สรุป 5 เทรนด์เทคโนโลยี 2024 มาแรง ลงทุนเกาะเทรนด์ยังไงดี?

4 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • เทรนด์เทคโนโลยีใหญ่ ๆ ที่ต้องจับตาสำหรับปี 2024 ได้แก่ AI, AR/VR, 5G, Cybersecurity และ Sustainable Tech ส่วนการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีทั่วโลก จากนี้ถึงปี 2026 คาดว่าจะเติบโต 7.75% ต่อปี เป็น 11.47 ล้านล้านดอลลาร์ 
  • การประเมินมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีจะแตกต่างไปจากบริษัทดั้งเดิม เน้นไปที่ความคาดหวังต่อการเติบโตในอนาคต มากกว่ามองที่ปัจจุบัน 
  • การเลือกลงทุนหุ้นเทคฯ อาจเลือกจากบริษัทขนาดใหญ่ที่มั่นคงแล้ว บริษัทที่จ่ายเงินปันผล บริษัทที่เรารู้จักเทคโนโลยีนั้นดี ใช้งานเป็นประจำ หรือกระจายลงทุนเทคโนโลยีหลาย ๆ แบบ ส่วนช่องทางลงทุน มีทั้งลงทุนผ่านหุ้น กองทุนรวม ETF และคราวด์ฟันดิ้ง

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เทคโนโลยี​เป็นส่วนสำคัญของโลกยุคนี้ ไม่ว่าจะคน องค์กร์ หรือธุรกิจใดใด ไม่ปรับตัวใช้เทคโนโลยี ก็จะตกขบวน สูญเสียความสามารถในการแข่งขันไป วันนี้พี่ทุยเลยอยากชวนทุกคนมาอัปเดต เทรนด์เทคโนโลยี 2024 ที่น่าจับตา มาดูกันว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้าง และเราจะหาโอกาสการลงทุนอะไรได้จากเทคโนโลยีเหล่านี้หรือไม่ 

สรุป 5 เทรนด์เทคโนโลยี 2024 มาแรง

ถ้าให้พี่ทุยหยิบเทรนด์จากหลาย ๆ สำนัก ทั้งบริษัทวิจัยและบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ มามัดรวมกัน แล้วมองภาพปี 2024 ออกมาว่า มีเทคโนโลยีอะไรที่น่าจับตาเด่นชัดมาก ๆ พี่ทุยมองว่ามี 5 เทคโนโลยีสำคัญ ๆ​ ดังนี้ (รายละเอียดมุมมองเทรนด์เทคโนโลยีของสำนักต่าง ๆ พี่ทุยรวมเป็นภาคผนวกที่ท้ายบทความ)

1. Artificial Intelligence : AI

หากสังเกตดี ๆ ก็จะพบว่า เทรนด์ของทุกสำนักจะกล่าวถึง AI ทั้งสิ้น นั่นแปลว่า เราไม่สามารถเลี่ยงเทรนด์นี้ไปได้แน่นอน โดยความสามารถของ AI นับวันจะถูกพัฒนาให้ใกลเคียงกับสิ่งที่มนุษย์ทำได้มากขึ้น เช่น Generative AI ซึ่งเป็น AI ที่มีความสามารถสร้างคอนเทนท์ใหม่ออกมาในรูปแบบ ข้อความ เสียง หรือวิดีโอ โดยเลียนแบบธรรมชาติของมนุษย์ได้ 

2. Augmented Reality (AR)/Virtual Reality (VR)

ทั้งการรวมความจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน และการนำสภาพความเป็นจริงไปจำลองไว้ในโลกเสมือน ยังมีพัฒนาการไปข้างหน้าได้อีกมาก โดย Metaverse ก็เป็นหนึ่งในโลกเสมือนใหม่ ที่สร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ ​

3. สัญญาณอินเตอร์เน็ต 5G

เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงมากที่จะมาสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ เพราะจะทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรวดเร็วมากขึ้น ทำให้การสื่อสารและการทำงานร่วมกันมีความสะดวก ราบรื่นมากขึ้น ตอบสนองการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ  

4. Cybersecurity

เป็นเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นคู่ขนานมากับเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาในยุคนี้ เพราะการใช้เทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ความจำเป็นในการปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสูงขึ้นด้วย 

5. Sustainability Technology

จากการที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังมุ่งหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้เทคโนโลยีที่ยั่งยืนมีความจำเป็นมากขึ้น โดยรูปแบบของเทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์​ 3 รูปแบบ คือ 1.เทคโนโลยีที่จะมาสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน เพื่อไปถึงเป้าหมายด้านความยั่งยืน เช่น เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน 2.ป้องกันการสร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เทคโนโลยีจัดการของเสีย และ 3.เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย  เช่น เทคโนโลยี​เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เป็นต้น

เทรนด์เทคโนโลยี 2024 และการเติบโตของบริษัทเทค

เมื่อทราบเทรนด์ของเทคโนโลยีที่กำลังมาแล้ว คราวนี้ลองมาดูการเติบโตของเทคโนโลยีกันบ้าง จากมูลค่าการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดย MGE Research คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ที่มาจากผู้บริโภค องค์กรการค้า บริษัทเอกชน องค์กรไม่แสวงหากำไร และภาครัฐ จะเติบโตจาก 8.51 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2022 เป็น 11.47 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2026 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7.75% ต่อปี ในช่วง 5 ปี 

เมื่อนำไปรวมกับข้อมูลเทรนด์เทคโนโลยีที่ต้องจับตาแล้ว พี่ทุยมองว่า ก็พอจะสรุปได้ว่า การใช้จ่ายที่จะเติบโตในช่วงต่อจากนี้ไป ก็น่าจะอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นกระแสที่ทั่วโลกจับตาอยู่เป็นหลัก 

เทคนิคการคัดเลือกลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี

เมื่อทราบแล้วว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่กำลังมา ก็อาจจะมีคนที่เชื่อในเทคโนโลยีเหล่านี้ว่ามีโอกาสจะเติบโตในอนาคต ซึ่งก็หมายถึงความน่าสนใจลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย แต่ความท้าทายก็คือ การประเมินมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีเพื่อเข้าไปลงทุน อาจจะใช้วิธีการเดิมๆ แบบเดียวกับที่ประเมินมูลค่าบริษัทแบบดั้งเดิมไม่ได้

การประเมินมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีนั้นจะต้องมุ่งเน้นพิจารณาจากศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว และการ disruption หรือการมาเพื่อทดแทนหรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ๆ 

สำหรับ บริษัทเทคโนโลยีในระดับสตาร์ทอัป หรือบริษัทที่เพิ่งเกิดใหม่ บ่อยครั้งจะถูกประเมินมูลค่าจากนวัตกรรม ทรัพย์สินทางปัญญา จำนวนผู้ใช้งาน แนวโน้มการเติบโต และ ความสามารถในการขยายขนาด

ขณะที่ การพิจารณามูลค่าบริษัทเทคโนโลยีโดรวม ๆ มักจะใช้ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ขนาดของตลาด ความได้เปรียบทางการแข่งขัน ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และอัตราการเติบโตของรายได้ ซึ่งในเรื่องอัตราการเติบโตของรายได้นั้น หลายกรณีจะเป็นเรื่องความคาดหวังเกี่ยวกับการเติบโตของรายได้ในอนาคต การได้มาซึ่งจำนวนผู้ใช้งานใหม่ ๆ และการครอบงำตลาด มากกว่าการมองที่ความสามารถในการทำกำไร ณ เวลานั้น  

แตกต่างจากการประเมินมูลค่าบริษัทแบบดั้งเดิม เช่น บริษัทในภาคการผลิต ค้าปลีก และภาคบริการ ที่จะพิจารณาจากข้อมูลในอดีตและปัจจุบันเป็นหลัก เช่น ผลประกอบการ ทั้งรายได้และกำไรในอดีตและปัจจุบันที่ทำได้ มูลค่าตลาด ​ภาวะการแข่งขัน และแนวโน้มอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้การคาดการณ์มีความแม่นยำและมีเสถียรภาพมากกว่าการประเมินมูลค่าบริษัทเทคโนโลยี

การประเมินมูลค่าบริษัทเทคโลยี VS บริษัทดั้งเดิม

สรุป 5 เทรนด์เทคโนโลยี 2024 มาแรง ลงทุนเกาะเทรนด์ยังไงดี?

เลือกลงทุนบริษัทเทคโนโลยีแบบไหนดี

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วสนใจลงทุนหุ้นเทคโนโลยี เพื่อรับเทรนด์เทคโนโลยีเด่น ๆ ที่กำลังมา แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกหุ้นเทคฯ ยังไงดี ให้ลองพิจารณา 4 กลุ่มหุ้นเทคฯ นี้ดู

1. เลือกหุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่พื้นฐานดี – ถ้าเป็นคนที่ชอบความมั่นคงหน่อย อาจจะต้องเลือกหุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ดำเนินธุรกิจมายาวนาน ให้ผลตอบแทนได้ดี เช่น Apple Alphabet Microsoft และ Amazon เป็นต้น

2. เลือกหุ้นเทคฯ ที่จ่ายเงินปันผล – ถ้าไม่ได้อยากลงทุนหุ้นเทคฯ ใหญ่อย่างเดียว แต่อยากขยายโอกาสลงทุนหุ้นเทคฯ ที่มีขนาดรอง ๆ ลงมาด้วย การเลือกโดยพิจารณาจากการจ่ายปันผล ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ซึ่งโดยส่วนใหญ่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่จ่ายปันผลได้ ก็จะต้องมีความมั่นคงระดับหนึ่ง มีรายได้สม่ำเสมอ ทำให้ ผลประกอบการแข็งแกร่ง

3. เลือกจากเทคโนโลยีที่ตัวเองใช้งานหรือมีความคุ้นเคยอยู่ – อีกวิธีง่าย ๆ ก็คือเลือกลงทุนหุ้นเทคโนโลยี จากเทคโนโลยีที่เรารู้จักดี หรือมีการใช้งานเป็นประจำในชีวิตประจำวัน คุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว เช่น สมาร์ทโฟน แล็บท็อป สังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มสั่งซื้ออาหารสด ไปจนถึงร้านค้าแฟชั่นออนไลน์ เป็นต้น 

4. เลือกแบ่งเงินลงทุนในเทคฯ หลาย ๆ แบบ – แทนที่จะลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีประเภทใดประเภทหนึ่ง เราอาจจะใช้กลยุทธ์ดาวกระจาย แบ่งเงินลงทุนในเทคโนโลยีหลายๆ ประเภทเลยก็ได้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ไม่ให้เงินลงทุนไปกระจุกตัวอยู่ในเทคโนโลยีประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป

ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีได้ช่องทางไหนบ้าง

สำหรับใครที่สนใจลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี เพราะคาดหวังกับอนาคตการเติบโตของเทคโนโลยี มีช่องทางลงทุนที่น่าสนใจ 4 ช่องทาง ดังนี้

1. ลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีโดยตรง (Stock)

วิธีนี้ก็มีทั้งเลือกลงทุนหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์​ ซึ่งถ้าเป็นการลงทุนกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะง่ายหน่อย เพราะสามารถซื้อขายได้ง่ายผ่านตลาดหลักทรัพย์ 

แต่ถ้าเป็นการลงทุนกับหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ ก็อาจจะต้องประเมินมูลค่า และเข้าไปเจรจากับบริษัทโดยตรง ซึ่งน่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่มีเม็ดเงินลงทุนสูง มากกว่านักลงทุนรายย่อยที่มีเงินลงทุนไม่มาก 

ทั้งนี้ มีประเด็นสำคัญก่อนลงทุนที่ต้องจำไว้เลยก็คือ หุ้นเทคโนโลยีมีโอกาสทำกำไรได้ดี มีโอกาสเติบโตสูง แต่ในเวลาเดียวกันก็มีโอกาสขาดทุนสูงได้ ถ้าสิ่งที่คาดหวังไม่เป็นอย่างที่หวัง หรือบริษัทถูกบริษัทอื่นพัฒนาเทคโนโลยีมาแทนที่

2. ลงทุนผ่านกองทุนรวม (Mutual Fund)

วิธีนี้น่าจะง่ายและตอบโจทย์สำหรับนักลงทุนทั่วไป เพราะไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนจำนวนมาก ก็เข้าไปลงทุนได้ ที่สำคัญคือ มีผู้จัดการกองทุนซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการประเมินมูลค่า และการคัดเลือกหุ้นมากกว่า คอยทำหน้าที่ตรงนี้แทนเราให้ ซึ่งปัจจุบันก็มีทั้งกองทุนที่ลงทุนในเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว และกองทุนที่ไปลงทุนหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ 

อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมหุ้นเทคโนโลยี ก็จะมีความผันผวนได้สูง เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีโดยตรง เพียงแต่ด้วยเงื่อนไขของกองทุนรวมที่มีการกระจายลงทุนในหุ้นหลายตัว และผู้จัดการกองทุนมีการบริหารความเสี่ยง ติดตามการลงทุนอยู่ตลอด ก็จะทำให้กองทุนนี้ แม้จะมีความผันผวนสูง แต่ก็อาจจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการคัดเลือกหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เพื่อไปลงทุนเอง 

3. กองทุนรวมดัชนี (ETF)

การลงทุนด้วยวิธีนี้ก็จะมีความคล้ายคลังกับการลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่บอกไปแล้ว แต่ความแตกต่างก็คือ กองทุนรวมทั่วไป มีผู้จัดการกองทุนคอยคัดเลือกหุ้นรายตัวลงทุนให้ แต่การลงทุนผ่าน ETF เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ทุกรายการที่ถูกจัดอยู่ใน ETF นั้น ไม่สามารถเลือกลงทุนแค่บางบริษัทในนั้นได้ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับคนที่นิยมลงทุนโดยคาดหวังผลตอบแทนล้อไปกับดัชนี มากกว่าคนที่คาดหวังว่าจะทำผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนี   

4. คราวด์ฟันดิ้ง (Crowdfunding)

วิธีการนี้ตรงตัวตามชื่อ คือ เป็นการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มที่ระดมทุนจากนักลงทุนจำนวนมาก โดยมาก ก็จะเป็นบริษัทสตาร์ทอัป บริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็ก ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เข้ามาใช้ช่องทางนี้ เพื่อออกหุ้นกู้ หรือกู้ยืมเงินเพื่อไปใช้ขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

FYI : เทรนด์เทคโนโลยี 2024 ในมุมมองบริษัทวิจัยและบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ 

เทรนด์เทคโนโลยี 2024 จาก Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาระดับโลก

  1. การจัดการความน่าเชื่อถือ ความเสี่ยง และความปลอดภัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Trust, Risk and Security Management : AI TRiSM)
  2. การจัดการความเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่มีความต่อเนื่อง (Continuous Threat Exposure Management : CTEM)
  3. เทคโนโลยีที่ยั่งยืน (Sustianable Technology)
  4. วิศวกรรมแพลตฟอร์ม (Platform Engineering) หรือเทคโนโลยีเร่งการส่งมอบแอปพลิเคชัน สร้างมูลค่าธุรกิจ โดยทำให้นักพัฒนาดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานโดยอัตโนมัติได้ด้วยตัวเอง
  5. การใช้ AI ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันได้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเชื่อถือได้ (AI-Augmented Development)
  6. แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับอุตสาหกรรม (Industry Cloud Platforms)
  7. แอปพลิเคชันอัจฉริยะ (Intelligent Applications)
  8. AI สร้างเนื้อหาใหม่ๆ ​คล้ายกับที่มนุษย์สร้าง โดยมีความเป็นประชาธิปไตยในการสร้าง (Democratized generative AI) ช่วยเพิ่มผลผลิต ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมได้
  9. นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานแนวหน้าทำงานได้สำเร็จ (Augmented Connected Workforce) 
  10. Machine Customers ลูกค้าเครื่องจักร คือ เครื่องจักรที่มาทำหน้าที่แทนลูกค้าที่เป็นมนุษย์จริงๆ เพื่อทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ 

ที่มา : Gartner

เทรนด์เทคโนโลยีปี 2024 จาก AlgoRepublic บริษัทพัฒนาระบบไอที

  1. การขับเคลื่อนทุกสิ่งด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI-Driven Everything)  
  2. เมตาเวิร์ส และการผสมผสานโลกจริงกับโลกเสมือน (Augmented Reality : AR)
  3. การเชื่อมต่อด้วย 5G (5G Connectivity)​
  4. บล็อกเชนที่อยู่เบื้องหลังคริปโทเคอร์เรนซี (Blockchain Beyond Cryptocurrency)​​
  5. Sustainable Tech 
  6. การประมวลผลข้อมูลมหาศาลในเวลารวดเร็วโดยอาศัยหลักการควอนตัม หรือ Quantum Computing
  7. การประมวลผลที่อยู่ใกล้แหล่งข้อมูลต้นทางมากที่สุด (Edge Computing)​
  8. ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)
  9. เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (Health Tech)​
  10. จริยธรรมและกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเทคโนโลยี (Tech Ethics and Regulation)​

ที่มา : Linkedin

เทรนด์เทคโนโลยีปี 2024 จาก Asus บริษัทอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์

  1. AI
  2. การขยายความเป็นจริง (Extended Reality) หรือการรวมเทคโนโลยีการความจริงไปอยู่ในโลกเสมือน (metaverse)
  3. แล็บท็อปรูปแบบใหม่
  4. การเล่นเกมมุ่งหน้าสู่ระบบคลาวด์ 
  5. การเชื่อมต่อด้วย 5G
  6. WiFi7 เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายรุ่นล่าสุด
  7. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวทางไซเบอร์ (Cyber Security and Privacy) 
  8. อินเทอร์เน็ตบนสรรพสิ่ง และระบบอัตโนมัติ (IoT Automation) 
  9. อุปกรณ์ด้านสุขภาพอัจฉริยะ (Healthcare Gets Smarter)
  10. เทคโนโลยีสีเขียว (Green Tech) สร้างและผลิตเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ที่มา Asus

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile