ทำไม "Cryptocurrency" อาจเข้ามาปฏิวัติระบบการเงินรูปแบบเก่าๆได้ ?

ทำไม “Cryptocurrency” อาจเข้ามาปฏิวัติระบบการเงินรูปแบบเก่าๆได้ ?

 

ฉบับย่อ

  • เงิน Fiat หรือเงินปกติมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เนื่องจากมันยังถูกควบคุมได้โดยรัฐบาลและธนาคารกลาง ซึ่งหากพวกเขาบริหารไม่ดีจะมีผลเสียตามมามากมาย เช่น เงินเฟ้อ
  • Cryptocurrency คือเงินดิจิทัล ที่มีเทคโนโลยี Blockchain อยู่เบื้องหลังทำให้ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางเหล่านั้นมาคอยควบคุมอีกต่อไป ผู้ใช้ทุกคนมีอำนาจอย่างแท้จริง
  • การทำธุรกรรมด้วยคริปโตไม่จำเป็นต้องพึ่งตัวกลาง เช่น ธนาคาร แถมมันยังมีศักยภาพ มีประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมมากกว่าเงินทั่วไปอีกด้วย เช่น การทำธุรกรรมข้ามแดนที่ไวกว่า
  • คริปโต เช่น Ethereum ทำให้การระดมทุน ICO เกิดขึ้นมา ซึ่งอาจจะมาแทนที่การระดมทุนรูปแบบ IPO เนื่องจากมีความเรียบง่าย และอุปสรรคที่น้อยกว่า

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ปัจจุบันเงินของเรานั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยธนาคารกลางของประเทศ และแทบจะทุกอย่างหมุนเวียนอยู่รอบธนาคาร พวกเขามีสิทธิที่จะขึ้นค่าดอกเบี้ย หรือพิมพ์เงินเพิ่มเท่าไรก็ได้ตามกฎเกณฑ์ที่วางไว้ รวมทั้งธนาคารเหล่านั้นยังเป็นตัวกลางที่มีหน้าที่ดูแลอัตราเงินเฟ้อและนโยบายด้านการเงินอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งถ้าเกิดพวกเขาจัดการดูแลดีก็ดีไป แต่ในทางกลับกันหากพวกเขาทำได้ไม่ดี อะไรจะเกิดขึ้น ?

ยกตัวอย่าง เช่น ค่าเงินเวเนซุเอลาที่เงินเฟ้อขึ้นมาเกือบหนึ่งแสนเปอร์เซ็นต์จากต้นปี (อ่านบทความ Bitcoin กับวิกฤตการณ์เงินเฟ้อเวเนซุเอลา) เนื่องจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของทางรัฐบาล ทำให้ส่งผลต่อเป็นทอดๆ จนทำให้เงินโบลิวาร์เริ่มมีมูลค่าที่ลดลงเรื่อยๆ จนปัจจุบันประชาชนในประเทศได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

ทำไม "Cryptocurrency" อาจเข้ามาปฏิวัติระบบการเงินรูปแบบเก่าๆได้ ?

ไก่สดน้ำหนัก 2.4 กก. นี้มีราคาขายตามท้องตลาดในกรุงการากัสที่ 14,600,000 โบลิวาร์

จะดีกว่าไหมถ้าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งตัวกลาง เช่น รัฐบาลหรือธนาคารที่จะมาดูแลเงินของเรา จะดีกว่าไหมถ้าเราประชาชนทุกคนมีอำนาจในเงินของเราอย่างแท้จริง ซึ่งในปัจจุบันด้วยความที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากแล้ว เงินที่เรามีอำนาจควบคุมได้อย่างแท้จริงกำลังถือกำเนิดขึ้นมาอยู่

“Cryptocurrency” คืออะไร ?

 

“Cryptocurrency” หรือที่หลายๆคนเรียกว่าเงินดิจิทัล เป็นเงินที่อยู่ในรูปแบบออนไลน์ไม่สามารถจับต้องได้ แตกต่างกับเงินปกติทั่วไป (Fiat) ที่อยู่ในรูปแบบธนบัตร และเหรียญ และมีเทคโนโลยี Blockchain อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้คริปโต Decentralized แปลว่าการทำธุรกรรมด้วย Cryptocurrency นั้นไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางอีกต่อไป

เทคโนโลยี Blockchain มีข้อดีตรงที่ข้อมูลที่เก็บในนั้นจะมีความโปร่งใส ทุกๆคนในเครือข่ายสามารถตรวจสอบได้ว่า บัญชีไหนส่งไปบัญชีไหน เป็นจำนวนเท่าไร ในเวลาไหน และอื่นๆ รวมทั้งข้อมูลต่างๆที่อยู่ในเครือข่ายนั้นยังไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย ทำให้ป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลได้ ซึ่งเงินปกติไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้

ทำไม "Cryptocurrency" อาจเข้ามาปฏิวัติระบบการเงินรูปแบบเก่าๆได้ ?

ในขณะที่เงิน Fiat ถูกควบคุมได้โดยรัฐบาล และธนาคารกลาง คริปโตไม่มีรัฐบาล หรือธนาคารกลาง ทุกๆการตัดสินใจ หรือการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นล้วนมาจากการโหวตทั้งสิ้น ไม่มีใครเป็นคนใดคนหนึ่งสามารถกำหนดทิศทางทั้งหมดได้

คริปโตมีหลากหลายสกุล เช่นเดียวกันกับเงิน Fiat ทั่วไป แต่คริปโตที่หลายๆคนรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คงไม่พ้น Bitcoin อย่างที่พี่ทุยเคยเล่าไปก่อนหน้านี้ว่า Bitcoin คืออะไร

Cryptocurrency สามารถเข้ามาแทนที่ธนาคารได้อย่างไร ?

สิ่งที่ทำให้คริปโตเริ่มได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ เพราะ การทำธุรกรรมด้วยคริปโตนั้นไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง เช่น ธนาคาร หรือบริษัทบัตรเครดิตมาคอยยืนยันการทำธุรกรรมให้ เนื่องจากการทำธุรกรรมด้วยคริปโตนั้น ผู้ที่ใช้งานคนอื่นๆ ในเครือข่ายคริปโต จะเป็นผู้ยืนยันการทำธุรกรรมแทน ส่งผลให้

  • มีค่าธรรมเนียมที่ถูก (ไม่โดนชาร์จจากบริษัทบัตรเครดิต)
  • ความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงขึ้น (ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถโอนเงินจำนวนมากข้ามประเทศได้ ถ้าเงินปกติต้องใช้เวลาหลายวันในบางครั้งเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนเลยก็มี)
  • ความน่าเชื่อถือที่มากขึ้น (ความน่าเชื่อถืออยู่ที่ตัวระบบของมัน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และข้อมูลในการทำธุรกรรมโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ไม่เชื่อมกับเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่ง)
  • ไม่ถูกควบคุมโดยตัวกลางใดตัวกลางหนึ่ง เป็นการกระจายอำนาจทั้งหมดกลับไปให้ผู้ใช้งาน

Cryptocurrency ในแง่มุมของการขอระดมทุน (ICO)

นอกจากในแง่ของการใช้งานธุรกรรมทั่วไปแล้ว Cryptocurrency อันดับที่ 2 เช่น Ethereum ยังเปิดโอกาสให้เกิดการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Initial Coin Offering หรือ ICO ได้ ซึ่งปกติจะมีแต่การระดมทุน IPO เท่านั้น

การระดมทุน IPO มีขั้นตอน และกระบวนการความยุ่งยากมากมาย แต่ด้วยการระดมทุนแบบ ICO โปรเจกต์ใดๆก็ตามในโลกสามารถระดมทุนออนไลน์ได้ ซึ่งจะกำจัดอุปสรรคในการระดมทุนรูปแบบเก่าๆทั้งหมด ฝั่งโปรเจกต์ก็มีความสบายในการระดมทุนมากขึ้น ได้เงินเยอะขึ้น รวมทั้งฝั่งผู้ที่อยากลงทุนก็มีโอกาสเลือกโปรเจกต์ดีๆง่ายขึ้น เข้าถึงโอกาสได้มากขึ้นเช่นกัน

สรุป

ถึงแม้ทางทฤษฏีแล้วคริปโตจะมีข้อดีกว่าเงินปกติอยู่มาก แต่ก็ยังมีข้อเสียซ่อนอยู่เช่นกัน มันเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งถือกำเนิดมาได้ไม่ถึง 10 ปี เทียบกับเงิน Fiat ที่เกิดมานานกว่าหลายเท่า Cryptocurrency ยังจำเป็นต้องพัฒนาอีกมาก แต่ก็ถือว่าเป็นอีกนวัตกรรมที่น่าสนใจ และน่าลงทุนกับมัน ไม่แน่ว่าอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า อาจจะเห็นภาพผู้คนเดินตัวเปล่าด้วยมือถือเครื่องเดียวและใช้ Bitcoin ในการทำธุรกรรมตั้งแต่ซื้อกาแฟไปยังซื้อบ้านเลยก็เป็นได้

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย