เริ่มลงทุนแบบมือใหม่ตามสไตล์ปู่ "บัฟเฟตต์"

เริ่มลงทุนแบบมือใหม่ตามสไตล์ปู่ “บัฟเฟตต์”

3 min read  

ฉบับย่อ

  • วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไอดอลของนักลงทุนคนรุ่นใหม่ เป็นปรมาจารย์การลงทุน VI ของโลก มีนักลงทุนจำนวนมากที่พยายามศึกษาเรียนรู้วิธีการลงทุนตามสไตล์ปู่บัฟเฟตต์
  • ในบทความนี้นักลงทุนมือใหม่ จะรู้ถึงวิธีการลงทุนของปู่บัฟเฟตต์ การลงทุนหุ้นให้เหมือนลงทุนในธุรกิจ การมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว การดูส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of safety) และตัวเลขอื่น ๆ ที่ปู่มักไว้ใช้เลือกลงทุน

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ปู่ “บัฟเฟตต์ ” หรือวอร์เรน บัฟฟเตต์ บุรุษผู้เป็นตำนานของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน โดยปรมาจารย์การลงทุนหุ้นแนว VI (Value Investor) คนนี้ได้เริ่มลงทุนมาตั้งแต่เด็ก โดยมีเงินทุนส่วนตัวเริ่มต้นเพียงแค่ 100 เหรียญสหรัฐฯ หลังจากนั้นปู่บัฟเฟตต์ได้ตั้งเป้าที่ท้าทายตนเองเอาไว้ คือ ต้องการที่จะเอาชนะตลาดดัชนีดาวโจนส์ให้ได้ปีละ 10% แต่ด้วยความเหนือชั้น คือ คุณปู่กลับทำได้มากกว่านั้นซะอีก จนได้กลายเป็นผู้ที่สามารถสร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 22% ต่อปีโดยประมาณ

ในระหว่างนั้นปู่ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทสิ่งทอเล็ก ๆ แต่ในตอนนี้บริษัทนั้นได้กลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “เบิร์กไชร์ฮาธาเวย์” และในที่สุดปู่บัฟเฟตต์ได้กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยติดอันดับเศรษฐีของโลกไปแล้ว นอกจากนั้นปู่บัฟเฟตต์ยังได้รับการเลือกให้เป็นนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 20 อีกด้วย

พี่ทุยเชื่อว่า ปู่บัฟเฟตต์ น่าจะเป็นไอดอลของนักลงทุนหลาย ๆ คน โดยเฉพาะมือใหม่ที่คิดสนใจลงทุนสไตล์ VI แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มลงทุนยังไงดี ลองมาอ่านแนวคิดการลงทุนตามสไตล์ของปู่บัฟเฟตต์กันว่ามีแนวทางการลงทุนยังไงบ้างนะ ?

ลงทุนในหุ้นให้เหมือนการลงทุนทำธุรกิจ

ปู่บัฟเฟตต์ให้มองการลงทุนในหุ้นเหมือนกับการลงทุนในการทำธุรกิจ ซึ่งจะโฟกัสไปที่ธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้ดีกว่าปกติ เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้ใช้ เช่น หุ้นโค้ก, หุ้นมีดโกนยิลเล็ตต์, หุ้นสถาบันการเงิน wells fargo ในทางตรงข้าม ที่ปู่บัฟเฟตต์จะไม่สนใจลงทุน คือ ธุรกิจที่ปู่ไม่เข้าใจ หรือเข้าใจยาก เช่น หุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ

มุ่งเน้นการลงทุนในระยะยาว

หากปู่คิดว่าหุ้นที่ลงทุนมีคุณภาพดีอยู่แล้ว ก็พร้อมจะถือหุ้นตัวนั้นไปจนวันตาย ไม่ยอมขายทิ้งง่ายๆ จนปู่เคยพูดเล่นว่า ถ้าปู่ตายไปแล้ว ให้เอาโค้กฝังไปในโลงด้วยเลย นอกจากนี้ปู่บัฟเฟตต์ไม่สนใจภาวะเศรษฐกิจหรือภาวะตลาดหุ้นมากนัก โดยโฟกัสไปที่หุ้นหรือธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ ปู่เคยบอกว่า ถ้าตลาดหุ้นปิดไปสัก 5 ปี ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ดังนั้นปู่จึงเอาเวลาไปอ่านหนังสือ ติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุน อ่าน 56-1 มากกว่าเอาเวลามาตามราคาหุ้นเป็นรายวัน หรือดูกราฟหุ้นเป็นนาทีต่อนาทีแบบที่เทรดเดอร์ทำกัน!

แล้วนักลงทุนมือใหม่อย่างเรา จะลงทุนตามสไตล์ “บัฟเฟตต์” ได้ยังไงบ้าง ?

ลงทุนในธุกิจที่ไม่เข้าใจ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นธุรกิจแบบที่ปู่บัฟเฟตต์เลือกลงทุน แต่หากเรามีความรู้เข้าใจในธุรกิจด้านใดด้านหนึ่งอยู่แล้ว การลงทุนธุรกิจที่เราเข้าใจเหล่านี้ เราจะสามารถวิเคราะห์ธุรกิจหรือหุ้นได้ด้วยตนเองเป็นอย่างดี และเข้าใจถึงการทำกำไรและความเสี่ยงของธุรกิจในแต่ละประเภท

ลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการที่มั่นคง สม่ำเสมอ ไม่ใช่บางปีดีมีกำไร บางปีแย่ขาดทุน หรือแนวโน้มรายได้และกำไรลดลง ปู่จะไม่นำมาใช้เพื่อวิเคราะห์เลือกลงทุน

ลงทุนในบริษัทที่เป็นธุรกิจมีอนาคตและเติบโตได้ ในระยะยาวเราควรจะลงทุนในบริษัทที่สามารถเติบโตไปได้เรื่อยๆ ไม่มีคู่แข่งเข้ามาแข่งขันในตลาดได้ง่ายๆ หรือมีกำแพงกั้นคู่แข่งขันหน้าใหม่ หรือมีความสามารถขยายธุรกิจ หรือเรียกง่ายๆว่า มีความสามารถในการแข่งขัน

ธุรกิจหรือหุ้นที่ดีควรที่จะให้ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคาร ซึ่งตัวเลขที่ปู่บัฟเฟตต์ชอบให้ดู คือ ROE (Return on equity)ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น หรือวิธีคิดแบบง่ายๆ คือ กำไรสุทธิหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น

เลือกบริษัทที่มีมาร์จิ้นหรืออัตราส่วนกำไรสูง ๆ เมื่อเทียบกับยอดขาย สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการต่อรองสินค้าสูง

นอกจากวิเคราะห์ธุรกิจและบริษัทที่ดีที่เราเข้าใจแล้วปู่บัฟเฟตต์ยังเลือกหุ้น โดยดูจากผู้บริหารบริษัทด้วย ผู้บริหารควรมีความสามารถมีเหตุผลในการตัดสินใจ มีความซื่อสัตย์ เปิดเผยข้อมูลตามความจริง และที่สำคัญผู้บริหารต้องมองผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก และอีกข้อหนึ่งที่สำคัญ คือ บัฟเฟตต์จะประเมินว่าธุรกิจนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ เพื่อที่ว่าปู่จะสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ให้มากพอสมควร หรือที่นักลงทุนเรียกกันว่า Margin of safety นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ เป็นแก่นการลงทุนของปู่บัฟเฟตต์ ปรมาจารย์การลงทุนหุ้นแนว VI พี่ทุยหวังว่า นักลงทุนมือใหม่จะสามารถนำไปปรับใช้ต่อยอดในการลงทุนตามสไตล์ของแต่ละคนกันไป ซึ่งแนวคิดการลงทุน (Mindset) ถือเป็นมีความสำคัญมากกว่าเครื่องมือการลงทุนใดใดบนโลกใบนี้

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย