Bitazza หรือ BTZ หนึ่งในเหรียญ Utility Token ประจำ Exchange ชื่อดัง ที่เพิ่งเปิดเทรดให้ไปได้ไม่นาน และเป็นที่น่าจับตามอง
โดยใครก็ตามที่ถือเหรียญนี้ไว้จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายภายในแพลตฟอร์มของ Bitazza ไม่ว่าจะเป็นการใช้ลดค่าธรรมเนียมในการเทรดลง 50-70% หรือนำไป Staking เพื่อรับผลตอบแทนสูงถึง 40% ต่อปี
ซึ่งเมื่อเทียบกับ Exchange อื่น ๆ ในไทยแล้ว BTZ ถือได้ว่าเป็นเหรียญที่ให้ส่วนลดและผลตอบแทนเยอะมากกก ซึ่งถ้าใครอยากรู้จักเหรียญนี้ให้มากขึ้น และสนใจจะเข้าไปถือ BTZ ละก็ ลองมาอ่าน 10 ข้อน่ารู้ในวันนี้กันได้เลยค่า
1. เป็น Uitility Token ประจำ Broker สินทรัพย์ดิจิทัลไทยชื่อดังอย่าง Bitazza
2. สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ใช้ลดค่าธรรมเนียมในการเทรดได้ถึง 50-70%, นำไป Staking เพื่อรับผลตอบแทนสูงถึง 40% ต่อปี หรือใช้เป็นสิทธิ์ในการโหวตทิศทางต่าง ๆ
3. BTZ ติดอันดับ 9862 ของเหรียญที่มีมูลค่าที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าตลาดสูงถึง 152 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเหรียญของ Exchange อื่น ๆ อย่าง KUB ที่มีมูลค่าตลาด 684 ล้านดอลลาร์ หรือ ZMT ที่มีมูลค่าตลาด 269 ล้านดอลลาร์ ถือว่า BTZ ยังมีตลาดที่เล็ก และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก
4. BTZ เป็นเหรียญที่มี Max Supply อยู่ที่ 3,000 ล้านเหรียญ และตอนนี้มีเหรียญหมุนเวียนในระบบไปแล้วกว่า 13.75% หรือ 412.5 ล้านเหรียญ
5. ทำ All Time High ไปเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 ด้วยราคา 0.435 ดอลลาร์
6. BTZ มีอัตราการเติบโตตั้งแต่เปิดตัวจนถึงช่วง All Time High อยู่ที่ 38.5 เท่าหรือราว ๆ 3,850 % หรือถ้าเพื่อน ๆ ลงทุนไว้ 1 หมื่นบาท ในวันเปิดตัว แล้วขายในช่วงพีคสุดของราคา เงินทุนก้อนนั้นจะมีมูลค่าราว ๆ 385,000 บาท
7. BTZ เคยมี Total Supply ที่ 300 ล้านเหรียญ แต่ปัจจุบันปรับเพิ่มเป็น 3,000 ล้านเหรียญ โดยใช้วิธี Token Split เหมือน Stock Split ในตลาดหุ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อเหรียญในระยะยาว
8. มีระบบ Burn หรือเผาเหรียญทิ้งในทุก ๆ ไตรมาส
9. เหรียญ BTZ ไม่มีการ ICO หรือระดมทุนผ่านการออกเหรียญใหม่เหมือนเหรียญอื่น ๆ แต่จะใช้กลยุทธ์ในการแจก Token ฟรีมาเรื่อย ๆ ตลอด 2 ปีแทน ทำให้เหรียญไม่กระจุกอยู่กับผู้ถือเหรียญรายใหญ่ และมีการใช้งานจริง ๆ ภายใน Community
10. BTZ จะเปิดให้ซื้อขายที่ Bitazza Global เท่านั้น
เอาเป็นว่าถ้าใครชอบใช้งาน Bitazza หรือเทรดกันเป็นประจำอยู่แล้ว เหรียญ BTZ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี แต่ก่อนจะเข้าไปลงทุน พี่ทุยแนะนำให้ลองเข้าไปวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐาน อ่าน Whitepaper และวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค ก่อนจะเข้าไปลงทุนกันด้วยนะ