[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ “โควิด”-19

4 min read  

ฉบับย่อ

  • บทสัมภาษณ์บุคคลหนึ่ง ที่เคยได้รับการรักษาตัวจากการเป็น “โควิด”-19 แต่ปัจจุบันหายดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เลยอยากจะนำบทสัมภาษณ์ตรงนี้มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน
  • สิ่งที่น่ากลัวของ “โควิด”-19 คือ เราไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสติดเมื่อไหร่ เพราะบางคนติดแล้วแต่ไม่แสดงอาการก็ยังออกมาใช้ชีวิตปกติ แต่โรคนี้ก็ไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้น พวกการล้างมือ ใส่หน้ากาก การแยกกันกิน การเว้นระยะห่างช่วยได้เยอะ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

วันนี้พี่ทุยได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์บุคคลหนึ่ง ที่เคยได้รับการรักษาตัวจากการเป็น “โควิด”-19 แต่ปัจจุบันหายดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เลยอยากจะนำบทสัมภาษณ์ตรงนี้มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน พี่ทุยเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงอยากจะรู้ว่า อาการของโรคนี้เป็นอย่างไร ? แพทย์มีวิธีการรักษาอย่างไร ? ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานแค่ไหน? หมดค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่? ถ้าอยากรู้ไปอ่านกันได้เลยในบทความนี้

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19

1. อาการก่อนไปพบแพทย์ แล้วตรวจพบว่าเป็น โควิด-19 เป็นอย่างไร ?

อาการเริ่มต้น รู้สึกว่าตัวเองตัวร้อน มีไข้เล็กน้อยแล้วก็ไอนิดหน่อย แต่ยังไม่มีเสมหะ และไม่มีน้ำมูก จึงไปพบแพทย์ปรากฏว่า แพทย์วินิจฉัยว่าน่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา และแพทย์ไม่ได้ให้ตรวจ Covid-19 เพราะว่าไม่ได้เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงเลย โดยรวมแล้วคิดว่าอาการเริ่มแรกเหมือนไข้หวัดทั่วไปมาก ๆ จึงเอายาแก้อักเสบกลับมากินที่บ้าน อาการมีไข้ลดน้อยลงตามช่วงที่กินยา แต่พอผ่านไป 3-4 วัน เริ่มรู้สึกว่ามีไข้กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้รู้สึกว่าตัวร้อนและเมื่อย ๆ ตัวกว่าครั้งแรกเยอะ จึงกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง และยืนยันขอตรวจ โควิด-19

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19 2. วิธีการตรวจ และระยะเวลารอผลการตรวจ เป็นอย่างไร ?

การตรวจจะทำการเก็บน้ำมูกและเนื้อเยื่อจากในโพรงจมูกและลำคอ วิธีการคือการเอาไม้เข้าไปปั่นเนื้อเยื่อออกมาผ่านรูจมูก คล้าย ๆ การตรวจไข้หวัดใหญ่แต่รู้สึกว่าปั่นรุนแรงและนานกว่า ซึ่งผลรอตรวจนาน จากการสอบถามแพทย์ พบว่า ต้องส่งไปตรวจที่ Lab เฉพาะทางซึ่งมีไม่กี่ที่ในประเทศจึงทำให้รอผลนาน ระหว่างนั้น แพทย์จะให้ไปเอ็กซเรย์ปอดดูว่ามีปัญหาหรือไม่ และตรวจอย่างอื่น ๆ ที่มีอาการใกล้เคียงและรู้ผลเร็ว เช่น ไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก สุดท้ายใช้เวลาประมาณ 1 วันกว่าผลจะออก ซึ่งพบว่าเป็น Positive หรือพบเชื้อโรค แต่แพทย์จะใช้คำว่า Probable หรืออยู่ในกลุ่มผู้มีโอกาสติดเชื้อเพราะเป็นผลจากแค่ Lab แรกเท่านั้น

ถ้าจะยืนยัน (Confirmed) ต้องเป็นผลว่าพบจาก Lab ที่ 2 ที่ให้ผลเหมือนกัน ซึ่ง Lab 2 ก็รอไปอีก 2 วันครึ่ง ไม่รู้ว่าที่นานขึ้นเพราะช่วงนั้นคนเริ่มมาตรวจเยอะหรือป่าว

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19 3. ระหว่างการรักษา แพทย์มีวิธีการรักษาแบบไหน และมีอาการอย่างไร ?

อาการจะรู้สึกเหมือนไข้หวัดใหญ่เลย คือ มีอาการตัวร้อน เมื่อยตัวเหมือน ไม่มีแรง แต่ที่เพิ่มมา คือ รู้สึกว่าหายใจไม่สะดวก เหนื่อยง่าย มีอาการไอด้วย ซึ่งการรักษาก็ทำตามอาการที่เป็น พอเป็นไข้ให้ก็ให้ยาลดไข้ ไอก็พ่นยา ทานยา จะคอยเช็คอาการทั้งการดูผ่านมอนิเตอร์และมีเข้ามาคุยสอบถาม แต่การเข้ามาที แพทย์และพยาบาลจะใส่ชุดหมีเลย มีการเอ็กซเรย์ปอดดูเป็นระยะ ๆ ว่าเชื้อลงปอดหรือไม่

พอผ่านไปซัก 3 วันหลังจากที่เข้ามานอน รพ. เริ่มเบื่ออาหารและหายใจลำบาก รู้สึกทรมานเวลาหายใจ แพทย์เลยให้ใส่เครื่องช่วยหายใจ และพบว่าที่ปอดเริ่มมีจุดขาว ๆ แพทย์เลยให้ยาต้านไวรัส (Avigan) ตามที่เป็นข่าว หลังจากนั้นอาการก็ค่อย ๆ ดี ขึ้นใน 4 วัน จนสุดท้ายตรวจแล้วไม่พบเชื้ออีกในวันที่ 8 ของการรักษา วันรุ่งขึ้นจึงกลับบ้าน

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19

4. วิธีการดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยเป็น โควิด-19 ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล

แพทย์อธิบายว่า ยาต้านไวรัสที่กินเข้าไปจะช่วยยับยั้งการเติบโตของไวรัส ไม่ให้มันเยอะ แต่สุดท้ายก็ต้องให้ร่างกายเราชนะมันให้ได้ จึงต้องนอนพักผ่อนให้เยอะ ๆ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ มันจะรู้สึกว่าเบื่ออาหาร ไม่อยากกิน แต่ก็ต้องพยายามกินให้ได้ เพื่อที่ร่างกายจะได้ฟื้นตัวเอาเม็ดเลือดขาวมากำจัดเชื้อ ที่สำคัญคือ จิตใจ ช่วงแรกมันจะรู้สึกห่อเหี่ยว พ่อแม่พี่น้องก็ไม่ได้เจอ พอตรวจพบว่าเป็นก็ต้องรีบแยกตัว มันเลยรู้สึกว่าท้อมาก ๆ ต้องทำจิตใจให้เข้มแข็งแล้วร่างกายมันจะสู้ได้ดีขึ้น

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19

5. ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเท่าไหร่ ?

มีค่าจ่ายใช้ตอนอยู่ที่ รพ. 9 วันประมาณ 250,000 บาท รักษาใน รพ.เอกชน เนื่องจากมีประกันสุขภาพไว้อยู่แล้ว จริง ๆ มีส่วนหนึ่งที่ ประกันไม่ครองคุ้ม ประมาณเกือบ 1 หมื่นบาท ไม่แน่ใจว่าเป็นค่ายาหรืออะไร แต่ทาง รพ. บอกว่าภาครัฐจะเป็นคนออกส่วนนี้ให้ นอกจากนี้ยังมีค่าตรวจของญาติคนอื่น ๆ ที่ใกล้ชิดอีกคนละ 6,500 บาท

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19 6. หลังจากหายจาก โควิด-19 และออกจากโรงพยาบาลแล้ว มีข้อห้ามอะไรบ้าง ?

หลังจากที่ตรวจว่าไม่พบเชื้อ ก่อนออกจาก รพ. ได้ก็ต้องทำการตรวจจากทั้ง 2 Lab เช่นกัน จึงจะได้รับการยืนยัน ( Confirmed) ว่าหายแต่ยังไงก็ตาม แพทย์แนะนำให้อยู่บ้านเฝ้าดูอาการตัวเองต่ออีก อย่างน้อย 7 วัน รวมถึงกักตัวเองให้ครบ 14 วัน อย่าเพิ่งไปพบเจอใคร เพราะยังไม่มีการยืนยันแน่นอนว่า หายแล้วจะไม่แพร่เชื้อ แต่โอกาสก็จะน้อย แพทย์อธิบายว่าเชื้อน้อยจนตรวจไม่พบแล้วไม่น่าจะแพร่เชื้อได้ และยังแนะนำให้กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอจะได้ฟื้นตัวได้เร็วๆ

[บทสัมภาษณ์จริง] คนที่เคยมีประสบการณ์ติดเชื้อ "โควิด"-19 7. ฝากถึงผู้ที่กำลังกังวลเกี่ยวกับโรคนี้ และให้กำลังใจผู้ป่วย โควิด-19

อยากฝากถึงผู้ที่กำลังกังวลว่า สิ่งที่น่ากลัวของโรคนี้ คือ เราไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสติดเมื่อไหร่ เพราะบางคนติดแล้วแต่ไม่แสดงอาการก็ยังออกมาใช้ชีวิตปกติ แต่โรคนี้ก็ไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้น พวกการล้างมือ ใส่หน้ากาก การแยกกันกิน การเว้นระยะห่างช่วยได้เยอะ ภายในครอบครัวเองก็ไม่มีใครติดเพิ่มแม้จะอยู่ใกล้ชิดกัน เพราะพอเริ่มป่วยก็เริ่มแยกกันกินข้าว ใส่หน้ากากตลอดเวลา แยกห้องนอนกันทันที ถึงเป็นแล้วก็อย่ากังวลมากนัก มันยังมีหนทางที่จะรักษาให้หายได้ สุดท้ายขอให้คนที่สู้กับโรคนี้อยู่ ชนะมันให้ได้ อย่าท้อ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองครับ ทุกคนในสังคมต้องช่วยกันครับ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply