JPMorgan โดนโกง เมื่อแร่นิกเกิลที่เก็บไว้ กลายเป็นแค่หิน

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • เกิดเรื่องประหลาด เมื่อแร่นิกเกิลที่ JPMorgan เก็บไว้ในโกดังที่ร็อตเตอร์ดัม อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นหิน  
  • Commodity fraud หรือ การฉ้อโกงในสินค้าโภคภัณฑ์มีมานานแล้ว เกิดจากความพยายามหากินกับ ผู้ที่เข้ามาซื้อขายสัญญาซื้อขายสินค้าล่วงหน้า เพื่อหวังเก็งกำไร ไม่ได้หวังส่งมอบสินทรัพย์จริง 
  • ในไทย ก็มีการโกงในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นลักษณะแชร์ลูกโซ่ เช่น ชวนออมทอง เป็นต้น

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ไม่นานมานี้ มีรายงานข่าวออกมาว่า แร่นิกเกิล มูลค่ากว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ ที่ JPMorgan เก็บใส่ถุงเอาไว้ในโกดังที่เมืองร็อตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ และเป็นแร่ที่ใช้เป็นหลักประกันในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้านิกเกิล ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) อยู่ดี ๆ ก็ถูกเปิดออกมาพบว่า เป็นแค่หินธรรมดา ๆ เท่านั้น ทำเอานักลงทุนงงเป็นไก่ตาแตก ที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan โดนโกง

เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นิกเกิล กลายเป็นหินตอนไหน ถูกหัวขโมยมาแอบสับเปลี่ยนไป หรือเป็นการโกงโดยใครสักคน วันนี้ พี่ทุยจะมาชวนติดตามประเด็นนี้ด้วยกัน พร้อมทั้งวิเคราะห์ประเด็นการโกงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งนี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรก และยังจัดเป็นความเสี่ยงในการลงทุนอย่างหนึ่ง ที่นักลงทุนควรศึกษาไว้ 

สรุปเหตุการณ์นิกเกิลกลายเป็นหิน JPMorgan โดนโกง 

  • The London Metal Exchange (LME) ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนโลหะในลอนดอน เปิดเผยเรื่องประหลาดใจว่า คลังสินค้าในร็อตเตอร์ดัม ที่ทุกคนคิดว่า เป็นสถานที่จัดเก็บแร่นิกเกิลไว้ 54 เมตริกตัน ถูกพบว่า สิ่งที่เก็บอยู่มีเพียงก้อนหินธรรมดา ๆ เท่านั้น 
  • J.P.Morgan เป็นหนึ่งในผู้โชคดี ที่เป็นเจ้าของถุงแร่นิกเกิลทิพย์ ในคลังสินค้าแห่งนี้ โดยประเมินค่าสิ่งที่คิดไปเองว่าเป็น นิกเกิล เอาไว้ 1.3 ล้านดอลลาร์ ณ ราคาปัจจุบัน 
  • J.P.Morgan ซื้อแร่นิกเกิลมานานหลายปีแล้ว และยังเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดแร่ด้วย
  • เหตุการณ์นี้ทำให้นักลงทุนเกิดคำถามว่า จะมั่นใจกับสัญญาซื้อขายแร่ในตลาด LME ได้อย่างไร ในเมื่อไม่สามารถมั่นใจในความปลอดภัยของตัวสินค้าได้ 
  • ก่อนหน้าที่ J.P.Morgan จะเจอเหตุการณ์นิกเกิลกลายเป็นหิน ก็เคยมีผู้ค้าในตลาดนิกเกิลที่ต้องสูญเงินเพราะเจอของปลอมแบบนี้แล้วเหมือนกัน

พี่ทุย มองว่า เหตุการณ์ นิกเกิลกลายเป็นหินนี้ จัดอยู่ในกลุ่มเหตุการณ์การฉ้อโกงในสินค้าโภคภัณฑ์ (commodities fraud) ซึ่งหมายถึง การกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยพยายามหาเงิน จากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์นั่นเอง

Commodity fraud ทำไมมาพร้อมสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้น เป็นสัญญาหรือข้อตกลงที่บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย โดยที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกลงที่จะจ่ายเป็นราคาที่แน่นอน ทดแทนการส่งมอบสินค้าโภคภัณฑ์ให้ทันกำหนดการ โดยตัวอย่างสินทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักประกันอ้างอิงในการซื้อขาย ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำมันปิโตรเลียม ไปจนถึงแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ทองคำ ทองแดง เงิน และนิกเกิล เป็นต้น 

ปกติแล้ว คนที่มาทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก็อาจจะมีคนที่ต้องการสินทรัพย์นั้นเพื่อไปใช้ในธุรกิจจริงๆ ก็ได้ เช่น มาทำสัญญาซื้อล่วงหน้านิกเกิล เพราะอยากได้นิกเกิลไปใช้ในอุตสาหกรรม แต่จริงๆ แล้ว คนจำนวนมากที่เข้ามาซื้อขายสัญญาล่วงหน้า จะเป็นนักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรเสียมากกว่า ไม่ได้ต้องการจะส่งมอบสินทรัพย์นั้นจริงๆ  

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมี นักโกงหัวใส สบช่องในการใช้กลโกง เพื่อเข้ามาหากำไรจากธรรมชาติของนักลงทุนที่เป็นเช่นนี้ คือ ไหน ๆ ก็ซื้อสัญญากันเพื่อเก็งกำไรอยู่แล้ว ก็แอบเอาสินทรัพย์เก๊มาเป็นหลักประกันในสัญญาซื้อขายนั้นซะเลย ระหว่างซื้อขายไป ก็ได้กำไรแบบเนียน ๆ เพราะจะไม่มีใครรู้ว่า สินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันเป็นของเก๊ จนกว่าจะต้องการนำไปเพื่อใช้จริง 

การฉ้อโกงแบบนี้ มักเกิดขึ้นในสินทรัพย์ที่ซื้อขายอยู่ในตลาดแลกเปลี่ยนที่เป็นทางการ เช่น ตลาดสินค้าล่วงหน้า Chicago Board of Trade ตลาดซื้อขายอนุพันธ์  Chicago Mercantile Exchange ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า New York Futures Exchange ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในอเมริกากลาง the MidAmerica Commodity Exchange และคณะกรรมการการค้าเมืองแคนซัส เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีการฉ้อโกงอีกแบบ คือ ออกไปทำนอกตลาดซื้อขายที่เป็นทางการ เป็นการทำกันเอง โดยสมาชิกที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ อารมณ์ก็คล้าย ๆ กับวงแชร์ลูกโซ่ หรืออารมณ์เหมือนสั่งของแล้วได้ของย้อมแม้วไม่ตรงปก ซึ่งก่อนหน้านิกเกิลเป็นหิน ก็มีการส่งมอบทองแดงเก๊ ที่ถูกพบว่าจริงๆ แล้ว เป็นหินที่ทาสีมา 

พี่ทุยต้องบอกว่า จริง ๆ แล้ว กลโกงแบบนิกเกิลกลายเป็นหิน หรือของมีค่าอย่างอื่น กลายเป็นหินที่เกิดขึ้นในตลาด ไม่ใช่เหตุการณ์แปลกใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เหตุการณ์โกงทำนองนี้ มีมาตั้งแต่ช่วงปี 1880 แล้ว ภายใต้ชื่อ bucket shops จะเรียกว่าเป็นต้นแบบของการโกงเลยก็ได้ 

bucket shops เป็นเหมือนร้านค้าที่เปิดให้ผู้คนสามารถมาเดิมพันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ โดยการเดิมพันไม่ได้อยู่ในรูปแบบของสัญญาที่ซื้อขายบนตลาดแลกเปลี่ยน แต่เป็นการจดบันทึกลงในสมุด และส่งมอบสินทรัพย์ ซึ่งผู้ที่เดิมพันเป็นคนจัดเตรียมสินทรัพย์มาวางไว้ ส่วนนักเดิมพันด้วยกัน ก็จะไม่รู้หรอกว่า ตัวเองเดิมพันอยู่บนสินทรัพย์ปลอม ๆ จนกว่าจะถึงคราวที่ชนะและรับเป็นสินทรัพย์กลับไป 

สัญญาณอันตรายหลอกซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ ที่อาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ หรือถูกโกงได้ 

  1. ทำให้คุณเชื่อว่า จะได้กำไรจากข่าวในตอนนี้ที่ตลาดรับรู้อยู่ เช่น ผลจากพายุเฮอริเคน ทำให้ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันสูงขึ้น 
  2. บอกต่อด้วยวาจาหรืออีเมลจากเพื่อนฝูง คนรู้จักในวงสังคม
  3. อ้างว่ารู้ข่าววงในตลาดที่ไม่เหมือนใคร มีประวัติการซื้อขายทำกำไรได้สูง 
  4. รับประกันผลตอบแทนรวดเร็วและจำนวนมาก
  5. ติดต่อคุณโดยขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือที่อยู่
  6. ขอให้จ่ายเงินสดทันที 

กลับมาดูที่ไทยกันบ้าง พี่ทุยต้องบอกว่า ไทยก็เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกัน เรื่องกลโกงอะไรแปลก ๆ ที่จะหลอกเงินคน ซึ่งที่ผ่านมา เราก็คงได้เห็นข่าวออกมากันบ่อยๆ ว่า มีการหลอกให้ออมทอง ชักชวนคนมาออม แล้วรับเงินปันผลกันเป็นทอด ๆ รวมถึงรับทอง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทอง แถมยังสูญเงินต้นอีก 

นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มแชร์น้ำมัน แชร์สินค้าเกษตร ที่มาในรูปแบบเดียวกันกับการออมทองด้วย ซึ่งทุกครั้ง กว่าจะมารู้ตัวว่า ถูกหลอก ก็เจ็บตัวกันไปหลายทอดแล้ว 

อีกรูปแบบที่เกิดขึ้นในไทย คือ การตั้งตัวเป็นผู้เทรด ชวนคนอื่นให้มาร่วมลงทุนเพื่อไปทำกำไรกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยตัวเองจะมาแบ่งผลตอบแทนให้ 

พี่ทุยมองว่า โดยรวมแล้วเหตุการณ์โกงลักษณะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งในระดับโลกและในไทย แม้จะต่างรูปแบบกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่คนดิ้นรนแสวงหาผลตอบแทนสูง ๆ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ตกต่ำ หรือในช่วงที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์นั้น ๆ กำลังปรับขึ้นอย่างแรง เพราะเป็นที่ต้องการมาก ๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยโน้มน้าวชั้นดี ที่จะทำให้คนอยากเข้ามาลงทุนได้ 

ฉะนั้น สิ่งที่พี่ทุยอยากฝากเอาไว้ก็คือ ก่อนลงทุน ต้องทำความเข้าใจความเสี่ยงของสิ่งที่ไปลงทุนให้ดีก่อน ไม่ว่าท่านจะเป็นนักลงทุนรายเล็ก รายใหญ่ ก็พลาดได้ทั้งนั้น และท่านไม่ควรฝากความหวัง เงินลงทุนของท่าน ไว้กับสิน่ทรัพย์ประเภทใด ประเภทหนึ่งมากเกินไป เพราะสินทรัพย์อะไร ๆ ก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile