ทำไม “ดอลลาร์สหรัฐฯ” เป็นสกุลเงินหลักของโลก - ประเทศไหนจะล้มแชมป์ได้ ?

ทำไม ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินหลักของโลก – ประเทศไหนจะล้มแชมป์ได้ ?

3 min read  

ฉบับย่อ

  • ก่อนดอลลาร์สหรัฐฯ จะขึ้นมาเป็นสกุลหลักของโลก ปอนด์สเตอลิงก็ครองตำแหน่งนี้มาก่อน โดยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่งก้าวขึ้นมาแทนที่หลัง Bretton Woods Agreement
  • เหตุผลที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลหลักของโลกมายาวนาน เพราะเงินเคลื่อนไหวอย่างอิสระ มีตลาดตราสารหนี้ที่ใหญ่พอ ต่างชาติเข้าถึงได้ ธนาคารกลางดำเนินนโยบายเป็นอิสระ และการค้าทั่วโลกพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เยอะ
  • เงินที่มาท้าชิงตำแหน่งสกุลเงินหลักของโลก ทั้งยูโร หยวน และคริปโตเคอร์เรนซี ยังมีความห่างไกลที่จะขึ้นมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็เป็นคู่แข่งที่ต้องจับตา

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ช่วงนี้เราได้ยินโลกพูดถึงสกุลเงินดิจิทัลว่า จะมาแทนที่เงินที่เราจับต้องได้อย่างทุกวันนี้ รวมถึงเงินหยวนที่ได้รับการยอมรับให้ใช้ซื้อขายสินค้าจากประเทศคู่ค้าได้ ไม่ต้องใช้เงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วจะมีสกุลเงินอื่น ๆ มาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ มั้ย วันนี้พี่ทุยเลยอยากชวนมาคิดไปด้วยกันว่า “จะเป็นไปได้มั้ย ที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเสียตำแหน่งสกุลเงินหลักของโลกให้เงินสกุลอื่นไป ?”

พี่ทุยขอเล่าก่อนว่า จริง ๆ แล้วเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้เป็นสกุลเงินหลักของโลกตั้งแต่แรก ก่อนหน้าที่ดอลลาร์สหรัฐฯ จะยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ ปอนด์สเตอลิงของอังกฤษ ก็เป็นที่หนึ่งมาก่อน

สกุลเงินในทุนสำรองระหว่างประเทศช่วง 120 ปีที่ผ่านมา

ทำไม “ดอลลาร์สหรัฐฯ” เป็นสกุลเงินหลักของโลก - ประเทศไหนจะล้มแชมป์ได้ ?

จุดเปลี่ยนสกุลเงินหลักของโลกเกิดขึ้นเมื่อตัวแทน 44 ประเทศพันธมิตร ไปทำข้อตกลงเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods Agreement) ในการประชุมที่เมืองเบรตตันวูดส์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ของสหรัฐฯ เมื่อปี 1944  

ทั้งหมดร่วมกันก่อตั้งระบบจัดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่จะทำให้ไม่มีประเทศไหนต้องเสียเปรียบกัน และล้มเลิกการผูกสกุลเงินกับทองคำ แต่ให้ผูกโยงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แทน ด้วยเหตุผลในเวลานั้นว่า เงินดอลลาร์สหรัฐฯ หนุนหลังด้วยทองคำอยู่แล้ว  

ในการประชุมนั้นเป็นต้นกำหนดการก่อตั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) ด้วย เพื่อทำหน้าที่รักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่ ระหว่างการแลกเปลี่ยนสกุลเงินของประเทศพันธมิตรในกลุ่มกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนสหรัฐฯ ก็สามารถนำเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแลกเปลี่ยนเป็นทองคำได้ตามความต้องการ

ด้วยจุดเปลี่ยนนี้ หลายประเทศเลยเปลี่ยนจากสะสมทองคำเป็นทุนสำรอง ไปสะสมเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แทน และเมื่อความต้องการมีดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ครอบครองมากขึ้น หลายประเทศก็เริ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะมองว่าเป็นที่เก็บเงินที่ปลอดภัยจนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นสกุลเงินหลักของโลกได้ในที่สุด จากการยอมรับของนานาประเทศ

แต่ก็ใช่ว่าระหว่างทางการเป็นที่หนึ่ง ดอลลาร์สหรัฐฯ จะไม่เคยก้าวพลาดเลย เพราะสหรัฐฯ เคยใช้จ่ายแบบขาดดุลมาก มีการออกพันธบัตรจำนวนมาก รวมทั้งพิมพ์เงินออกมาโดยไม่มีทองคำหนุนหลัง เพื่อหาเงินไปใช้จ่ายในสงครามเวียดนาม รวมทั้งโครงการทางสังคมในประเทศต่าง ๆ เป็นเหตุให้เกิดปัญหาเงินท่วมตลาด สั่นคลอนเสถียรภาพเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ประเทศต่างๆ เริ่มย้ายกลับจากถือดอลลาร์สหรัฐฯ มาสำรองทองคำ และเกิดจุดเปลี่ยนต่อมา คือ ในปี 1971 ช่วงประธานาธิบดี Richard Nixon ของสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจยกเลิกเชื่อมโยงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กับทองคำ นำไปสู่การใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวถึงทุกวันนี้ 

เหตุผลที่ ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินหลักของโลก

ถ้าจะมาดูเหตุผลว่า อะไรที่ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินสกุลหลักของโลก ที่ประเทศต่างๆ เชื่อถือ และเก็บไว้เป็นทุนสำรองมากที่สุดจนถึงทุกวันนี้ ก็มาจาก 4 ประเด็นหลัก ๆ เลย คือ

1) ค่าเงินเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล

2) ตลาดตราสารหนี้มีขนาดใหญ่มากและมีสภาพคล่องมากพอที่นักลงทุนต่างชาติเข้าถึงได้

3) ธนาคารกลางมีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบาย

4) ถูกใช้ในการค้าเป็นวงกว้างและในการทำธุรกรรมทั่วโลก

แล้วถ้านำเอาเหตุผลพวกนี้ ไปใช้ดูค่าเงินอื่น ๆ ที่จะถูกพูดถึงว่าจะเป็นคู่แข่งของดอลลาร์สหรัฐฯ ในการก้าวขึ้นมาเป็นสกุลเงินหลักของโลก พี่ทุยก็ขอวิเคราะห์ ดังนี้

เงินยูโร

เป็นสกุลเงินที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สุดแล้ว และปัจจุบันเงินยูโรเป็นเป็นสกุลเงินอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะเงินที่อยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศ ในตลาดตราสารหนี้ระหว่างประเทศ ในการปล่อยสินเชื่อ การแลกเปลี่ยนเงิน และการชำระเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่พบว่าการชำระเงินด้วยสกุลเงินยูโรนั้นเพิ่มขึ้นมาก จนส่วนต่างระหว่างการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กับการใช้เงินยูโรชำระเงินเริ่มเข้าใกล้กันมากขึ้น

ความสำคัญของเงินยูโรในระบบการเงินระหว่างประเทศ

สัดส่วนธุรกรรมเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ และ เงินยูโร

แม้เงินยูโรจะมีโอกาสที่จะเทียบชั้นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากที่สุด แต่ก็ยังต้องใช้ความพยายามอีกมากที่จะทำให้เข้าใกล้อันดับหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้พี่ทุยมองว่าต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของยุโรปด้วยว่าจะดันเศรษฐกิจการค้าขายกับต่างประเทศให้โตได้แค่ไหน ทำให้ตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ ได้รับความนิยมได้มากเท่ากับฝั่งสหรัฐฯ รึเปล่า เพราะทุกส่วนนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับค่าเงินทั้งนั้น

เงินหยวน

แน่นอนว่าเศรษฐกิจจีนมีความสำคัญกับโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ การค้าขาย ทำธุรกรรมด้วยเงินหยวนเพิ่มขึ้น แต่เงินหยวนก็ยังขาดคุณสมบัติสำคัญอื่น ๆ ของการเป็นสกุลเงินหลักของโลก คือ เงินหยวนยังถูกควบคุมโดยรัฐบาล ธนาคารกลางก็ไม่ได้ดำเนินนโยบายการเงินแบบอิสระ และตลาดตราสารหนี้ของจีนที่แม้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่นักลงทุนต่างชาติก็ยังเข้าถึงตลาดได้ค่อนข้างจำกัด

พี่ทุยมองว่า ถ้าดูแค่ประเด็นเรื่องการควบคุมเงินหยวนนี้ คงจะอีกยาวไกลมากที่เงินหยวนจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ เอาแค่แซงเงินยูโรที่ตอนนี้เป็นอันดับสองของโลกอยู่ ก็ยังยากเลย

ยกเว้นว่า แนวทางของโลกเราจะถูกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่สนใจแล้วว่า ค่าเงินนั้นต้องเคลื่อนไหวโดยอิสระ เอาที่ความสำคัญของใช้เพื่อการค้า การทำธุรกรรมเท่านั้น

อ่านเพิ่ม

คริปโตเคอร์เรนซี กับสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง จะเป็นคู่แข่ง ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้มั้ย

พี่ทุยมองว่าคริปโทเคอร์เรนซี เป็นเพียงเครื่องมือในตลาดเงิน ตลาดทุนยุคดิจิทัลเท่านั้น แต่จะให้ขึ้นมาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินหลักของโลกเลย ยังเป็นไปได้ยาก เพราะไม่ใช่สกุลเงินที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แถมบางประเทศยังกีดกันด้วยซ้ำ เพราะมองว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือในตลาดมืด การฟอกเงินได้

แต่ถ้าเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ตรงนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ในอนาคต ซึ่งพี่ทุยมองว่า สกุลเงินดิจิทัลที่จะขึ้นมาได้ ก็คงหนีไม่พ้นสกุลเงินจากประเทศมหาอำนาจที่กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

เผลอ ๆ แล้ว ตัวที่จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็คงจะเป็นสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลที่สหรัฐฯ กำลังพัฒนานั่นแหละ เรียกง่ายๆ ก็แค่แปลงร่างจากสกุลเงินปกติที่จับต้องได้ มาเป็นสกุลเงินดิจิทัล เข้ากับยุคสมัย เท่านั้นเอง แต่ตัวประเทศแกนหลักที่เป็นผู้สร้างค่าเงิน และเป็นใหญ่ในเวลาค่าเงินโลก ก็ยังเป็นประเทศเดิม ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง

โดยรวมแล้ว พี่ทุยมองว่า ถ้ามองระยะใกล้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะยังรักษาตำแหน่งสกุลเงินหลักของโลกเอาไว้ได้ แต่ความสำคัญในเวทีโลกอาจจะลดลงบ้าง เพราะคู่แข่งที่มาแรงแซงโค้งค่อย ๆ จะก้าวเข้ามามีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น ซึ่งสหรัฐฯ ในฐานะมหาอำนาสจประเทศหนึ่งในโลก ก็คงจะไม่ยอมให้ตัวเองเสียแชมป์นี้ไปได้ และต้องพยายามหาทุกทางมาเพิ่มขีดความสามารถเพื่อยังคงรักษาที่หนึ่งเอาไว้ได้ในที่สุด

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ประมาทคู่แข่งที่น่าจับตาทั้งหลายไม่ได้ เพราะขนาดเงินปอนด์สเตอลิงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในโลกได้ สุดท้ายก็ยังพ่ายแชมป์ให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ไป ฉะนั้น อะไรก็ไม่แน่นอน ถ้าในอนาคตมีมหาอำนาจอื่นที่สามารถสร้างพลังยิ่งใหญ่ทำให้ค่าเงินของตัวเองมีความสำคัญในเวทีโลก ได้รับการยอมรับจนนานาประเทศต้องเก็บไปไว้ในทุนสำรองมาก

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย