หากได้ติดตามตลาดคริปโตมาซักพักจะทราบว่าในช่วงนี้ตลาดคริปโตมีมูลค่าที่ลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากช่วงต้นปี 2018 หลังจากที่เข้าสู่ขาขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2017 ที่ Bitcoin พุ่งไปแตะที่ราคา 20,000 ดอลลาร์
อ้างอิงจาก Coinmarketcap หากเปรียบเทียบมูลค่าทั้งหมดของตลาดคริปโตตั้งแต่ต้นปี 2018 กับในขณะที่เขียนบทความอยู่นี้จะพบว่า เมื่อต้นปี 2018 มูลค่าโดยรวมของตลาดคริปโตนั้นพุ่งขึ้นไปแตะ 8.2 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ตอนนี้เหลือเพียง 2.23 แสนล้านดอลลาร์ เรียกได้ว่าลดลงมาหลายเท่าตัว
รวมทั้งมูลค่าของ Bitcoin เมื่อช่วงต้นปี 2018 นั้นอยู่ที่ 17,000 ดอลลาร์ และในตอนนี้เหลือเพียง 6,700 ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนคริปโตที่เคยเชื่อมั่นว่า Bitcoin นี่แหละคืออนาคตของโลก อาจจะเกิดความคลางแคลงใจได้ว่า ตลาดคริปโตกำลังล่มสลายหรือไม่ และราคา Bitcoin จะไปต่อหรือไม่ โดยในบทความนี้พี่ทุยจะทำการวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆว่าอนาคตของ Bitcoin จะเป็นอย่างไร
มูลค่า Bitcoin ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ตลาดคริปโตนั้นเป็นที่เลื่องชื่อในความผันผวนอันรุนแรงอยู่แล้ว การที่ราคาของคริปโตจะแกว่งวันละ 50 เปอร์เซ็นต์นั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอนว่าในภาพที่กว้างขึ้น การที่ราคาของมันพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2017 ก็เป็นเรื่องปกติที่จะลงมาปรับฐานเฉกเช่นสินทรัพย์ทั่วไป
หากลองดูในช่วงปี 2013 จะพบว่าราคาของ Bitcoin ได้ทะยานจาก 100 ดอลลาร์ ไปยัง 1,200 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีเท่านั้น
และหลังจากการทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่งของ Bitcoin มันก็กลับมาพักตัวในปีต่อมา จนกลับมาอยู่ที่ระดับ 300 ดอลลาร์
มันใช้เวลาพักฟื้นและปรับฐานอยู่เกือบ 2 ปี ก่อนที่มูลค่าของมันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอีกครั้งจนไปสู่ระดับ 1,000 ดอลลาร์ในปลายปี 2016
และมาถึงปี 2017 ที่ราคาของมันกลับมาทะยานอีกครั้งเช่นเดียวกับเมื่อตอนที่มันขึ้นจาก 100 ไปยัง 1,200 ดอลลาร์ ในปีนี้ มันพุ่งจาก 1,000 ดอลลาร์ไปแตะ 20,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมการเงิน เนื่องจากมูลค่าของมันเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่าภายในปีเดียว จะสังเกตจากรูปได้ว่าการทะยานราคาของมันในครั้งนี้ ทำให้เหตุการณ์ช่วงขาลงในปี 2014 ถึง 2016 กลายเป็นแค่เส้นกราฟขยับขึ้นลงเล็ก ๆ ไปเลย
ในปี 2018 ราคาของมันกลับเข้าสู่ช่วงพักฟื้นและปรับฐาน ทำให้ตลาดคริปโตเข้าสู่ขาลงตั้งแต่ต้นปี 2018 เป็นต้นมา สังเกตว่าเหตุการณ์นี้คล้ายกับเมื่อตอนปี 2013 เป็นอย่างมากที่มีการพุ่งขึ้นของราคาและปรับฐานอยู่เกือบ 2 ปี เป็นไปได้หรือไม่ว่าในรอบนี้ Bitcoin จะปรับฐานอีกครั้งก่อนที่มูลค่าของมันจะกระโดดไปสู่จุดสูงสุดใหม่ ?
ทำไมราคา “Bitcoin” ถึงทะยานขึ้นมาได้
โดยพื้นฐานแล้ว Bitcoin เป็นสินทรัพย์ชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจากสินทรัพย์ชิ้นเดิมๆเลย คือ ราคาของมันขับเคลื่อนตามความต้องการซื้อและความต้องการขาย หากมีคนอยากซื้อมากกว่าคนขาย ราคาก็จะขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากมีคนอยากขายมากกว่าคนอยากซื้อ ราคามันก็จะลง เพียงแต่ว่าเหตุการณ์หรือปัจจัยพิเศษอื่นๆในตลาดคริปโตนั้นแตกต่างไปจากตลาดอื่นๆ โดยมีปัจจัยหลักๆ เช่น การ Hard Fork ของ Bitcoin ที่คนที่ถือ Bitcoin จะได้เหรียญที่ Fork ออกมาฟรีๆ ทำให้มีคนแห่ซื้อ Bitcoin กันเยอะ, การที่มีเครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มขึ้น เช่น CBOE เปิด Bitcoin Futures ทำให้เงินไหลเข้ามาตลาดคริปโตมากขึ้น และส่วนใหญ่จะไหลเข้ามาใน Bitcoin หรือการที่ Bitcoin เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นโดยคนส่วนใหญ่ ก็เป็นอีกปัจจัยเช่นกัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาขึ้น ยังสนับสนุนในอนาคตอยู่หรือไม่ ถ้าสนับสนุนอะไรบ้างที่เป็นความเสี่ยง
สำหรับตอนนี้ เหตุการณ์ที่จะทำให้เงินไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตนั้น คือ การได้รับการอนุมัติ Bitcoin ETF โดย SEC ของสหรัฐฯ ซึ่งได้มีเอกชนหลายเจ้าได้ยื่นให้อนุมัติอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2018 แต่ SEC ก็ได้เลื่อนพิจารณา และปฎิเสธไปเกือบหมด แต่ก็มีนักวิเคราะห์ และผู้มีชื่อเสียงในวงการคริปโตหลายคนที่คนเดาไว้ว่า Bitcoin ETF จะได้รับการอนุมัติภายในปี 2019 ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น เนื่องจากตอนนี้ SEC ยังคงไม่พร้อมที่จะรองรับคริปโตให้สามารถมี ETF ได้ ด้วยปัญหาด้านกฎหมาย
หาก Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติจะมีเงินมหาศาลไหลเทเข้ามาจากสถาบันการเงิน และกองทุนใหญ่ๆอย่างแน่นอน เนื่องจากในขณะนี้สถาบันการเงินเหล่านั้น ต้องการความปลอดภัยในสินทรัพย์ และต้องการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง Bitcoin ETF จะมอบให้พวกเขาได้ ความเสี่ยงเดียวในตอนนี้คือ ผู้คนในตลาดอาจจะรอการได้รับอนุมัตินั้นไม่ไหว และอาจทำให้ออกจากตลาดไปหมดซะก่อนเท่านั้น ที่เหลือยังคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะว่าเทคโนโลยีของ Bitcoin และ Blockchain นั้น จะมาปฎิวัติโลกของเราอย่างแน่นอน