Hyperloop เป็นการเดินทางในอนาคต ที่กำลังเป็นกระแสถูกพูดถึงอยู่ จากนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ทั้งด้านความเร็วที่เร็วกว่า ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งการก่อสร้างและค่าใช้บริการที่ต่ำกว่า จนอาจจะกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มาช่วยตอบรับการเดินทางของคนไทยให้ประหยัดเวลา รวดเร็วและสะดวกสบายในอนาคต
Hyperloop คืออะไร ?
Hyperloop คือแนวคิดการเดินทางทางพื้นดินคล้ายการเดินทางโดยรถไฟ แต่โดยสารผ่านท่อพิเศษ โดย “ขบวน” ที่ใช้โดยสารผ่านท่อนี้ถูกเรียกว่า “Pod” และสิ่งที่ทำให้ Hyperloop สามารถเดินทางได้เร็วกว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูงนั้นก็คือ Pod จะถูกขนส่งผ่านท่อสูญญากาศหรือใกล้เคียงสูญอากาศ ทำให้แรงต้านระหว่างการเดินทางนั้นน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย การทำความเร็วจึงสามารถเพิ่มได้สูงและปริมาณการใช้พลังงานก็ต่ำไปในเวลาเดียวกัน
Hyperloop ดีกว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูงอย่างไร ?
เนื่องจาก Hyperloop เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูงหลายๆด้าน โดยข้อมูลการศึกษาของพรรคอนาคตใหม่ชี้ให้เห็นข้อได้เปรียบเหล่านี้
- ความเร็วในการเดินทาง – เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ปลดล็อคข้อจำกัดเรื่องแรงต้านของการเดินทางภาคพื้นดิน จึงทำให้สร้างความได้เร็วมากขึ้น โดยมีความเร็วสูงสุดถึง 1,100-1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ มีความเร็วเฉลียอยู่ที่ 600-700 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งสามารถประหยัดเวลาได้ถึง 1 ใน 3 ของรถไฟฟ้าความเร็วสูง
- ความถี่ในการให้บริการ – เนื่องจากมีความเร็วที่สูงทำให้สามารถมีความถี่ในการให้บริการที่สูงถึง 42 pod หรือ 42 คันรถ ต่อชั่วโมง ทำให้การโดยสารมีความต่อเนื่อง ไม่ต้องรอเวลาขั้นระหว่างขบวนนาน
- เดินทางได้ทุกสภาพอากาศ – เนื่องจากท่อนำส่งถูกสร้างมาให้แข็งแรงและเป็นระบบสูญญากาศ ทำให้สภาพอากาศภายนอกแทบจะไม่มีผลต่อการเดินทางโดย hyperloop เลย
- โครงสร้างและค่าใช้จ่าย – เนื่องจากความสลับซับซ้อนขอเครื่องจักรส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตัว pod เป็นหลัก ทำให้การก่อสร้างตัวรางจะมีความซับซ้อนน้อยกว่าและมีน้ำหนักและขนาดที่เล็กกว่า ทำให้ค่าใช้จ่ายในการสร้างราง Hyperloop ถูกกว่า และกระทบพื้นที่ใกล้เคียงเส้นทางที่ผ่านน้อยกว่า
อุปสรรคและข้อจำกัดของ Hyperloop ในปัจจุบัน
เนื่องจาก Hyperloop ยังเป็นเทคโนโลยีที่ยังใหม่อยู่ และยังไม่ได้มีบริษัทหรือประเทศไหนที่เริ่มใช้งาน Hyperloop จริง จึงมีหลายๆประเด็นที่ยังคงเป็นข้อจำกัดหรือการนำมาใช้งานของประเทศไทย
- จำนวนผู้โดยสารต่อคัน – เนื่องจาก Pod หรือขบวนโดยสารมีขนาดเล็ก เพื่อความคล่องตัวและความรวดเร็ว จึงทำให้การโดยสารต่อ Pod นั้น บรรจุผู้โดยสารได้ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับการเดินทางอื่นๆ ต้องแก้ปัญหาโดยเน้นที่ความถี่การเดินทางแทน ซึ่งอาจหมายถึงความปลอดภัยหรือความเสี่ยงในการควบคุมดูแลที่มากกว่า
- ข้อจำกัดในการกำหนดเส้นทาง – เนื่องจาก Hyperloop เดินทางด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง ตัวเส้นทางจึงมีข้อจำกัดมากกว่า เส้นทางในการทำท่อมักจะเป็นทางตรงไม่สามารถเลี้ยวโค้งหักศอกได้ ทำให้การเลือกเส้นทางและทำเส้นทางไม่สามารถหักหลบบางภูมิประเทศได้อาจจะต้องเจาะทะลุภูเขา ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้น
- ความปลอดภัย – เนื่องจากท่อในการลำเลียงขนส่งต้องเป็นท่อสูญญากาศหรือใกล้เคียงสูญญากาศ จึงมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย ต้องเตรียมวิธีรับมือในการแก้ปัญหาไว้หลายชั้นหากเกิดเหตุขัดข้อง
ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและผลดีต่อประเทศหาก Hyperloop สามารถนำมาใช้ได้จริง ?
ถึงแม้ยังอยู่ในช่วงการทดลอง แต่หากเทคโนโลยีนี้ประสบความสำเร็จจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจต่อประเทศที่ใช้เทคโนโลยีนี้เป็นอย่างมาก
การเดินทางและขนส่งที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น – เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้เกิดการลงทุน การกระจายตัวของความเจริญไปยังหัวเมืองต่างๆที่มีเส้นทางของ Hyperloop ผ่าน ประชาชนไม่ต้องกระจุกตัวอยู่แค่ในหัวเมืองหลักๆ สามารถซื้อบ้านที่ราคาถูกอยู่ที่อยู่ไกลที่ทำงาน แต่สามารถเดินทางมาที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว แถมการขนส่งสินค้าก็ยังทำได้สะดวกสบายรวดเร็วยิ่งขึ้น
การลงทุน การจ้างงาน การขยายตัวของธุรกิจที่มากขึ้น การสร้าง Hyperloop จะส่งผลให้เกิดการลงทุนที่มากขึ้นทั้งในภาครัฐและเอกชน ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลต่อการจ้างงานที่มากขึ้นเป็นมหาศาล ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้น และส่งผลกระทบโดยอ้อมไปในอีกหลายๆธุรกิจ
Hyperloop ก็ถือว่ายังเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการทดลองก่อนนำมาใช้จริง และยังมีอุปสรรคมากมายที่ยังทำให้เทคโนโลยีนี้ยังไม่ถูกใช้งานจริง แต่ก็มีหลายประเทศวางแผนและเตรียมจะนำไปใช้จริงแล้วในอนาคตอันใกล้ อาจจะคล้ายกับในอดีตที่เราเคยกลัวการเดินทางโดยรถยนต์ว่าเครื่องยนต์มีโอกาสจะระเบิดหรือเปล่า
หรือในอดีตที่เราก็ไม่คิดว่าคนจะสามารถบินบนอากาศได้ การเรียนรู้จากความผิดพลาดและแก้ไข จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อเทคโนโลยีและการพัฒนาของมนุษย์ พี่ทุยขอเอาใจช่วยให้เทคโนโลยี Hyperloop ประสบความสำเร็จ และหวังว่าประเทศไทยจะมีโอกาสได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในอนาคตได้ ใครจะไปรู้ในอนาคตเราอาจจะสามารถเดินทางข้ามไปยุโรปภายในไม่กี่ชั่วโมงก็เป็นได้
Comment