งวดเข้ามาใกล้แล้วกับการเลือกตั้งใหญ่ 2566 เพราะรัฐบาลชุดนี้ใกล้ครบวาระวันที่ 23 มี.ค. 2566 แต่โค้งสุดท้ายนี้หลายคนก็คาดกันว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 29 ‘น่าจะ’ ประกาศยุบสภาก่อนครบกำหนดไม่กี่วัน
ซึ่งกรณีที่มีการประกาศยุบสภา รัฐธรรมนูญมาตรา 103 ระบุว่า กกต. จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน โดย กกต. ต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปและกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้งภายใน 5 วัน หลังยุบสภา หากพิจารณาไทม์ไลน์การเลือกตั้งคร่าว ๆ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. 2566
แต่ไม่ว่าใครจะเป็นนายก คนที่ 30 ของประเทศไทย พี่ทุยขอพาชาวไทยทุกคนย้อนไปนายกฯ ของประเทศไทยมีใครมาแล้วบ้าง?
รายชื่อ นายกรัฐมนตรีไทย 1 – 29 คน
หลังคณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยก็มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีนายก มาแล้ว 29 คน พี่ทุยได้รวบรวมรายชื่อและวันเข้ารับตำแหน่งจากเวปไซต์รัฐบาลไทย ดังนี้
1. พระยามโนปกรณนิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) 28 มิ.ย. 2475 – 20 มิ.ย. 2476
2. พันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) 21 มิ.ย. 2476 – 16 ธ.ค. 2481
3. จอมพล แปลก พิบูลสงคราม (แปลก ขีตตะสังคะ) 16 ธ.ค. 2481 – 16 ก.ย. 2500
4. พันตรี ควง อภัยวงศ์ 1 ส.ค. 2487 – 8 เม.ย. 2491
5. นายทวี บุณยเกตุ 31 ส.ค. 2488 – 17 ก.ย. 2488
6. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช 17 ก.ย. 2488 – 6 ต.ค. 2519
7. นายปรีดี พนมยงค์ (หลวงประดิษฐ์มนูธรรม) 24 มี.ค. 2489 – 23 ส.ค. 2489
8. พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์) 23 ส.ค. 2489 – 8 พ.ย. 2490
9. นาย พจน์ สารสิน 21 ก.ย. 2500 – 1 ม.ค. 2501
10. จอมพล ถนอม กิตติขจร 1 ม.ค. 2501 – 14 ต.ค. 2516
11. จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ 9 ก.พ. 2502 – 8 ธ.ค. 2506
12. นายสัญญา ธรรมศักดิ์ 14 ต.ค. 2516 – 15 ก.พ. 2518
13. พลตรีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช 14 มี.ค. 2518 – 20 เม.ย. 2519
14. นายธานินทร์ กรัยวิเชียร 8 ต.ค. 2519 – 20 ต.ค. 2520
15. พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ 11 พ.ย. 2520 – 3 มี.ค. 2523
16. พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ 3 มี.ค. 2523 – 4 ส.ค. 2531
17. พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ 4 ส.ค. 2531 – 23 ก.พ. 2534
18. นายอานันท์ ปันยารชุน 2 มี.ค. 2534 – 7 เม.ย. 2535
19. พลเอกสุจินดา คราประยูร 7 เม.ย. 2535 – 10 มิ.ย. 2535
20. นายชวน หลีกภัย 23 ก.ย. 2535 – 17 พ.ย. 2543
21. นายบรรหาร ศิลปอาชา 13 ก.ค. 2538 – 25 พ.ย. 2539
22. พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ 25 พ.ย. 2539 – 8 พ.ย. 2540
23. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 9 ก.พ. 2544 – 19 ก.ย. 2549
24. พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ 1 ต.ค. 2549 – 29 ม.ค. 2551
25. นายสมัคร สุนทรเวช 29 ม.ค. 2551 – 9 ก.ย. 2551
26. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 18 ก.ย. 2551 – 2 ธ.ค. 2551
27. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 17 ธ.ค. 2551 – 5 ส.ค. 2554
28. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5 ส.ค. 2554 – 7 พ.ค. 2557
29. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา 24 ส.ค. 2557 – ปัจจุบัน
เปิดโผ นายกรัฐมนตรีไทย ผลงานด้านเศรษฐกิจเด่น
คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำนายก ได้ทั้ง 29 คน อาจมีบางคนที่ฝากผลงานไว้ในแต่ละยุคสมัย บางส่วนยังมีรากฐานต่อเศรษฐกิจไทยมาจนถึงทุกวันนี้ พี่ทุยเลยคัดนายกที่มีผลงานเด่นด้านเศรษฐกิจฝากกัน
นายก คนที่ 3 จอมพล แปลก พิบูลสงคราม
เป็นหนึ่งในคณะราษฎรที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นนายกที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดถึง 14 ปี 11 เดือน ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มยุคด้วยนโยบายรัฐนิยมเปลี่ยนชื่อจาก “สยาม” เป็น “ไทย”
- เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจด้วยระบบทุนนิยมโดยมีรัฐนำ สนับสนุนนายทุนน้อย ข้าราชการ และชาวนาผู้ร่ำรวย เปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนโดยมีรัฐส่งเสริมความร่วมมือ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกา เกรงว่าลัทธิคอมมิวนิสต์จะครอบงำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงให้ความช่วยเหลือประเทศไทย แนวโน้มนโยบายจึงคล้อยตามการคานอำนาจระหว่างค่ายโลกเสรีกับคอมมิวนิสต์
- รัฐบาลจึงส่งเสริมบรรดาพวกนายทุนต่างชาติ (ฝั่งโลกเสรี) ที่เข้ามาลงทุน
- ออกกฎหมายสงวนอาชีพไว้สำหรับคนไทย
- ให้นายทุนทั้งหลายรวมตัวกันเพื่อให้มีการต่อรองกับต่างประเทศจึงจัดตั้งสภาการค้า
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 13 พลตรีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
เป็นหัวหน้าพรรคกิจสังคม ในการเลือกตั้งปี 2518 แม้พรรคกิจสังคมจะมีคะแนนเพียง 18 ที่นั่ง แต่ก็สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังตัดขาดความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลตั้งแต่ปี 2492 จีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ และไทยเลือกยืนอยู่ข้างสหรัฐฯ นโยบายเศรษฐกิจที่โดดเด่น
- นโยบายเงินผัน เป็นการจัดสรรเงินเพื่อพัฒนาชนบท เร่งรัดให้ทุกตำบลจัดทำโครงการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และลักษณะที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ มีจุดมุ่งหมายเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
นายก คนที่ 16 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
รับตำแหน่งนายก หลังพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ลาออกจากตำแหน่ง โดยดำรงตำแหน่งถึง 3 สมัย ด้วยเวลา 8 ปี 5 เดือน ผลักดันนโยบายการเมืองนำทหาร เพื่อยุติการสู้รบกับพรรคคอมมิวนิสต์ ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยรับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากญี่ปุ่น จนเรียกได้ว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโชติช่วงชัชวาล ผลงานด้านเศรษฐกิจ ประกอบด้วย
- การลดค่าเงินบาท 3 ครั้ง และปรับนโยบายบริหารอัตราแลกเปลี่ยนจากระบบคงที่เป็นระบบตระกร้าเงินให้การบริหารมีความยืดหยุ่น ส่งผลให้การส่งออกฟื้นตัว
- นอกจากนี้ยังเป็นยุคเริ่มโครงการ Eastern Seaboard โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด และท่าเรือแหลมฉบัง อีกทั้งเป็นยุคที่ไทยเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยสอดรับการเริ่มต้นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในแถบ Eastern Seaboard ที่ยังมีบทบาทต่อเศรษฐกิจไทยมาจนถึงปัจจุบัน
นายก คนที่ 17 พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
เป็นยุคที่ยังมีความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศระบอบคอมมิวนิสต์ ทำให้ไทยขาดโอกาสเจรจาธุรกิจ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ จึงมองว่าหากพัฒนาประเทศกลุ่มอินโดจีนให้รุ่งเรือง ประเทศไทยก็ร่ำรวยไปด้วย การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจจึงดำเนินไปพร้อมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านค่ายคอมมิวนิสต์ จึงเป็นที่มาของนโยบายเศรษฐกิจอันโดดเด่นอย่าง
- เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า
- ประสานงานเขมร 4 ฝ่าย ยุติสงครามและจัดตั้งรัฐบาลนายกฯ สีหนุ จากนั้นฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเวียดนาม เช่นเดียวกับลาวโดยเริ่มลงทุนในลาว ร่วมลงทุนด้านอสังหาฯ และก่อสร้างโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า
เศรษฐกิจไทยปี 2531 โตถึง 13.2% และปี 2532 โตถึง 11.2% ร้อนแรงติดอันดับโลก นับเป็นยุคเริ่มต้นการเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย แต่ด้วยการที่เศรษฐกิจเติบโตร้อนแรงมากก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของวิกฤติต้มยำกุ้งที่กำลังจะมาถึงในปี 2540
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 18 นายอานันท์ ปันยารชุน
อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย หลังรัฐประหาร ปี 2534 และพฤษภาทมิฬ 2535 มีพื้นหลังการทำงานเป็นทูต จากนั้นหันมาทำด้านธุรกิจร่วมงานกับบริษัทสหยูเนียน ภารกิจหลักขณะดำรงตำแหน่ง คือ การร่างรัฐธรรมนูญ และจัดการเลือกตั้ง ส่วนด้านเศรษฐกิจที่โดดเด่น ประกอบด้วย
- เปิดการเจรจาทบทวนโครงการโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย ที่มีมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เพื่อให้ภาครัฐได้ผลประโยชน์ที่เหมาะสม และนับเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
- เสนอให้อาเซียนร่วมมือกันจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) เมื่อปี 2535
นายก คนที่ 20 นายชวน หลีกภัย
ดำรงตำแหน่งนายก สมัยแรกหลังพรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งปี 2535 และอีกสมัยปี 2540 หลังพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออก โดยในสมัยที่ 2 จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องแก้ปัญหาวิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งโดยรวมมีผลงานโดดเด่น ดังนี้
- การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม, เริ่มต้นสร้างรถไฟรางคู่ในพื้นที่ที่พร้อม เช่น ตัวเมืองกรุงเทพฯ, เริ่มโครงการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
- ตั้งคณะทำงานด้านเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดำเนินการแปรรูปรัฐวิสาหกิจซึ่งมีทั้งการขายหุ้นและยุบองค์กรรัฐวิสาหกิจ สร้างผลกำไรให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่ม
นายก คนที่ 23 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
รับตำแหน่งนายก 2 สมัย ต่อจากรัฐบาลชวน หลีกภัย สานต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติต้มยำกุ้ง สร้างปรากฎการณ์เศรษฐกิจด้วยนโยบายประชานิยมเข้าถึงประชาชนกลุ่มรากหญ้า ประกอบด้วย
- พักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อยเป็นเวลา 3 ปี
- จัดตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
- จัดตั้งธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
- โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
- โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า
- แก้ปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ออกจากระบบธนาคารพาณิชย์โดยเร็วด้วยการจัดตั้งบรรษัทกลางบริหารสินทรัพย์
เศรษฐกิจไทยตลอดยุคทักษิณโตเฉลี่ยปีละ 5% ซึ่งนับว่าไทยฟื้นตัวได้อย่างดี หลังประเทศพึ่งผ่านพ้นวิกฤติต้มยำกุ้งมาได้ไม่เพียง 4 ปี
นายก คนที่ 27 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
รับตำแหน่งนายก หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน นับเป็นยุคสมัยที่การเมืองร้อนแรงอีกทั้งยังเจอปัญหาวิกฤติ Hamburger ปี 2551 ไปอีก เศรษฐกิจรับความเสียหายจากปัจจัยภายในและนอกประเทศ นโยบายเศรษฐกิจจึงต้องเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดังนี้
- นโยบายเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจ
- นโยบายเรียนฟรี 15 ปี, เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 500 บาทต่อเดือน
- จัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียงทุกตำบล สนับสนุนเกษตรกรและสร้างงานในท้องถิ่น
นายก คนที่ 28 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รับตำแหน่งหลังพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งปี 2554 เปิดสมัยด้วยการเจอเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 จากนั้นปี 2555 เศรษฐกิจกลับมาโต 7.2% จากฐานที่ต่ำ จากนั้นปี 2556 เศรษฐกิจไทยก็กลับมาโตในระดับที่ควรจะเป็นที่ 2.7% ด้านโยบายเศรษฐกิจยังคงเน้นประชานิยม ประกอบด้วย
- เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท และเงินเดือน ป.ตรี ขั้นต่ำ 15,000 บาท
- ใช้มาตรการภาษีกระตุ้นการลงทุน เช่น นโยบายบ้านหลังแรกและรถคันแรก
- โครงการพักหนี้ครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย
- กองทุนหมู่บ้าน กองทุน SML
- นโยบายจำนำข้าว ที่มีทั้งข้อดีและเสีย โดยชาวนาได้ประโยชน์ แต่รัฐแบกภาระหลังระบายสต๊อกไม่ทัน กลายเป็นแรงกดดันราคาข้าวในตลาดโลกให้ลดลง
นายก คนที่ 29 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เข้ารับตำแหน่งหลังการรัฐประหารปี 2557 และจัดระเบียบการเมืองเรียบร้อย ก็เน้นพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน
- สร้างถนน มอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ พัฒนาท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง
- โครงการที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเป็นพื้นที่ลงทุน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ
ช่วงปี 2563 เผชิญการแพร่ระบาดของ COVID-19 สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจครั้งใหญ่ รัฐบาลมีนโยบายเยียวยาเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินกระตุ้นการใช้จ่าย ได้แก่
- โครงการคนละครึ่ง โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเราชนะ เพื่อช่วยภาระค่าครองชีพในภาวะ COVID-19
- นโยบายชิมช้อปใช้เพื่อให้ประชาชนใช้จ่ายและนำค่าใช้จ่ายไปลดภาษี
สรุป
ช่วงแรกประเทศไทยต้องปรับนโยบายเศรษฐกิจตามสภาวะการเมืองระหว่างประเทศเป็นหลัก จนถึงช่วงปี 2525-2532 นับเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยก้าวข้ามสังคมเกษตรกรรมสู่อุตสาหกรรม แถมได้รับอานิสงส์จากฐานผลิตที่ย้ายออกจากญี่ปุ่น ซึ่งยังคงอยู่มาถึงปัจจุบันทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ในระยะหลังก็ยังคงพึ่งพาอุตสาหกรรมเดิมที่อยู่มากว่า 30 ปี เพิ่มเติมด้วยนโยบายประชานิยม รวมไปถึงมาตรการด้านหนี้
พี่ทุยเลยมองว่าเป็นสิ่งสะท้อนทางตันของเศรษฐกิจไทย นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดถัดไปต้องมองถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอีกรอบ มิฉะนั้นอาจสายเกินไปแล้ว
อ่านเพิ่ม