัน" หารายได้จากไหนมาสู้รบ ?

แหล่งรายได้หลักของกลุ่ม Taliban มาจากเม็ดเงินในธุรกิจมืดเป็นส่วนใหญ่เช่นการปลูกฝิ่น การค้ายาเสพติด การเรียกค่าคุ้มครอง และการเรียกค่าไถ่จากการลักพาตัว

เฉพาะเพียงแค่รายได้จากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดอย่างเดียวก็ทำรายได้ให้กับกลุ่มนักรบ Taliban ได้มากถึง 416 ล้านดอลลาร์ ต่อปีแล้ว เพราะอัฟกานิสถานคือแหล่งเพาะปลูกฝิ่นใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน คิดเป็น 84% ของผลผลิตฝิ่นทั่วโลก 

ผลจากการที่พื้นที่เพาะปลูกฝิ่นส่วนใหญ่ล้วนตกอยู่ภายใต้อิทธิพลการดูแลของกองกำลัง Taliban นี้เองที่ทำให้เม็ดเงินหลั่งไหลไปยังกลุ่ม Taliban โดยตรง เพราะมีการเรียกเก็บภาษี 10% จากเกษตรกรผู้ปลูกฝิ่น ในขณะเดียวกันภาษีดังกล่าวยังครอบคลุมไปถึงในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เช่น โรงงานที่แปรรูปจากฝิ่นไปเป็นเฮโรอีน หรือยาเสพติดชนิดอื่น ๆ และการขนส่งยาเสพติดสู่ตลาดของนักค้ายา 

ขณะที่แหล่งรายได้จากการเก็บค่าคุ้มครองจากพื้นที่ภายใต้เขตอิทธิพลของตนเองและเรียกค่าไถ่จากชาวต่างชาติ ช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มตาลีบันได้ราว 160 ล้านดอลลาร์ ต่อปี

กลุ่มตาลีบันไม่ได้พึ่งพาแหล่งรายได้จากธุรกิจมืดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังมีรายได้จากช่องทางอื่น ๆ ด้วย อาทิ การทำเหมืองแร่ ซึ่งถือเป็นช่องทางทำมาหากินที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มนักรบ Taliban อย่างงดงาม  เนื่องจากด้วยข้อได้เปรียบลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเทือกเขา จึงทำให้มีแหล่งทรัพยากรแร่อยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ แร่เหล็ก หินอ่อน ทองแดง ทองคำ และสังกะสี ในแต่ละปีแร่ต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยสร้างรายได้มากถึง 464 ล้านดอลลาร์

แต่ที่พี่ทุยรู้สึกประหลาดใจหนักกว่านั้น ก็คงเห็นจะเป็นการรู้จักหารายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นี่ละ เพราะว่ากลุ่ม Taliban ก็หันมาปล่อยเช่าที่ดินและอาคารหลายแห่งที่ตนเองเป็นเจ้าของในอัฟกานิสถาน ปากีสถาน และที่อื่น ๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างเสริมรายรับให้กับกองทัพของตนเอง โดยสร้างรายได้มากถึงปีละ 80 ล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว   

ไม่เพียงเท่านั้น Taliban ยังเป็นกลุ่มนักรบที่รู้จักทำมาค้าขายระหว่างประเทศอีกด้วย โดยเน้นไปที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างกำไรต่อปีมากถึง 240 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ผู้นำกลุ่ม Taliban ยังมีศักยภาพในการระดมเงินทุนจากการบริจาคของเหล่าเศรษฐีและมูลนิธิต่าง ๆ ในแถบประเทศอาหรับที่คล้อยตามไปกับอุดมการณ์ของตาลีบันอีกด้วย โดยคาดว่าน่าจะมีมากถึง 240 ล้านดอลลาร์

ซึ่งแหล่งเงินทุนจากภายนอกนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยกล่าวว่ามีรัฐบาลรัสเซียอยู่เบื้องหลังด้วย ตลอดจนรัฐบาลปากีสถานและอิหร่าน

อ่านเพิ่ม

การยืนได้ด้วยลำแข้งตนเองช่วยทำให้ตาลีบันยืนระยะได้

ไม่ว่าข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ จะเป็นจริงหรือไม่ แต่เฉพาะเพียงแค่แหล่งรายได้ที่หามาได้เองนั้นก็มากพอที่จะทำให้กองกำลัง Taliban ยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของตนเองแล้ว  

อีกทั้งกลุ่ม Taliban เองก็ตระหนักดีว่าจะมัวแต่แบมือขอรับเงินบริจาคอย่างเดียวคงไม่ใช่หนทางยั่งยืนอะไร สะท้อนจากแหล่งรายได้จากการบริจาคที่ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น 

ซึ่งนับเป็นแนวทางที่แตกต่างไปจากรัฐบาลอัฟกานิสถานที่ยังมัวแต่รอพึ่งเงินช่วยเหลือที่ต่างชาติป้อนให้ โดยเงินช่วยเหลือดังกล่าวคิดเป็น 80% ของงบประมาณที่รัฐบาลอัฟกานิสถานใช้จ่ายในแต่ละปีเลยทีเดียว

เรียกได้ว่าในศึกครั้งนี้รัฐบาลอัฟกานิสถานไม่เพียงแต่จะปราชัยในสมรภูมิสงครามและการเมืองให้แก่กลุ่ม Taliban เท่านั้น หากแต่ยังรวมไปถึงสมรภูมิทางเศรษฐกิจและธุรกิจอีกด้วย

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย