3เทคนิคการเลือกว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อสำหรับมือใหม่

ซื้อหุ้นตัวไหนดี?? 3 เทคนิคเลือกว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อ สำหรับมือใหม่

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • เมื่อ “หุ้น” คือสิ่งแสดงความเป็นเจ้าของของบริษัท ถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัทเราก็อยากได้กำไรที่เพิ่มขึ้น เพราะราคาของหุ้นหรือเงินปันผลก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
  • สำหรับนักลงทุนมือใหม่ พี่ทุยแนะนำให้ไปเปิดเว็บไซต์ www.set.or.th เป็นเว็บไซต์ของทางตลาดหลักทรัพย์ที่จะมีข้อมูลหุ้นแบบพื้นฐานคร่าว ๆ
  • “หุ้น” ที่ดีในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันในอนาคตได้ อย่างน้อยก็สามารถดูความสามารถในการเอาตัวรอดของหุ้นหรือผู้บริหารได้ แต่ห้ามลืมว่าสิ่งที่เราต้องมองก็คืออนาคตของหุ้นตัวนั้นว่าจะไปต่อได้หรือไม่ ขยายธุรกิจได้หรือเปล่า เพราะการซื้อหุ้นเราไม่ได้ซื้อผลประกอบการในอดีต แต่เรากำลังซื้อสิ่งที่เรียกว่าอนาคต

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนถามเข้ามาเยอะมากว่า ซื้อหุ้นตัวไหนดี พี่ทุยอยากลองแชร์ไอเดีย และแนวทางมุมมองการเลือกหุ้นสักตัวนึง แต่ก็เคยมีคนบอกอีกว่าสำหรับเมืองไทยแล้ว ถ้าหุ้นตัวไหนเจ้าไหนไม่เข้าหรือโบรกไม่เชียร์ก็คงไม่ขึ้น เรื่องนี้พี่ทุยข้อเว้นไม่กล่าวถึงละกัน เพราะเรื่องพวกนี้เกินความสามารถที่พี่ทุยจะไปรู้เหมือนกัน (ฮ่า)

ซื้อหุ้นตัวไหนดี ???

พี่ทุยขอใช้คำว่า “หุ้นที่ดีต้องมีกำไร” พี่ทุยคิดคำนี้มาโดยตลอดเวลาจะเข้าซื้อหุ้นในแต่ละตัว เราต้องดูว่าหุ้นตัวนั้น “อนาคต” จะเป็นอย่างไร คำถามที่ตามมาติด ๆ พี่ทุยว่าก็หนีไม่พ้นเรื่องที่ว่า แล้วเราจะดูกำไรของบริษัทนั้นได้อย่างไร ว่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต

เทคนิคการเลือกหาว่า ซื้อหุ้นตัวไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง ?

1. รู้จักกับหุ้นผ่านเว็บไซต์ www.set.or.th

ถ้าเอาแบบพื้นฐานก่อนเลย พี่ทุยก็คงแนะนำให้ไปเปิดเว็บไซต์ www.set.or.th ดูกันก่อนละกัน เป็นเว็บไซต์ของทางตลาดหลักทรัพย์ที่จะมีข้อมูลหุ้นแบบพื้นฐานคร่าว ๆ ก่อน เมื่อเข้าเว็บไซต์ไปหน้าตาจะประมาณนี้

ซื้อหุ้นตัวไหนดี หน้า SET

จากนั้นเราจะเห็นด้านบนที่เขียน “ค้นหาหลักทรัพย์,ข่าว,เนื้อหา” ก็ลองใส่หุ้นที่เราสนใจลงไปได้เลย เช่น ถ้าเราอยากดูว่าหุ้น ปตท. (PTT) เป็นอย่างไรก็พิมพ์ PTT แล้วกด Enter ได้เลย

ซื้อหุ้นตัวไหนดี-PTT-หน้าแรก

2. เลือกซื้อหุ้นจากงบการเงินหรือผลประกอบการย้อนหลัง

ฟังก์ชั่นที่พี่ทุยว่าสำหรับมือใหม่แล้วน่าดูที่สุดก็จะน่าจะเป็น “งบการเงิน” ทางแท็ปซ้ายมือ ถ้าเราอยากเล่นหุ้น พี่ทุยว่าเราต้องดูอัตราส่วนพวกนี้ให้เป็น หรือดูให้คุ้นว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง เมื่อเราเข้าไปแล้วสิ่งที่เราจะเจอก็คือ งบการเงิน/ผลประกอบย้อนหลังราว ๆ 4 ปี และมีของไตรมาสปัจจุบันอีกด้วย

ซื้อหุ้นตัวไหนดี PTT งบการเงิน

3. เลือกซื้อหุ้นจากราคาและกำไร

แล้วฟังก์ชั่นอื่น ๆ พี่ทุยก็แนะนำให้ลองเล่นดู อย่างน้อยก็จะทำให้เราเข้าใจว่าหุ้นที่เรากำลังสนใจอยู่ทำอะไรอยู่ ราคาเป็นยังไง ความสามารถในการทำกำไรเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าดูแบบง่าย ๆ ก็คือบริษัทที่ดีก็ควรที่จะมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิที่มากขึ้นเรื่อย ๆ หรืออย่างกรณีของ PTT จะเห็นได้ว่า ปี 60 กำไรสวยงามมากแต่ ปี 61 62 และ 63 มีการตกลงของกำไร แบบนี้เป็นหุ้นที่ดีหรือเปล่า ?

พี่ทุยจะบอกว่าไม่เสมอไปเพราะว่าช่วงปี 61 ไปถึงปี 63 เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันตกลงอย่างมาก จนเป็นที่ฮือฮาว่ามีช่วงราคาน้ำมันติดลบด้วย  บริษัทที่ค้าขายน้ำมันที่ไหนจะได้กำไรเท่าเดิมบ้างล่ะจริงมั้ย ?

แต่ในปี 64 กำไรสุทธิ กลับมาพลิกเติบโตได้ เป็นผลมาจากการรับรู้กำไรจากธุรกิจในต่างประเทศ ที่เริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 และในปี 65 ที่ราคาน้ำมันดิบโลก และวิกฤตขาดแคลนพลังงานจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็ทำให้ PTT มีกำไรสุทธิจากราคาขายปลีกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ซึ่งการเล่นหุ้น ถ้าอยากเล่นแบบระยะยาวและยั่งยืน เราต้องเข้าใจตัวบริษัทที่กำลังจะลงทุนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรียกได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นมากระทบประมาณไหนเราควรที่จะประเมินได้

จะเห็นได้ว่าการที่เราจะประเมินหุ้นได้ดี ก็ต้องใช้ประสบการณ์และความเข้าใจระดับนึง นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมคนเริ่มเล่นหุ้นมักจะขาดทุน

ดังนั้นถ้าอยากจะเริ่มเลือกหุ้นสักตัว พี่ทุยแนะนำว่าให้ไปเลือกหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เราเข้าใจดีก่อน ถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าทำงานอยู่บริษัทโทรคมนาคม ก็มีแนวโน้มที่เราจะรู้จักว่าบริษัทกำลังทำอะไร คู่แข่งเป็นอย่างไร พี่ทุยว่าเริ่มจากซื้อหุ้นในกลุ่มที่เราทำงานอยู่ก็ได้เพราะอย่างน้อยเราก็จะคุ้นเคยที่สุด

แล้วก็การเปรียบเทียบงบการเงินของหุ้น ต้องเปรียบเทียบงบการเงินของหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันเท่านั้น เพราะเมื่อต่างอุตสาหกรรม หน้าตาของงบการเงินก็จะแตกต่างกันไปเลยล่ะ

ในระยะสั้นแล้ว ตลาดหุ้นคือเครื่องลงคะแนน แต่ในระยะยาวมันคือเครื่องช่างน้ำหนัก – เบนจามิน เกรเฮม

พี่ทุยชอบประโยคด้านบนนะ เพราะในระยะสั้นราคามีโอกาสที่จะวิ่งออกจากมูลค่าได้ตลอดเวลา เพราะหุ้นจะขึ้นลงตามแรงซื้อ (Demand) และ แรงขาย (Supply) เสมอ การที่หุ้นราคาขึ้นหรือลงอย่างรุนแรงในระยะสั้น ๆ ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันพื้นฐานของธุรกิจสักเท่าไหร่

อย่าลืมว่า “หุ้น” ที่ดีในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันในอนาคตได้ อย่างน้อยก็สามารถดูความสามารถในการเอาตัวรอดของหุ้นหรือผู้บริหารได้ แต่ห้ามลืมว่าสิ่งที่เราต้องมองก็คืออนาคตของหุ้นตัวนั้นว่าจะไปต่อได้หรือไม่ ขยายธุรกิจได้หรือเปล่า กำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าเต็มแล้วหรือยัง หรืออะไรก็ตามที่ส่งผลต่อกำไร เพราะการซื้อหุ้นเราไม่ได้ซื้อผลประกอบการในอดีต แต่เรากำลังซื้อสิ่งที่เรียกว่าอนาคตนั่นเอง 

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile