เหตุผลที่เราต้องมี “เงินฉุกเฉิน” เพราะหลายครั้งชีวิตก็มีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นการเตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉินถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าชีวิตจะสามารถก้าวเดินต่อไปได้ไม่สะดุด
ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับเรื่องฉุกเฉินแล้ว หนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาได้ก็คือ “เงินออม” เพราะทุกเรื่องฉุกเฉินไม่ว่าจะเจ็บป่วย รถชน หรือแม้กระทั่งตกงาน การแก้ไขปัญหาจะต้องใช้เงินเป็นองค์ประกอบสำคัญ
วันนี้พี่ทุยเลยจะมาแนะนำว่าควรเก็บเงินฉุกเฉินที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัยและเหมาะที่สุด
ทางเลือกที่ 1 บัญชีเงินฝาก
ถือว่าเป็นทางเลือกสุดคลาสสิก เพราะง่าย สะดวก และทุกคนคุ้นเคย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องสภาพคล่องถือว่าคล่องตัวที่สุด จะฝากถอนเมื่อไรก็ได้ และความปลอดภัยก็อยู่ในระดับที่ดีมาก เหมือนมีความมั่นคง 2 ชั้น เพราะนอกจากตัวธนาคารเองที่มีการกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว บัญชีเงินฝากยังได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (DPA) อีกด้วย
วงเงินคุ้มครองสูงสุด 1 ล้านบาทต่อคนต่อธนาคาร โดย DPA จะทำหน้าที่จ่ายเงินคุ้มครองให้กับผู้ฝากผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชน ภายใน 30 วัน หากเกิดกรณีสถาบันการเงินมีปัญหาถึงขั้นถูกสั่งปิดกิจการเท่านั้น ลองเข้าไปดูรายละเอียดวิธีการคุ้มครองเงินฝาก เพื่อความสบายใจกันได้เลย 👉 ที่นี่
หรือถ้าไม่แน่ใจว่าสถาบันการเงินที่เราฝากอยู่ได้รับความคุ้มครองหรือเปล่า ก็ไปเช็คกันได้เลย 👉 ที่นี่
และก็แน่นอนว่าผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่ได้จะอยู่ระดับ 1-1.5% เท่านั้น แต่ก็แลกมากับความปลอดภัยและสภาพคล่องที่ดีมาก
ทางเลือกที่ 2 กองทุนรวมตลาดเงิน
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ให้สภาพคล่องสูง ขายวันนี้ได้เงินพรุ่งนี้ (T+1) ถือว่าสภาพคล่องอยู่ในระดับที่ดี แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนไม่ได้สูงมากนัก จากข้อมูลในอดีตอยู่ที่ประมาณ 1–2% ต่อปี สำหรับกองทุนรวมตลาดเงินแล้วถือว่าเป็นกองทุนรวมความเสี่ยงระดับ 1 ที่ต่ำที่สุด
ซึ่งจากที่พี่ทุยดู ๆ มาก็มีบาง บลจ. เริ่มทำให้กองทุนรวมตลาดเงินสามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมงแล้ว ได้เงินสดเข้าบัญชีเลยทันที เรียกว่าสะดวกมากขึ้นแล้วในตอนนี้
ทางเลือกที่ 3 กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น
สำหรับพี่ทุยค่อนข้างชอบกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นนะ แม้เรื่องของสภาพคล่องอาจจะด้อยกว่านิดหน่อย เพราะขายและเปลี่ยนเป็นเงินสดใช้เวลา 2 วัน (T+2) แต่ก็ชดเชยด้วยผลตอบแทนที่ดีกว่า
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่เลือกด้วย ซึ่งถ้าเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ก็มักจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2-3% ต่อปี