ถ้าเราลองมองย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามี “นักท่องเที่ยวจีน” มาเที่ยวที่ประเทศไทยเยอะมากจริง ๆ เรียกได้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็เจอ ซึ่งพี่ทุยเชื่อว่าบางคนอาจจะหงุดหงิดใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะคนจีนเวลาไปไหนก็จะไปเป็นกลุ่มและมีนิสัยที่ต่างจากวัฒนธรรมไทยมากนัก พูดตรง ๆ คือไม่ค่อยเกรงใจ เสียงดังโวยวาย จึงทำให้หลายคนคิดว่าแบนคนจีนเถอะ ไม่ต้องมาก็ได้ แต่ๆๆๆๆๆ……. แล้ววันนี้เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริง การระบาดของ Covid-19 ทำให้คนจีนไม่สามารถมาเที่ยวไทยได้ วันนี้พี่ทุยจะมาเล่าให้ฟังว่า คนจีนสำคัญกับ “เศรษฐกิจ” ไทยจริง ๆ ใช่มั้ย แล้วถ้าเราขาดคนจีนไปจริง ๆ อะไรจะเกิดขึ้นกับไทยบ้าง
ก่อนอื่นเลยพี่ทุยอยากย้อนความเล่าให้ฟังสักหน่อยว่า ตกลงแล้วที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนสำคัญกับ “เศรษฐกิจ” ไทยจริงหรือไม่ เอาแบบง่ายที่สุดเราก็คงต้องดูที่ตัวเลขเศรษฐกิจหรือ GDP นั่นเอง ซึ่งหมวดที่ต่างชาติมาท่องเที่ยวไทยเนี่ยมันจะอยู่ใน “หมวด Export of Services”
เพราะการที่ต่างชาติมาท่องเที่ยวก็เปรียบเหมือนเราส่งออกบริการไป แต่ในหมวดนี้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่การท่องเที่ยวเท่านั้น จะมีการส่งออกบริการอย่างอื่นด้วย เช่นการบริการด้านการเงิน การบริการด้านการขนส่ง แต่ก็ไม่ได้เยอะหรอก หลัก ๆ ของหมวดนี้ กว่า 70-80% ก็คือการท่องเที่ยวเป็นหลัก ดังนั้นเราสามารถใช้ข้อมูลในหมวดนี้เป็นตัวแทนของภาคท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลย
ซึ่งหากดูข้อมูลในหมวดนี้ย้อนหลังจะพบว่า มันมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ช่วงปี 2012 จากที่เคยเติบโตปกติ เฉลี่ยปีละประมาณ 6 % กลายเป็นโตเฉลี่ยปีละ 8% จริง ๆ ต้องบอกว่าโตสูงมากเลยนะ เพราะบางปีมีโต 10-16% ด้วย แต่บังเอิญเกิดเหตุการณ์เรือล่มในปี 2018 เลยทำให้ค่าเฉลี่ยลดลง เหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าปี 2012 นั้นมีหนังเรื่องหนึ่งที่ดังเป็นพลุแตกสุด ๆ นั่นก็คือเรื่อง Lost in Thailand เป็นหนังจีนที่มีคนจีนเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ พอหนังเรื่องนี้ฉายเสร็จก็ทำให้คนจีนแห่กันมาไทยเป็นจำนวนมาก และนั่นแหละคือสาเหตุของจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อการท่องเที่ยวไทยเลยก็ว่าได้
พอเราเห็นภาพรวมไปแล้ว ทีนี้พี่ทุยอยากพาไปเจาะให้ลึกกันอีกซักนิดนึง จากข้อมูลพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี โดยที่ในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวมาไทยทั้งหมดประมาณ 40 ล้านคน เป็นคนจีนเกินกว่า 10 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 25% หรือ 1 ใน 4 เลยทีเดียว เรียกว่าหากเรายืนต่อแถวเข้าตม. ที่สนามบินหันซ้ายหันขวายังไงก็ต้องเจอคนจีนอย่างแน่นอน
โดยเฉลี่ยแล้วเท่ากับว่าคนจีนจะมาที่เมืองไทยประมาณ 9 แสนคนต่อเดือน และจากข้อมูลล่าสุดพบว่านักท่องเที่ยวจีน 1 คนมักจะใช้จ่ายต่อทริปประมาณ 50,000 บาท ดังนั้นพี่ทุยคิดง่าย ๆ เท่ากับว่า เดือน ๆ หนึ่งเราจะได้รายรับจากนักท่องเที่ยวจีนสูงถึงเกือบ 5 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว ปีหนึ่งก็ล่อไป 6 แสนล้านบาทแล้ว ดังนั้น เมื่อดูข้อมูลทั้ง 2 อย่างประกอบกัน พอจะสรุปได้ว่าภาคท่องเที่ยวของไทยเรา มีคนจีนเป็นส่วนสำคัญอย่างเถียงไม่ได้
แต่ยังไงก็ตาม “ภาคท่องเที่ยว” ก็นับว่าไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก ดูได้จากกราฟด้านบนจะเห็นชัดเลยว่า ภาคท่องเที่ยวยังมีขนาดเล็กอยู่เมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ แต่ก็ต้องบอกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตัวแปรอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การส่งออกสินค้า การบริโภค จะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเลย หรือลดลงด้วยซ้ำ แต่มีภาคท่องเที่ยวนี่แหละที่ขยายใหญ่ขึ้น ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าการเติบโตของภาคท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ GDP บ้านเราโตอยู่เหมือนกัน
แล้วถ้านักท่องเที่ยวจีนหายไป จะเกิดอะไรขึ้นต่อเศรษฐกิจไทย
ก่อนอื่นเลยพี่ทุยขอเริ่มจากการคำนวณง่าย ๆ ก่อน หากว่านักท่องเที่ยวหายไปจะเป็นยังไง ซึ่งมีนักวิเคราะห์หลายสำนักประมาณการกันว่านักท่องเที่ยวจะหายไปกว่า 10 ล้านคน โดยที่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนจีนทั้งนั้น (ถ้ารวมชาติอื่น ๆ ด้วย น่าจะมากกว่า 10 ล้านคนอีก)
และตามที่เกริ่นไปตอนต้นค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ที่นักท่องเที่ยวใช้ต่อคนคือประมาณ 50,000 บาท ดังนั้นคิดแค่นี้จะเห็นเลยว่ารายรับนักท่องเที่ยวจะหายไปกว่า 5 แสนล้านบาทด้วยกัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3 % ของ GDP เมื่อปีก่อน ธปท. ได้ประมาณการไว้ว่าปี 2563 นี้ GDP จะโต 2.8 % ก็หมายความว่าหากนักท่องเที่ยวหายไป 10 ล้านคนจริง ๆ เราน่าจะเห็น GDP โตติดลบ
โดยที่ยังไม่คิดถึงผลกระทบต่อรายได้ของคนในประเทศที่ลดลงด้วยนะ เพราะจริง ๆ แล้วหากรายรับท่องเที่ยวหายไปย่อมทำให้คนที่ทำงานเกี่ยวกับภาคท่องเที่ยวรายได้ลดลงหรือกระทั่งตกงานอย่างแน่นอน แล้วคนเหล่านี้ก็ย่อมที่จะต้องลดรายจ่ายลง ก็จะยิ่งมาซ้ำเติมให้ “เศรษฐกิจ” แย่ลงไปอีก
ถ้าดูในภาพรวมจะพบว่า “เศรษฐกิจไทย” เราจะแย่ลงอย่างมาก โดยเฉพาะภาคที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีธุรกิจหลายอย่างเลยที่เปิดตัวเพราะความต้องการจากจีน เช่นธุรกิจนวดตัวที่รองรับแต่นักท่องเที่ยวจีน ธุรกิจทัวร์จีน โรงแรม ร้านอาหาร หรือกระทั่ง Hostel ต่าง ๆ ที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดในช่วงปีที่ผ่านมา ย่อมได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่นอน และอีกกลุ่มนึงที่พี่ทุยคิดว่าน่าจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงคือ “ภาคอสังหาริมทรัพย์”
รู้กันหรือไม่ว่าตอนนี้ลูกค้าคนสำคัญของคอนโดไม่ใช่คนไทยอีกต่อไปแล้ว เพราะจากแบบสอบถามพบว่า “มากกว่า 70 % ของนักลงทุนจีนที่ต้องการซื้อคอนโดมีเป้าหมายแรกที่ประเทศไทย” และยังพบอีกว่าใน 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯ ของบ้านเราโดยเฉพาะคอนโด ถูกคนจีนเข้ามาถือครองกรรมสิทธิ์เยอะมาก มีทั้งในรูปแบบ nominee หรือผ่านตัวแทน และรูปแบบเข้ามาซื้อเอง ซึ่งการทำแบบนี้มันทำให้ราคาคอนโดในไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้มีใครอยู่จริง ๆ พี่ทุยเดาว่าหากขาดความต้องการซื้อ (Demand) จากคนจีนไป ราคาคอนโดน่าจะขยับขึ้นได้ช้าลงหรือถ้ามีปัญหาอื่น ๆ เข้ามา เราจะได้เห็นดอยคอนโดกันแน่ ๆ
สรุปแล้วพี่ทุยคิดว่า คนจีนมีส่วนสำคัญต่อ “ภาคการท่องเที่ยวของไทย” และในช่วงที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวมีส่วนช่วยให้ GDP หรือเศรษฐกิจไทยเติบโตจริง ๆ แต่ถ้าพูดถึง “ภาคท่องเที่ยว” ถือว่ายังเล็กมากเมื่อเทียบกับภาคการบริโภคหรือการส่งออกที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักจริง ๆ ของประเทศไทยเรา ซึ่งผลกระทบนี้เรากำลังเห็นเป็นรูปธรรมกันมากขึ้น บริหารความเสี่ยงกันให้ดี ถ้ารอดวิกฤตรอบนี้ไปได้มีเรื่องเล่าให้ลูกหลานฟังแน่นอน
Comment