ยังเชื่อมั่น Stablecoin ได้อยู่มั้ย ? - USDT, USDC, BUSD และ DAI ยังไปรอดหรือเปล่า?

ยังเชื่อมั่น Stablecoin ได้อยู่มั้ย ? – USDT, USDC, BUSD และ DAI ยังไปรอดหรือเปล่า?

3 min read  

ฉบับย่อ

  • Stable Coin คือเหรียญดิจิทัลที่มีเงินดอลลาร์หรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นหลักค้ำประกัน โดยทุก ๆ 1 เหรียญมีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์
  • ในวิกฤตเหรียญ LUNA ที่ราคาร่วงส่งผลทำให้ UST เหรียญ Stable Coin ในโปรเจค Terra เกิดการราคาที่หลุด peg จนมีมูลค่าต่ำกว่า 1 ดอลลาร์
  • จากข้อที่แล้วผู้ที่ถือเหรียญ Stable Coin ตัวอื่น ๆ ต่างก็เกิดความหวาดกลัวจนทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในตัวเหรียญ Stable Coin

 


รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ช่วงนี้คำถามที่แอบทำร้ายจิตใจพี่ทุยเบา ๆ ก็คือ เราจะ “ยังเชื่อมั่น Stablecoin ได้อยู่มั้ย” สาเหตุก็เพราะช่วงกลางเดือน พ.ค. 2022 เหรียญ LUNA สกุลเงินคริปโตที่ (เคย) ติด Top 10 ของสกุลเงินที่มีมูลค่าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กลับสร้างฝันร้ายให้แก่นักลงทุน มูลค่าของเหรียญ LUNA เรียกได้ว่าเกิดการหล่นวูบ ราคาของเหรียญตกไปเกือบ 98%

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้ที่ลงทุนในโปรเจคของ Terra เกิดความช็อคและต้องสูญเสียเงินจากการลงทุนโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เกิดการเทขายเหรียญทิ้ง และตัวเหรียญของ LUNA เองก็ต้องสูญเสียจำนวนเงินไปอย่างมหาศาล

แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหนึ่งเหรียญ Stablecoin ที่อยู่ในโปรเจคของ Terra เช่นเดียวกันอย่าง UST ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง ส่งผลทำให้ราคาของเหรียญ Stablecoin ดังกล่าวมีการหลุด PEG จนทำให้มีมูลค่าที่ต่ำกว่า 1 USD 

นอกเหนือจากนี้ยังสร้างความกังวลให้แก่ผู้คนที่ถือ Stablecoin ตัวอื่นอย่าง USDC, BUSD, DAI และเหรียญอื่น ๆ พลอยไปด้วยว่าจะได้รับผลกระทบตามรอย UST หรือไม่ โดยเฉพาะ Yield Farming ที่ทำการฟาร์มเหรียญใน Liquidity Pools ที่มีเหรียญ Stablecoin อยู่ด้วย โดยเฉพาะเหรียญ USDT ที่เป็นชนวนนำไปสู่การเกิด Impermanent Loss ในระหว่างการฟาร์มเหรียญได้ในขณะนี้

เรียกว่าวิกฤติในครั้งนี้สะเทือนวงการ Stablecoin มากทีเดียว หลายคนจึงอยู่ในภาวะไปต่อไม่ถูกว่าควรทำอย่างไรต่อกับเหรียญที่ยังมีอยู่ในมือ วันนี้พี่ทุยเลยจะมาวิเคราะห์ความเสี่ยงของเหรียญ Stablecoin ในแต่ละเหรียญกันว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไรให้มีมูลค่าเท่ากับ 1 USD เผื่อว่าจะช่วยให้ทุกคนเห็นทางที่จะไปต่อได้ง่ายขึ้น

อ่านเพิ่ม

ทำความเข้าใจกับเหรียญ Stablecoin

โดยปกติแล้วนักลงทุนมือใหม่มักจะได้ยินประโยคหรืออ่านจากในบทความที่อื่นว่า “ก่อนซื้อเหรียญคริปโตผ่านบนกระดานเทรดให้แลกเหรียญ Stablecoin ก่อนทุกครั้ง” 

เหตุผลเพราะว่าตัวเหรียญ Stablecoin นั้นเป็นตัวเหรียญที่รักษามูลค่าของเงิน Fiat ที่จ่ายไปไม่ว่าด้วยวิธีการชำระในช่องใด ๆ ก็ตามแต่ ทำให้ Stablecoin กลายเป็นเหรียญที่มีความผันผวนของราคาน้อยกว่าเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ 

โดยทุก ๆ เหรียญ Stablecoin ที่สร้างขึ้นในแต่ละโปรเจคต่าง ๆ จะถูกตรึงมูลค่าของเหรียญให้มีค่าเท่ากับ 1 USD เสมอ จึงกลายเป็นที่มาของความเข้าใจในหมู่นักลงทุนว่า “1 เหรียญ (Stable Coin) = 1 USD” นั่นเอง

วิเคราะห์ความเสี่ยง Stable Coin ในแต่ละเหรียญ เราจะ “ยังเชื่อมั่น Stablecoin ได้อยู่มั้ย ?”

  • USDT

Stablecoin ที่นักลงทุนน่าจะรู้จักกันทุกคน ก็คือเหรียญ USDT ที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Tether จากฮ่องกง โดยกระบวนการทำงานของเหรียญ USDT นั้น ทาง Tether จะมีการใช้เงิน 1 USD เป็นหลักประกันต่อการออกเหรียญ 1 USDT ในอัตราส่วน 1:1 ส่วนจำนวนสภาพคล่องของเหรียญนั้นจะผลิตออกมาไม่จำกัด ยิ่งมีเงินสำรองทุนมากเท่าไหร่ จำนวนของเหรียญ USDT ก็จะผลิตเท่ากับจำนวนเงินสำรองทุนมากเท่านั้น

ซึ่งข้อดีของเหรียญนี้คือมีมูลค่า Market Cap. ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสกุลเงินคริปโตและเป็น Stable Coin ที่มีความเสถียรภาพมากที่สุด จึงทำให้การดำเนินการทำธุรกรรมไม่ว่าเป็นตัวกระดานเทรดคริปโตเองหรือแม้แต่แหล่ง DeFi ต่างก็รองรับการใช้เหรียญ USDT แทบทั้งสิ้น 

แต่ความเสี่ยงของเหรียญนี้คือมักมีข้อครหาว่าแต่ละเหรียญของ USDT ที่ผลิตออกไปนั้นได้ค้ำประกันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตามจำนวนเหรียญที่ผลิตจริงหรือไม่ จนกลายเป็นประเด็นข้อถกเถียงในแง่ของความโปร่งใสและเป็นที่น่าจับตามองของผู้ที่ถือเหรียญ USDT เป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าได้รับการตรวจสอบจากบริษัทด้านกฎหมายและพบว่ามีการค้ำประกันด้วยเงินดอลลาร์จริง แต่ก็ไม่เป็นทางการ จนทำให้ความสงสัยเหล่านี้ก็ยังไม่หายไปในโลกคริปโตอยู่ดี

  • USDC

เมื่อมีเหรียญ Stablecoin ที่เป็นอันดับหนึ่งแล้ว ก็มาต่อที่อันดับสองอย่างเหรียญ USDC โดยเหรียญนี้ผลิตโดยบริษัท Centre ที่ก่อตั้งแหล่ง Exchange ชื่อดังในสหรัฐฯ อย่าง Coinbase และบริษัทไฟแนนซ์อย่าง Circle Internet Financial

โดยกระบวนการทำงานของเหรียญนี้มีลักษณะการทำงานเช่นเดียวกันกับเหรียญ USDT แตกต่างตรงที่ว่าในแต่ละเหรียญนั้นที่ผลิตออกมานั้นจะมีการตรวจสอบสินทรัพย์ที่เป็นตัวค้ำประกัน มีผลรายงานงานการค้ำประกันทุกครั้งและสามารถตรวจสอบได้ ด้วยความโปร่งใสนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่มีความน่าเชื่อถือมาก จนกลายเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมแม้ว่าจะมีมูลค่า Market cap. รองจาก USDT ก็ตาม

แต่ข้อจำกัดของเหรียญนี้จะรองรับเพียงแค่ในเครือข่าย ERC-20 เท่านั้น ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าในเครือข่ายของ Ethereum นั้นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่อ 1 Transaction มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับเครือข่ายอื่น ๆ 

  • BUSD

อีกหนึ่งเหรียญ Stablecoin ที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน ก็คือเหรียญ BUSD ที่ถูกสร้างขึ้นโดยกระดานเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Binance หากผู้ลงทุนคนใดที่มีการซื้อขายเหรียญคริปโตบน Binance รวมไปถึงแหล่ง DeFi ต่าง ๆ ที่สร้างอยู่บนเครือข่าย BEP20 (Binance Smart Chain) มักจะเห็นเหรียญ Stable Coin ชนิดนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งกระบวนการทำงานของเหรียญ BUSD เช่นเดียวกันกับ USDT

ข้อดีคือสร้างโดย Binance และ Paxos ผู้ที่ออกเหรียญดิจิทัลให้กับ Binance จึงทำให้เหรียญ BUSD ในแต่ละเหรียญที่ผลิตออกมาสามารถเชื่อถือได้ แต่ข้อจำกัดของเหรียญชนิดนี้ก็คือรองรับเพียงแค่เฉพาะใน Binance และแหล่ง DeFi บางแพลตฟอร์มในเครือข่าย Binance เท่านั้น ทำให้เหรียญประเภทนี้ไม่ค่อยรองรับกว้างขวางเหมือนกับเหรียญ USDT ถึงแม้ว่าตัวเหรียญเองรองรับทั้งในเครือข่าย BEP-20 และ ERC-20 ก็ตาม

  • DAI

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Stablecoin ประเภทหนึ่งที่มีความแตกต่างจาก 3 เหรียญที่ได้กล่าวไปเมื่อข้างต้น โดยเหรียญ DAI เป็นเหรียญ Stablecoin ที่จัดอยู่ในประเภท Crypto Collateralized ที่ผลิตโดย MakerDAO

วิธีการทำงานของเหรียญ DAI ก็คือตัว MakerDAO ผู้ที่ปล่อยเหรียญ DAI ได้จะต้องนำสินทรัพย์ประเภทคริปโตอย่าง Ethereum วางไว้ที่ 125% หมายความว่าถ้าเราต้องการเหรียญ DAI ในปริมาณราคาอยู่ที่ 100 DAI (100 USDT) ต้องนำเหรียญ Ethereum มาค้ำประกันไว้เป็นมูลค่า 125 USD นั้นเอง แต่นอกเหนือจากเหรียญ Ethereum ยังสามารถนำเหรียญคริปโตสกุลอื่นที่ทำงานบนเครือข่าย ERC-20 สามารถค้ำประกันได้

ข้อดีก็คือกระบวนการทำงานของ MakerDAO ในการออกเหรียญ DAI นั้นป้องกันการเกิดเหตุการณ์เงินเฟ้อบนโลกคริปโต และยังป้องกันการสูญเสียของมูลค่าของสินทรัพย์ที่ค้ำประกันด้วยในกรณีที่สกุลเงินคริปโตนั้นมีมูลค่าลดลง

ความสูญเสียและความเชื่อมั่นของ Stablecoin

จากวิกฤติราคาเหรียญ LUNA และ UST ร่วงหล่นจนสร้างความหวาดกลัวให้แก่นักลงทุนในครั้งนี้ นอกเสียจากสูญเสียเงินทุนแล้ว ยังสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวของโปรเจค Terra อีกด้วย

เจ้าของโปรเจค Terra อย่าง Do Khwon ก็เข้าใจถึงปัญหาและผลกระทบที่นักลงทุนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ จึงได้มีการประกาศขอโทษและเร่งแก้ไขกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการประกาศแผนฟื้นฟูระบบนิเวศน์ของเหรียญ รวมไปถึงการออกมาตรการเยียวยาใจให้แก่นักลงทุนแล้ว

ซึ่งทำให้มีเสียงจากนักลงทุนแตกถึง 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายนักลงทุนที่พร้อมให้การสนับสนุนให้กับโปรเจค Terra ให้มีประสิทธิภาพและสร้างผลกำไรในระยะยาวได้ กับฝ่ายนักลงทุนที่ไม่เชื่อมั่นในตัวโปรเจค Terra จนไม่กล้าที่จะลงทุนและกลัวสูญเสียเงินอีก 

แต่อย่างไรก็ตาม ความไม่เชื่อมั่นในตัวเหรียญในโปรเจค Terra ได้เกิดขึ้นแล้ว และคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้วงการเหรียญ Stablecoin เกิดความสั่นคลอนในใจของนักลงทุน สูญเสียความมั่นใจใน Stablecoin จนทำให้ผู้ที่ถือเหรียญ Stablecoin ตัวอื่น ๆ ที่แม้ไม่ใช่ UST ก็ตาม เกิดคำถามว่า “ทุกวันนี้เหรียญ Stablecoin ยังคงเป็นเหรียญที่มีความปลอดภัยต่อการเทรดหรือไม่”

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย