มือใหม่ "เลือกหุ้น" คู่ใจยังไง ให้เหมือนเลือกคู่ชีวิต ?

มือใหม่ “เลือกหุ้น” คู่ใจยังไง ให้เหมือนเลือกคู่ชีวิต ?

3 min read  

ฉบับย่อ

  • การเลือกคู่ชีวิตสักคน เราก็ต้องใช้ระยะเวลาในการคบหาดูใจกัน ผ่านบททดสอบมาแล้วมากมาย กว่าจะมาเป็นคู่ชีวิตของเราได้ เปรียบเสมือนกับการเลือกหุ้น การเลือกหุ้นคู่ใจไว้ในพอร์ต ก็ช่วยเสริมสร้างความมั่งคั่งของเราได้เช่นกัน
  • การเลือกคู่ชีวิตเหมือนกับการเลือกหุ้นตรงที่ดูจากรูปร่างหน้าตาของบริษัท ดูจากฐานะความมั่งคั่งของบริษัท ดูจากนิสัยความรู้ความสามารถของผู้บริหาร และดูจากทิศทางอนาคตที่มองการณ์ไกล

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เลือกคู่ชีวิตกับ “เลือกหุ้น” คู่ใจ เกี่ยวข้องกันได้ยังไงหน่ะหรอพี่ทุยจะมาพูดให้ฟังนะ การเลือกคู่ชีวิตเพื่อมาร่วมใช้ชีวิตกันไปตลอดชีวิต แน่นอนว่าต้องผ่านบททดสอบอุปสรรคต่าง ๆ ร่วมกันมา ถือเป็นข้อพิสูจน์ความรักแท้ พี่ทุยเชื่อว่าทุกคนคงต้องมีสเปคหรือหลักในการตัดสินใจเลือกคู่ชีวิตกันบ้างอยู่แล้ว แต่สำหรับการเลือกหุ้นคู่ใจมาเก็บไว้ในพอร์ตก็คล้ายกับการได้คู่ชีวิตนั่นแหละ ที่จะช่วยให้เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุขหรือสามารถสร้างความมั่งคั่งในชีวิตต่อไปได้ในระยะยาว

เลือกคู่ชีวิตกับ “เลือกหุ้น” คู่ใจ เกี่ยวข้องกันได้ยังไง ?

พี่ทุยขอเปรียบการ “เลือกหุ้น” คู่ใจให้เหมือนกับการเลือกคู่ชีวิต เพื่อจะอธิบายให้นักลงทุนมือใหม่ มองเห็นภาพแล้วเข้าใจกันง่ายๆ ดังนี้

เริ่มต้นจากการดูที่รูปร่างหน้าตา

สำหรับเรื่องของรูปร่างหน้าตาเป็นปัจจัยภายนอก แต่เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจของคนหนุ่มสาวหรือนักลงทุนได้เช่นกัน คนที่มีรูปร่างหน้าตาที่ดี ย่อมนำพามาด้วยความมั่นใจ แสดงถึงการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีตามมา เปรียบกับหุ้นก็เสมือนเป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี มีภาพลักษณ์ที่ดีที่น่าเชื่อถือ มีสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพที่ดี ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบและใช้กันอย่างแพร่หลาย

ส่วนในเรื่องของรูปร่างเปรียบได้กับราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา มีขึ้นมีลงเป็นไปตามลักษณะการกินการใช้ชีวิต เหมือนกับราคาหุ้นที่ย่อมจะมีวันที่ขึ้นหรือลงได้เป็นไปตามผลประกอบการของบริษัท ถ้าจะดูรูปร่างของหุ้น ต้องพิจารณาว่าในอนาคตจะสามารถรักษาและพัฒนารูปร่างให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ ถ้าสุขภาพดี ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยทำให้รูปร่างดีตามไปด้วย เปรียบได้กับบริษัทที่รักษายอดขายให้เติบโต พัฒนาบริษัทให้ก้าวหน้า ย่อมส่งผลต่อราคาหุ้นที่สูงขึ้นได้ในระยะยาว

ตรวจสอบเรื่องฐานะความมั่งคั่ง

เรื่องความพร้อมความมั่งคั่งของคู่ชีวิตจะว่าไม่จำเป็นก็คงไม่ใช่ เนื่องจากการใช้ชีวิตในเมืองทุกวันนี้ที่ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมาย ฐานะหรือความมั่งคงของรายได้หรือจากงานที่ทำจึงมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตครอบครัว ไม่มีใครที่อยากกัดก้อนเกลือกินไปตลอดชีวิตหรอก (ฮ่า) แต่พี่ทุยไม่ได้หมายถึงว่าต้องให้เลือกแต่คนรวยๆเท่านั้นนะ ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูดีๆก่อนด้วย เปรียบเสมือนกับการเลือกหุ้น มือใหม่ควรเลือกหุ้นหรือบริษัทที่มีฐานะการเงินที่ดี มีความมั่นคงเติบโต สามารถดูได้ทั้งงบการเงิน ผลประกอบการ รายได้และกำไร รวมถึงกำไรสะสมของบริษัทด้วยก็ได้ หุ้นที่มีฐานะความมั่นคงที่ดี ย่อมแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี สะท้อนถึงว่าบริษัทมีโอกาสล้มละลายหรือเจ๊งที่น้อยนั่นเอง คงไม่มีใครที่อยากถือหุ้นหรือบริษัทที่สักวันหนึ่งจะถูกเพิกถอนออกไปจากตลาดหุ้น เนื่องจากบริษัทกำลังจะเจ๊งหรือขาดทุนสะสม ทำให้ติดหุ้นนั้นไปตลอดชีวิต !

ทัศนคติ ความรู้ความสามารถ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยภายในที่สำคัญต่อการเลือกคู่ชีวิต ลักษณะนิสัยใจคอ เป็นสิ่งที่ต้องใช้ระยะเวลาในการคบหาดูใจกันว่า คนสองคนจะสามารถเข้ากันได้ไหม ยอมรับข้อดีข้อเสียของกันและกันได้แค่ไหน รวมถึงเรื่องทัศนคติความรู้ความสามารถ ก็บ่งบอกได้ถึงมุมมองการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ว่าตรงไหนหรือไม่ เปรียบได้กับการเลือกหุ้น ไม่ได้เลือกจากปัจจัยเชิงปริมาณแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเลือกจากทีมผู้บริหารประกอบด้วย ทีมผู้บริหารควรมีความรู้ความสามารถที่เหมาะกับบริหารจัดการบริษัทให้เติบโตได้ดี และที่สำคัญควรจะมีจรรยาบรรณที่ดีในการบริหารงานเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีฐานะการเงินดี แต่ถ้าทีมผู้บริหารไม่มีจรรยาบรรณ มุ่งแสวงหาแต่ผลประโยชน์ส่วนตนเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ควรไปสนใจหุ้นเหล่านั้น เพราะวันหนึ่งอาจทำให้บริษัทเสียหายได้ เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาดีๆ ก่อนในการตัดสินใจลงทุนหรือเลือกคู่ชีวิตนะ

หุ้นคู่ใจต้องมีอนาคต และมองการณ์ไกล มากกว่าแค่สนใจกำไรระยะสั้น 

การใช้ชีวิตคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่แค่ไม่กี่ปี แต่อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต เช่นเดียวกับการเลือกหุ้นไม่ใช่เล่นเพื่อการเก็งกำไรเพียงระยะสั้นๆ แบบนั้นไม่ใช่การลงทุนที่แท้จริง แต่ควรมองหุ้นหรือบริษัทที่เราจะถือไปในระยะยาวเป็นสิบปีขึ้นไป หรือบางคนถ้าเป็นสาย VI แท้ ๆ จะถือหุ้นตัวนั้นไปตลอดชีวิต ถ้าปัจจัยพี้นฐานธุรกิจไม่ได้เปลี่ยน! การเลือกหุ้นควรดูถึงหุ้นที่สามารถอยู่กับเมกะเทรนด์ในอนาคต แสดงถึงโอกาสที่จะเติบโตต่อไปได้อีก หรือบริษัทมีคู่แข่งขันรายใหม่เข้ามาแข่งด้วยยาก หรือมีความสามารถในการแข่งขันสูง คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ยาก บางทีถ้าเราค้นพบหุ้นตัวเล็กถึงกลาง ที่มีความสามารถในการเติบโตสูงในอนาคตอยู่ในพอร์ตการลงทุนของเรา ก็ทำให้เราสามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่เราได้ในระยะยาวเหมือนกัน

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแนวคิดที่เอาไว้ใช้ในการเลือกหุ้นสำหรับมือใหม่ โดยใช้วิธีคิดเลือกคู่ชีวิตเข้ามาอธิบายประกอบให้เข้าใจ มือใหม่จะเห็นว่าการเลือกหุ้นคู่ใจมีความใกล้เคียงกับเลือกคู่ชีวิต ถ้าเราเลือกหุ้นได้ถูกใจเรา พี่ทุยคิดว่าเราจะลงทุนได้อย่างสบายใจ และอยู่กับหุ้นที่เราถือไปได้ในระยะยาว จนวันหนึ่งหุ้นเติบโตขึ้นมาก็จะสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้ในที่สุด จะดีแค่ไหนถ้าเรามีทั้งคู่ชีวิตและหุ้นที่คู่ใจร่วมทางกันไปตลอดชีวิตของเรา

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย