[บทวิเคราะห์] หุ้น Alibaba ยังมีอนาคตมั้ย เมื่อเจอศึกทั้งจีน-อเมริกา ?

4 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • Alibaba ก่อตั้งในปี 1999 ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก แต่มีการขยายตัวไปทำธุรกิจอื่น ๆ ด้วย  โดยงวดผลการดำเนินงานล่าสุด เม.ย.-มิ.ย. 2022 มีรายได้รวม 205,555 ล้านหยวน
  • Alibaba เจอศึกหนักทั้งจากทางการจีนปราบปรามบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ป้องกันการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม และจากสหรัฐฯ ที่กดดันจะถอดถอนบริษัทออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก เพราะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่ทางการเรียกร้องได้
  • นักวิเคราะห์ต่างก็ยังมีมุมมองแนะนำซื้อหุ้น Alibaba อยู่ ซึ่งนักลงทุนไทยที่สนใจหุ้น Alibaba ก็สามารถซื้อได้หลายวิธี ทั้งซื้อหุ้นตรงจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซื้อผ่าน DR ที่ขายในตลาดหุ้นไทย หรือซื้อผ่านกองทุนรวมที่ไปลงทุนหุ้น Alibaba

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ถ้าพูดถึง หุ้น Alibaba ทุกคนก็คงนึกถึงภาพของ “เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซจีน” ซึ่งกว่าจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ แผ่อิทธิพลในวงการอีคอมเมิร์ซทั่วโลก ก็ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่การรักษาความเป็นเจ้าพ่อของ Alibaba นั้นยากยิ่งกว่า เพราะเส้นทางนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย

ไม่ว่าจะจากทางการจีน ที่คุมเข้มปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยี หวังป้องกันการผูกขาด หรือจากฟากสหรัฐฯ ที่ขู่ถอดถอนบริษัทจีน จากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ หากไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่หน่วยงานกำกับต้องการได้

คำถามก็คือ แล้วหนทางข้างหน้า Alibaba จะรักษาความยิ่งใหญ่ได้มั้ย อนาคตยังดีอยู่รึเปล่า วันนี้พี่ทุยจะชวนเพื่อนๆ มาคิดตามไปด้วยกัน

ก่อนอื่น พี่ทุยขอสรุปรายละเอียดให้เพื่อน ๆ ดูกันก่อนว่า Alibaba ทำธุรกิจอะไรบ้าง และตอนนี้รายได้แต่ละธุรกิจเป็นยังไง

รู้จัก หุ้น Alibaba

Alibaba ก่อตั้งในปี 1999 โดยคน 18 คน มี Jack Ma เป็นแกนนำ ด้วยความเชื่อว่าอินเทอร์เน็ตจะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเติบโตและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งในจีนและเศรษฐกิจโลก

โดย Alibaba เป้าหมายระยะกลาง คือ ปี 2024 ขยายบริการครอบคลุมผู้บริโภค 1,000 ล้านคนทั่วโลก ผ่านธุรกิจการบริโภคของจีนและทำรายได้จากการบริโภคผ่านแพลตฟอร์ม 10 ล้านล้านหยวนต่อปี และเป้าหมายในปี 2036 คือ รองรับผู้บริโภค 2,000 ล้านคนทั่วโลก ช่วยให้ธุรกิจ 10 ล้านราย มีกำไร และสร้างงานได้ 100 ล้านตำแหน่ง 

ซึ่งธุรกิจหลักของ Alibaba มีดังนี้ (ข้อมูลจากรายละเอียดผลการดำเนินงานงวด 30 มิ.ย. 2022)

[บทวิเคราะห์] หุ้น Alibaba ยังมีอนาคตมั้ย เมื่อเจอศึกทั้งจีน-อเมริกา ?

[บทวิเคราะห์] หุ้น Alibaba ยังมีอนาคตมั้ย เมื่อเจอศึกทั้งจีน-อเมริกา ?

หุ้น Alibaba กับศึกหนักทั้งทางการจีนและสหรัฐฯ

โดยรวมแล้วธุรกิจหลักของ Alibaba ก็คือ อีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีทั้งในจีนและต่างประเทศ แต่ก็พยายามขยายตัวเองไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้ โดยเฉพาะการหันไปบุกธุรกิจคลาวด์ ก็เรียกว่าเป็นยักษ์ใหญ่ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

แต่ใช่ว่าเส้นทางการครองตำแหน่งยักษ์ใหญ่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะว่าระหว่างทางนี้ Alibaba ต้องเผชิญศึกหนักรอบทิศ โดยเฉพาะจากทางการจีนและทางการสหรัฐฯ

ในฝั่งทางการจีนเอง ในช่วงปี 2020-2021 ก็มีการเพ่งเล็ง Alibaba อย่างมาก กระชับวงล้อมธุรกิจอย่างหนัก ปราบปรามธุรกิจเทคโนโลยีในประเทศอย่างเข้มงวด เน้นป้องกันการผูกขาดและการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค

ซึ่งการปราบปรามหลัก ๆ ที่ Alibaba  เจอก่อนหน้านี้ก็มีทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และอีกส่วนในบริษัท Ant Financial บริษัทเทคโนโลยีการเงินยักษ์ใหญ่ที่  Alibaba ถือหุ้นอยู่ 

สิ่งที่ Alibaba ทำ เพื่อรับมือ ความท้าทายจากทางการจีนก็คือ การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เพิ่มบทบาทของตัวเองในธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากอีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจคลาวด์ ที่ถือเป็นแม่เหล็กหลักที่ Alibaba มองว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้

Daniel Zhang ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Alibaba Group ระบุไว้ในการประกาศผลการดำเนินงานงวดล่าสุด 30 มิ.ย. 2022 ว่า บริษัทมีการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวมและยังคงมุ่งมั่นเดินกลยุทธ์ระยะยาวที่วางไว้

ส่วนผลการดำเนินงานที่ออกมาในรอบนี้ เกิดจากธุรกิจชะลอตัวในช่วงเดือน เม.ย. และ พ.ค. 2022 ที่โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้งในจีน แต่ในเดือน มิ.ย. 2022 ก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจแล้ว ซึ่ง Alibaba ก็ยังเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว

คราวนี้พอหันหน้าไปหาทางการสหรัฐฯ บ้าง ก็พบว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ก.ค. 2022 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ก็ออกมาประกาศว่าจะเพิ่มชื่อของ Alibaba เข้าไปอยู่ในรายการของบริษัทจีนที่อาจถูกถอดถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายด้านการตรวจสอบบริษัทที่ถือครองโดยต่างชาติ ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่ทางการสหรัฐฯ ต้องการได้

หลังจากข่าวนี้ประกาศออกมา หุ้นของ Alibaba ก็ร่วงลงทันที แต่ Alibaba ก็เตรียมทางลงสำหรับประเด็นนี้ไว้แล้ว โดย Toby Xu ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน Alibaba Group บอกไว้ในโอกาสเผยแพร่ผลการดำเนินงานรอบล่าสุดของบริษัทว่า มีแผนจะเพิ่มตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นตลาดหลักที่บริษัทจดทะเบียน นอกเหนือจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นหลักอย่างเดียว

เรียกว่าถึงจะมีทางการจีนกระชับวงล้อม และก.ล.ต.สหรัฐฯ กดดัน แต่ Alibaba ก็ยังดิ้นรนหาทางให้ตัวเองไปต่อได้

Alibaba กำลังบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

นอกเหนือจากการดิ้นรนที่ว่ามา ล่าสุด Alibaba ก็เพิ่งจับมือกับ Xpeng สตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้า พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ โดยการเปิดศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อฝึกอบรมซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ เนื่องจากระบบการขับขี่อัตโนมัติจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลมาประมวลผลเป็นคำสั่งฝึกอบรมอัลกอริทึมซึ่งเปรียบเสมือนสมองกลอัจฉริยะของรถ

ศูนย์คอมพิวเตอร์ใหม่นี้จะทำให้ใช้เวลาฝึกอบรมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติหลักน้อยลงมาก จากที่เคยต้องใช้เวลาถึง 7 วัน ก็จะเหลือแค่ภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น

นักวิเคราะห์ก็ยังแนะนำซื้อหุ้น Alibaba อยู่

คราวนี้พอกลับมามองที่ฝั่งผู้ลงทุน ก็ต้องยอมรับว่า มีข่าวทางการจีนออกมาปราบปรามอะไรเกี่ยวข้องกับ Alibaba หรือข่าวเกี่ยวกับการถอดถอนบริษัทจีนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทีไร นักลงทุนในตลาดก็ตกใจขายหุ้นออกมาตลอด

แถมนอกจากมีมรสุมข่าวของตัวเองแล้ว ยังเจอปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย จากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นเทคฯ หลังทิศทางอัตราดอกเบี้ยกลับเป็นขาขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองกันไปแบบยาว ๆ บรรดานักวิเคราะห์ก็ยังมองว่าหุ้น Alibaba group ซึ่งมีชื่อย่อในตลาดว่า BABA ก็ยังน่าซื้อเก็บต่ออยู่ดี

ข้อมูลจาก Nasdaq Analyst Research ซึ่งรวบรวมบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเป้าหมายราคาหุ้นของนักวิเคราะห์ค่ายต่าง ๆ เอาไว้ พบว่า คำแนะนำล่าสุดของเหล่านักวิเคราะห์ที่มีเกี่ยวกับหุ้น BABA ก็ยังคงเป็น แนะนำให้ซื้ออยู่ โดยคาดการณ์ราคาหุ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 153.86 ดอลลาร์ต่อหุ้น คาดการณ์สูงสุดอยู่ที่ 205 ดอลลาร์ต่อหุ้น และคาดการณ์ต่ำสุดอยู่ที่ 115 ดอลลาร์ต่อหุ้น

นักลงทุนไทยอยากซื้อหุ้น Alibaba ต้องทำยังไง

เมื่อนักวิเคราะห์ต่างก็ยังมองว่า Alibaba น่าสนใจ และนักลงทุนที่เชื่อว่ายังไง Alibaba ก็ต้องได้ไปต่อยังมี คราวนี้ก็มาถึงคำถามที่ว่า แล้วถ้านักลงทุนไทยอย่างเราอยากจะลงทุน Alibaba ต้องทำยังไง พี่ทุยก็แนะนำว่า มีทางเลือกที่ทำให้นักลงทุนไทยไปลงทุนหุ้น Alibaba ได้คือ

1. ลงทุนหุ้น Alibaba โดยตรงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

สำหรับนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหุ้น บางบริษัทหลักทรัพย์จะมีบริการให้ซื้อหลักทรัพย์ในต่างประเทศได้ ก็จะสามารถไปซื้อหุ้น Alibaba โดยตรงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ เพียงแต่วิธีนี้อาจจะเหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินทุนตั้งต้นมากหน่อย  

2. ลงทุนผ่าน Alibaba DR

DR เป็นตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้นักลงทุนไปลงทุนหุ้นต่างประเทศได้สะดวกด้วยสกุลเงินของประเทศตัวเอง

โดย Alibaba DR เป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย ลงทุนหุ้น Alibaba ได้ด้วยสกุลเงินบาทผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งคนที่จะลงทุนได้ ก็ต้องมีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่ 

3. ลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่ไปลงทุนในหุ้น Alibaba

ปัจจุบันมีกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศในไทยหลายกองที่ลงทุนในหุ้น Alibaba อยู่ มีทั้งที่เข้าไปซื้อเองโดยตรงเลย หรือที่ไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ แล้วกองทุนนั้นมีการลงทุนในหุ้น Alibaba ซึ่งนักลงทุนสามารถไปค้นหาได้ว่ากองทุนไหนบ้างที่ลงทุนในหุ้น Alibaba โดยดูจากข้อมูลในหนังสือชี้ชวนและสรุปรายละเอียดการลงทุนของกองทุน ข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุนรวมก็คือ เงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก ก็ลงทุนได้

อย่างไรก็ตาม ถ้านักลงทุนคิดจะลงทุน Alibaba ผ่านกองทุนรวม ก็ต้องรู้ไว้ว่า กองทุนรวมที่เลือกลงทุนอาจจะขายหุ้น Alibaba นั้นออกไปได้ภายหลัง หรือไม่ได้ลงทุน Alibaba อยู่ตลอด

ดังนั้นแนะนำว่าถ้าเป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวม ก็ดูจากนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้น ๆ เป็นหลักดีกว่าว่าถูกจริตกับตัวเองรึเปล่า แล้วก็ดูหุ้นโดยรวม ๆ ที่กองทุนนั้นไปลงทุน นอกเหนือจากหุ้น Alibaba จะได้รู้ว่า หุ้นที่กองทุนนั้นเลือก เป็นหุ้นที่เราเชื่อเหมือนกันหรือเปล่าว่ามีอนาคต และน่าสนใจระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรียบ Alibaba เหมือนเครื่องบินที่กำลังพาเราไปยังจุดหมายปลายทาง พี่ทุยก็มองว่า เวลานี้เครื่องบินกำลังเจอสภาพอากาศที่แปรปรวน ตกหลุมอากาศบ้างเป็นครั้งคราว แต่กัปตันก็พยายามหาวิธีในการพาผู้โดยสารไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพอยู่

ดังนั้นถ้าคิดจะเข้าไปลงทุน Alibaba ก็ต้องรู้ด้วยว่า กำลังอยู่ในช่วงที่ความเสี่ยง ความไม่แน่นอนมีเยอะ แต่ท่ามกลางความเสี่ยงก็มีโอกาส ดังนั้นเงินที่เอาไปลงทุนก็ควรเป็นเงินที่เย็นพอ รอเวลาเติบโตไหว ไม่ใช่เงินที่ลงทุนแล้ว หวังว่าจะกำไรเดี๋ยวนี้ เร็ว ๆ นี้

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile