เชื่อกันหรือไม่ว่าหนึ่งในสินทรัพย์การลงทุนหนึ่งที่ได้รับความนิยมเสนอนั่นก็คือ “อสังหาริมทรัพย์” เหตุผลนึงก็เพราะว่าที่ดินที่เป็นจุดเริ่มต้นในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นมีแนวโน้มของราคาเป็นขาขึ้นตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
ข้อมูลจาก เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) หรือโรงเรียนอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของไทย ได้มีการเก็บข้อมูลย้อนหลังราคาที่ดินพื้นที่ “กรุงเทพ ฯ และปริมณฑล” ตั้งแต่ปี 2528 จนถึง 2563 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าราคาที่ดินมีการปรับตัวขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 66.8 เท่า !! หลังจากระยะเวลาผ่านมา 35 ปี
แม้แต่ในช่วงที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งช่วงปี 2540 ที่ถือว่าเป็นวิกฤตใหญ่ที่จุดเริ่มต้นของวิกฤตมาจากไทยเรา ราคาที่ดินก็มีการปรับตัวลดลงเพียง 22% เท่านั้น และใช้เวลาประมาณ 8 ปีราคาที่ดินก็สามารถกลับมาสู่ระดับเดิมได้ หรือในช่วงที่เกิดวิกฤตครั้งใหญ่ของโลกอีกครั้งเมื่อปี 2552 ราคาที่ดินบ้านเราก็ไม่ได้ปรับลดลงหรือได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย และยังสามารถมีราคาที่ปรับเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งในช่วง 2561 – 2563 ด้วยแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น ยิ่งทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาที่เกิดการระบาดของโควิด-19 จะทำให้ราคาที่ดินมีการชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย แต่งานวิจัยหลาย ๆ ที่ก็ยังมองว่าเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น
จะเห็นได้ว่า “ที่ดิน” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาว ที่แม้จะเกิดวิกฤตก็ยังส่งผลกระทบต่อราคาไม่มากนัก ส่วนตัวพี่ทุยเชื่อว่าทุกคนมีโอกาสเป็นนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะ “บ้านเพื่ออยู่อาศัย” ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต และการ “ซื้อบ้าน” ก็ไม่ต่างอะไรกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เรามีโอกาสที่จะได้รับกำไรจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
แล้วยิ่งเป็นที่ดินในโซน “กรุงเทพ ฯ และปริมณฑล” จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าราคามีแนวโน้มที่ชัดเจนมากกว่าโซนอื่น ๆ เพราะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการพัฒนาต่าง ๆ มากมายที่เป็นปัจจัยบวกต่อราคาที่ดิน ซึ่งนั่นก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม “บ้านเพื่ออยู่อาศัย” ในโซนกรุงเทพ ฯ หลาย ๆ ที่มักถูกเรียกว่า “โครงการบ้านหรู” เพราะราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าในอนาคตราคาก็ยิ่งจะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ
สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้าน และต้องการ “ซื้อบ้าน” เพื่ออยู่อาศัยในโซนกรุงเทพ ฯ พี่ทุยว่าการตัดสินใจซื้อหรือลงทุนตั้งแต่วันนี้อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมอยู่เหมือนกัน เพราะแทบจะไม่มีโอกาสเลยที่ราคาที่ดินจะปรับตัวลง ส่วนแนวโน้มก็อย่างที่เราเห็นเลยว่ามีแต่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น
วันนี้พี่ทุยเลยจะพาไปส่องโครงการบ้านหรูจากทาง AP ที่ชื่อว่า “บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา” เริ่มต้น 14.99 – 35 ล้านบาท และ “THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา” เริมต้น 12.9 – 17 ล้านบาท ว่าทำไมถึงเป็นอีก 2 โครงการบ้านหรูที่น่าสนใจ
โครงการ บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา
โครงการบ้านหรูบรรยากาศธรรมชาติสไตล์รีสอร์ทใจกลางเมือง ทำเลลาดพร้าว เชื่อมต่อ รัชดา-เอกมัย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 3 ชั้น ดีไซน์ Modern Luxury ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ ด้วยแนวคิด Multiverse Layout ผสานสถาปัตยกรรมเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างการใช้งานและการพักผ่อนให้เป็นหนึ่งเดียว เริ่ม 14.99-35 ล้าน*
สามารถอ่านข้อมูลของโครงการบ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา เพิ่มเติมได้ที่นี่
โครงการ THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา
โครงการบ้านหรูสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค เอกสิทธิ์เพียง 56 ครอบครัว บนทำเลสวนหลวง เชื่อมต่อ สุขุมวิท-พัฒนาการ ร่มรื่นและสงบ บรรยากาศส่วนตัว พร้อมความงดงามของสถาปัตยกรรม บ้านหรู 4 แบบ 4 ดีไซน์ ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องอเนกประสงค์ เริ่ม 12.9-17 ล้าน*
สามารถอ่านข้อมูลของโครงการ THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา เพิ่มเติมได้ที่นี่
นอกจากนี้ก็ยังอีกมีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ โครงการบ้านหรู CLASSE และ SONNE จาก AP เป็นอีก 2 โครงการบ้านหรูเพื่ออยู่อาศัยที่น่าสนใจอย่างมาก
เหตุผลที่ควรเลือกบ้าน AP
ที่ดินมีจำกัด
จุดเด่นที่ทำให้ CLASSE & SONNE น่าสนใจอย่างมากก็คือ “ทำเล” ที่ตั้งที่ลาดพร้าว และ สวนหลวง ที่ถือว่าเริ่มมีจำกัดอย่างมากสำหรับการตั้งโครงการบ้าน เพราะถ้าให้นึกถึงโซนที่ถัดออกมาจากตัวเมืองเชื่อว่า ลาดพร้าวกับสวนหลวงยังไงก็เป็นโซนที่ถูกนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เพราะเป็นส่วนขยายจากตัวเมืองที่ใกล้ตัวเมืองที่สุดและมีความเจริญไม่แพ้กับตัวเมือง ยังคงมีความสะดวกครบครัน ทั้งคอมมูนิตี้มอล ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนนานาชาติหรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลก็มีอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
และเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอื่น ๆ ในโซนตัวเมืองก็อาจจะไม่สามารถหาโครงการดี ๆ แบบนี้ได้อีกแล้ว หรือไม่ก็มีราคาก็สูงมาก อาจต้องมองเป็นคอนโดมิเนียมที่มีขนาดเล็กและพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่ามาก ๆ แทน
ประหยัดเวลาเดินทาง
อีกหนึ่งประโยชน์ของทำเลที่ตั้งของ CLASSE & SONNE จะเห็นได้ว่าเรื่อง “การเดินทาง” เรียกว่าสะดวกมาก ๆ ไม่ว่าจะเดินทางเข้าไปทำงานในโซนตัวเมืองก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะมีทั้งทางด่วน พร้อมทางเข้าออกหลากหลายช่องทาง รวมถึงอยู่ในแนวพัฒนาของรถไฟฟ้าในอนาคตด้วย
อย่างโครงการ “บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา” ก็ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เข้าเมืองก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
ส่วนโครงการ “THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา” ก็มีสุขุมวิท-บางนา ที่สามารถเดินทางเข้าแหล่งออฟฟิศสำคัญย่าน CBD ได้สะดวกสบาย แล้วก็ยังสามารถเข้าออกโครงการได้หลายเส้นทาง ถือว่าเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากกว่าเดิม
ยิ่งเราสามารถประหยัดเวลาการเดินทางได้มากเท่าไหร่ ก็แปลว่าเราจะยิ่งมีเวลาว่างไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะพักผ่อน ออกกำลังกาย นอนดู Netflix ฯลฯ ซึ่งเรื่องของเวลาที่เราเสียไปบนท้องถนนถือว่าเป็นต้นทุนแฝงรูปแบบหนึ่งที่เราจ่ายไปโดยไม่รู้ตัวอย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งถ้าคิดในระยะยาวแล้ว บอกเลยว่าเป็นต้นทุนที่สูงจนประเมินแทบไม่ได้เลย เพราะเวลานั้นไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนได้
การออกแบบที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์
นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้งแล้ว จุดเด่นที่ทำให้ CLASSE & SONNE น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก ก็คือเรื่องของการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยิ่งช่วงเวลา Work From Home พื้นที่ทำงานในบ้านยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้น ทั้ง 2 โครงการถูกออกแบบให้มีพื้นที่สามารถจัดแบ่งได้ตามความต้องการ
ทั้งจำนวนห้องนอนที่เยอะ มาพร้อมห้องอเนกประสงค์ต่าง ๆ จะเอาไปทำห้องออกกำลังกาย ห้อง Studio ก็สามารถทำได้ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบมาอย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สามารถใช้เป็นสถานที่ถ่ายรูปวิวสวย ๆ ได้เลย
Limited Luxury Project จาก AP
CLASSE & SONNE ถือว่าเป็น 2 โครงการ Limited Luxury Project จากทาง AP เนื่องจากแต่ละแบรนด์จะมีเพียง 1 สถานที่เท่านั้น อีกทั้งจำนวนหลังของโครงการก็มีไม่สูงนัก โดยโครงการ SONNE มีเพียง 56 หลัง และ โครงการ CLASSE แยกเป็นบ้านแฝด 100 หลังและบ้านเดี่ยวเพียง 56 หลังเท่านั้น ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ (Unique) แตกต่างจากโครงการอื่น ๆ และที่สำคัญเลยก็คือมีจำนวนจำกัด
อีกทั้งปัจจุบันบ้านเดี่ยวโครงการ CLASSE เองขายไปแล้ว 95% เหลืออีกไม่มากให้ได้เป็นเจ้าของ และ โครงการ SONNE เองขายไปแล้วกว่า 80% ซึ่งใครที่กำลังมองหาบ้านหรู ทำเลดี แล้วต้องการความ Unique ไม่เหมือนใคร พี่ทุยว่าตอนนี้ต้องรีบตัดสินใจและจับจองเป็นเจ้าของแล้วล่ะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ พลาดแล้วก็คือพลาดเลย แล้วเราก็ไม่รู้ในอนาคตจะมีบ้านทำเลดีแบบนี้ออกมาอีกบ้างมั้ย
ความคุ้มค่า
อย่างที่พี่ทุยเกริ่นไปในช่วงแรกว่า “ที่ดิน” ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความจำกัดและไม่สามารถงอกเพิ่มขึ้นได้ ทำให้ราคาของที่ดินนั้นปรับตัวสูงมากขึ้นอยู่เรื่อย ๆ แล้วช่วงนี้ถือว่าเป็นอีกช่วงหนึ่งที่เหมาะกับการจับจองอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการชะลอตัวของราคาที่ได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์โรคระบาด ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสถาบันการเงินที่พร้อมใจกันออกโปรโมชันดอกเบี้ยต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
สำหรับใครที่สนใจ พี่ทุยว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก แนะนำว่าให้ไปสัมผัสประสบการณ์โดยตรงจากการเยี่ยมชมโครงการเลย เพื่อจะได้ดูว่าทำเลอยู่ตรงไหน สิ่งแวดล้อมแถวนั้นเป็นอย่างไร มีอะไรอยู่บ้าง ส่วนเรื่องการดีไซน์ของเจ้านี้เค้าก็ไม่เป็นรองใครอยู่เเล้ว สวย ถูกใจ วางใจได้แน่นอน รับรองว่าเห็นแล้วต้องอยากเป็นเจ้าของกันสักหลัง เพราะพี่ทุยว่าบ้าน AP เค้าสวยจริง ๆ