“ประกันสุขภาพ” หนึ่งในเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม สามารถเข้ามาช่วยให้แผนการเงินที่เราวางเอาไว้มั่นคงและปลอดภัย โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ไปกับค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย แต่จะเลือกประกันสุขภาพอย่างไร ให้เหมาะสมกับตัวเอง ? ควรมีงบเท่าไหร่ ? วันนี้พี่ทุยสรุปแนวทางการเลือกซื้อประกันสุขภาพ พร้อมแนะนำแบบ ประกันสุขภาพ AIA ที่น่าสนใจมาให้แล้ว ไปดูกัน
จุดเริ่มต้นของการวางแผนการเงินที่ดี ต้องเริ่มต้นที่ฐานล่างของสามเหลี่ยมการเงินเสมอ ซึ่งประกอบไปด้วยเรื่องสภาพคล่องหรือความต้องการพื้นฐาน และการบริหารความเสี่ยง
โดยหลังจากที่เราจัดการเรื่องสภาพคล่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องรีบจัดการก่อนจะกระโดดไปขั้นที่ 2 คือ เรื่องของการโอนย้ายความเสี่ยง ซึ่ง “ประกันสุขภาพ” จะเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้เป็นตัวแรก ๆ
ทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าประกันสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น เพราะจากค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สวัสดิการที่มีอยู่เดิมอาจจะไม่เพียงพอ
ดังนั้น เพื่อเป็นหลักประกันว่าถ้าวันไหนเจ็บป่วยขึ้นมา เราจะสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างสบายใจหายห่วง หรือไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล การมีประกันสุขภาพดี ๆ ติดตัวไว้จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากผลประโยชน์เรื่องของการโอนย้ายความเสี่ยงเเล้ว พนักงานออฟฟิศอย่างพวกเรา ก็ยังสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพ มาลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุด 25,000 บาทต่อปี อีกด้วยนะ ช่วยให้เซฟเงินที่ต้องจ่ายภาษีในปีหนึ่งได้หลายบาทอยู่
ควรทำประกันสุขภาพเท่าไหร่ดี ?
‘ควรทำประกันสุขภาพเท่าไหร่ดี ?’ คำถามนี้ถ้าให้ตอบแบบตรงไปตรงมา พี่ทุยคงบอกว่าให้ มีความคุ้มครองเยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเวลาที่เราเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาจริง ๆ เราจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ถ้าแจ็คพอตเป็นโรคที่ใช้เวลารักษานาน และใช้การรักษาเฉพาะทาง ค่ารักษาพยาบาลก็อาจจะทะลุหลักแสนไปจนถึงหลักล้านได้เลย เรียกได้ว่าเงินที่หามาทั้งชีวิต แทบจะยกให้หมอหมด
แต่แน่นอนว่าวงเงินคุ้มครองที่สูง ก็ย่อมต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยที่สูงตามไปด้วย ดังนั้น จึงกลับมาที่คำตอบที่ว่า ประกันสุขภาพควรมีเยอะ ๆ เอาไว้ก่อน โดยเบี้ยฯ ก็ควรจะเป็น ‘งบประมาณที่ยินดีจ่าย’ จ่ายไหวเท่าไหน ก็เอาเท่านั้น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเบี้ยประกันสุขภาพไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ต่อปี เพื่อไม่ให้เป็นภาระมากจนเกินไป และสามารถนำเงินไปจัดการเป้าหมายการเงินส่วนที่เหลือได้
สมมติว่าพี่ทุยมีรายได้ปีละ 400,000 บาท แปลว่าเบี้ยประกันสุขภาพก็ไม่ควรเกิน 40,000 บาท นั่นเอง ทั้งนี้ 10% ของรายได้ต่อปีเป็นเพียงคำแนะนำในเบื้องต้นเท่านั้น อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคน
จากนั้นพอรู้งบคร่าว ๆ เเล้ว สำหรับใครที่ยังไม่เคยมีประกันสุขภาพเลย พี่ทุยแนะนำว่าให้เริ่มด้วย ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ ทั้งครอบคลุมค่าใช้จ่ายแบบวงเงินรวม ไม่ปวดหัว เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งอาจจะมีแยกรายการบางประเภทเท่านั้น เช่น ค่าห้อง ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ และค่ายากลับบ้าน ทั้งนี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์
แล้วประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายยังเหมาะกับการใช้ร่วมกับสวัสดิการเดิมที่เรามี อย่างเช่น “ประกันกลุ่ม” ที่บริษัทมีให้ ก็สามารถใช้เสริมกันเพื่อช่วยเป็นเบาะรองรับค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ทำให้เมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็วางใจเรื่องค่ารักษาไปได้เลย
และนอกจากประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ควรมีติดตัวแล้ว ประกันอีกหนึ่งประเภทที่พี่ทุยแนะนำให้มีเลยก็คือ ประกันโรคร้ายแรง
เหตุผลแรกเพราะว่าเบี้ยประกันภัยประเภทนี้จะค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ อย่างเช่น วงเงินคุ้มครองโรคร้ายแรง 1,000,000 บาท ค่าเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2,550 ต่อปี* ดังนั้นซื้อติดเอาไว้ก็ไม่เสียหาย เสียเงินวันนี้ ดีกว่าไปเสียดายเอาวันที่สายไปเเล้ว
แล้วนอกจากนี้ ประกันโรคร้ายแรงยังให้ความคุ้มครองคนละแบบกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายด้วย จึงไม่ต้องกังวลว่าผลประโยชน์จะซ้ำซ้อน ยุ่งยาก โดยการจ่ายเงินผลประโยชน์ของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย จะให้ตามค่ารักษาจริงที่เกิดขึ้นจริงเฉพาะในโรงพยาบาลเป็นหลัก และจ่ายให้กับโรงพยาบาลโดยตรง ส่วนการจ่ายเงินผลประโยชน์ของประกันโรคร้ายแรงจะเป็นคล้าย ๆ แบบ เจอ จ่าย จบ กล่าวคือ ตรวจเจอโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยก็รับเงินก้อนได้เลย และสามารถนำเงินก้อนนี้ไปบริหารค่าใช้จ่ายขณะพักรักษาตัวต่าง ๆ ได้เอง
การมีประกันโรคร้ายแรงจึงทำให้มีเงินไปจ่ายค่ารักษาส่วนที่เกินวงเงินจากประกันสุขภาพ รวมถึงเป็นเงินถุงเงินถังสำหรับใช้จ่ายในช่วงเวลาฟื้นฟูตัวเองได้ด้วย เรียกว่าเป็นส่วนชดเชยรายได้ในเวลาที่ยังไม่ได้กลับไปทำงานได้อย่างเต็มที่
การมีทั้งประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายและประกันโรคร้ายแรงควบคู่กัน จึงทำให้สามารถอุ่นใจเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้ไม่ว่าจะเจ็บป่วยมากน้อยแค่ไหน เพราะทั้งสองแบบประกันต่างจะทำหน้าที่ซัพพอร์ตภาระค่าใช้จ่ายและลดความเสี่ยงสภาพคล่องให้กับเราได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะมีงบจ่ายเบี้ยฯ จำกัดก็ตาม
*คำนวณจากผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 26-30 ปี สัญญาเพิ่มเติม AIA CI Plus
ประกันสุขภาพ AIA แบบเหมาจ่ายสุดคุ้ม
ส่วนจะเลือกซื้อประกันสุขภาพของบริษัทไหนดี พี่ทุยก็คงต้องบอกว่าให้เลือกเฉพาะกับบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
ทั้งนี้ก็เพราะการพิจารณาเลือกทำประกันสุขภาพนั้นไม่ใช่ดูแค่เรื่องของวงเงินความคุ้มครองหรือรายละเอียดผลประโยชน์ในกรมธรรม์เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึง “ความมั่นคงทางการเงินของบริษัท” “การบริการ” และ “ความสะดวก” หลังจากนั้นอีกด้วย ดังนั้น การฝากสุขภาพเอาไว้กับบริษัทที่มั่นคงแข็งแรง และพร้อมให้เราเบิกจ่ายอยู่เสมอจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายอยู่ พี่ทุยแนะนำ เอไอเอ เฮลธ์ แฮปปี้ (AIA Health Happy) และ เอไอเอ เฮลธ์ เซฟเวอร์ (AIA Health Saver) สองแบบประกันแบบเหมาจ่าย ที่ตอบโจทย์ได้ตามความต้องการ แผนประกันสุขภาพขายดี จาก AIA
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย* AIA Health Happy มาพร้อมคอนเซปต์จำง่ายคือ “เหมา-เบิ้ล-คุ้ม” ที่จะ “เหมา” ค่ารักษาพยาบาลให้สูงสุด 25 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ และยังพร้อม “เบิ้ล” ความคุ้มครองให้ 2 เท่า** รวม 4 ปีกรมธรรม์ หากตรวจพบว่าป่วยเป็น 6 โรคร้ายแรงยอดฮิต*** และยังให้เพิ่มความ “คุ้ม” ทุกช่วงวัย รับประกันตั้งแต่อายุ 6 ปี – 75 ปี พร้อมส่วนลดสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ และบริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคล (Personal Medical Case Management – PMCM)****
สนใจ AIA Health Happy สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://bit.ly/buconhh
แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่ามีงบจำกัด หรือมีงบน้อยลงมาหน่อย ก็ยังมีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย* AIA Health Saver ที่มาคอนเซปต์ใกล้เคียงกับ AIA Health Happy แต่ลดวงเงินความคุ้มครองมาอยู่ที่หลักแสนบาท เบี้ยประกันภัยจึงเริ่มต้นเพียงเดือนละหลักร้อยเท่านั้น ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย เหมาะเป็นประกันสุขภาพฉบับเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ต้องการแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาล ด้วยเบี้ยฯ ที่ย่อมเยา
สนใจ AIA Health Saver สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://bit.ly/buconhsv
* ผลประโยชน์เหมาจ่ายในบางรายการ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากกรมธรรม์ เมื่อรวมผลประโยชน์หมวด 1-13 และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (ถ้ามี) ต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์
** ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย ในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง ตามคำนิยามที่กำหนดในบันทึกสลักหลัง
*** โรคร้ายแรง หมายถึง โรคร้ายแรงตามคำนิยามของโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้บันทึกสลักหลัง ผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรง มีดังนี้ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack), โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke), การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery By-Pass Surgery), โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer), การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation), และการผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า (Surgery to Aorta)
**** สำหรับความคุ้มครองแผน 15 ล้านบาท และแผน 25 ล้านบาท
-บริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคล (Personal Medical Case Management) ให้บริการโดย Teladoc Health Teladoc Health เป็นบริษัทที่มีความเป็นอิสระจากเอไอเอ เอไอเอไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Teladoc Health ในแง่ของการถือหุ้นและผู้บริหาร และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจใด ๆ ของ Teladoc Health ความพยายามในการชักชวนให้ใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพโดย Teladoc Health ไม่ได้เป็นการขายหรือนำเสนอโดยเอไอเอ เอไอเอจะไม่รับผิดชอบต่อบริการหรือผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพใด ๆ ดังกล่าว
ประกันโรคร้ายแรง จาก AIA
ส่วนประกันโรคร้ายแรง ทาง AIA ก็มีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการได้เลย
เริ่มต้นที่ เอไอเอ ซีไอ พลัส (AIA CI Plus) ให้ความคุ้มครองถึง 44 โรคร้ายแรง/การรักษา รับเงินก้อนทันที 100% ของเงินเอาประกันภัยเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงระดับรุนแรง หรือเสียชีวิตโดยจ่ายเบี้ยฯ แค่หลักพัน แต่ให้ความคุ้มครองถึงหลักล้าน
สามารถดูรายละเอียดของ AIA CI Plus เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/buconcip
ซึ่งประกันโรคร้ายแรงโดยทั่วไป เบี้ยประกันภัยจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุ แล้วก็เป็นเบี้ยฯ จ่ายทิ้ง ถ้าไม่ป่วยหรือไม่เบิกเคลมอะไร ก็เหมือนกับจ่ายฟรี ซึ่งจริง ๆ การทำประกันก็แล้วไม่ได้ใช้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าใครยังรู้สึกเสียดายเงิน พี่ทุยขอแนะนำ เอไอเอ ซีไอ ซูเปอร์แคร์ (ไม่มีเงินปันผล) (AIA CI SuperCare (Non Par))
จุดเด่นก็คือการจ่ายเบี้ยฯ คงที่ และสามารถเลือกแผน 10 ปี หรือ 20 ปี ได้ตามความต้องการ จากนั้นก็จะได้รับความคุ้มครองยาวตลอดชีพ (ถึงอายุ 99 ปี) ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลหรือการจ่ายเบี้ยฯ หลังเกษียณ ถ้าหากไม่เป็นอะไรเราก็จะได้เงินก้อนตามวงเงินความคุ้มครองเลยเมื่อครบสัญญา หรือว่าจะเวนคืนกรมธรรม์ก็สามารถทำได้เช่นกัน เรียกว่าจ่ายเบี้ยฯ ไม่เสียเปล่าเลย ทั้งยังคุ้มครองมากถึง 62 โรคร้ายแรง/การรักษา
สามารถดูรายละเอียดของ AIA CI SuperCare (Non Par) เพิ่มเติมได้ที่
แบบชำระเบี้ย 10 ปี: https://bit.ly/buconci1099
แบบชำระเบี้ย 20 ปี: https://bit.ly/buconci2099
นอกจากนี้ ถ้าใครกังวลว่าประกันโรคร้ายแรงที่โดยปกติแล้วจะเป็นแบบ เจอ-จ่าย-จบ หลังจากนั้นความคุ้มครองก็จะสิ้นสุดลง จะไม่ครอบคลุมพอเพียง แถมเรายังไม่สามารถทำประกันโรคร้ายแรงได้อีกเมื่อป่วยเป็นโรคร้ายแรงไปแล้ว ซึ่งโดยธรรมชาติคนที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง โดยเฉพาะโรคมะเร็งแล้ว มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หรือมีโอกาสที่โรคจะลุกลามไปยังอวัยวะอื่นสูงกว่าคนทั่ว ๆ ไป ตอนนี้พอใจได้แล้วครับ เพราะทาง AIA จึงได้ออกประกันโรคร้ายแรงตัวใหม่ที่ “เจอ-จ่าย-หลายจบ” เรียกได้ว่าถ้าโชคร้ายป่วยเป็นโรคร้ายแรงซ้ำสองก็ยังสามารถเบิกเคลมซ้ำได้ ประกันโรคร้ายแรงตัวนี้ก็คือ เอไอเอ มัลติเพย์ ซีไอ (AIA Multi-Pay CI)
AIA Multi-Pay CI ให้ความคุ้มครอง 62 โรคร้ายแรง/การรักษา สูงสุดถึงอายุ 99 ปีให้ผลประโยชน์สูงสุดถึง 800% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงกว่าประกันโรคร้ายแรงทั่ว ๆ ไปถึง 8 เท่าตัว โดยมีจุดเด่นดังนี้
1. รับผลประโยชน์โรคร้ายแรงระดับต้นถึงปานกลางจ่าย 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (สูงสุด 5 ครั้ง)
2. รับผลประโยชน์โรคร้ายแรงระดับรุนแรงจ่าย 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (สูงสุด 6 ครั้ง)
3. และที่พิเศษสุดคือ ยังสามารถเคลมซ้ำบนโรคเดินได้ใน 3 โรคร้ายแรงยอดฮิต ได้แก่ โรคมะเร็งระยะลุกลาม กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตันได้อีกด้วย ซึ่งเป็นประกันที่แรกที่ให้เคลมซ้ำบนโรคเดิมได้
สามารถดูรายละเอียดของ AIA Multi-Pay CI เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/buconmpci
หรือสนใจประกันโรคร้ายแรงอื่น ๆ จาก AIA สามารถดูได้ที่ https://bit.ly/buconci
– ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
– ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
เมื่อซื้อ ประกันสุขภาพ AIA ควบประกันโรคร้ายแรง รับโปรโมชันทันที
พิเศษ ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันสุขภาพคู่กับประกันโรคร้ายแรง
รับเลย ! กระเป๋าถือสุดคิ้วท์ “AIA Rabbit Collection” (มูลค่า 490 บาท) แค่มีเบี้ยประกันภัยรวมขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยลงทะเบียนรับสิทธิง่าย ๆ ที่เว็บไซต์ AIA
สมัครด่วน หมดเขต 30 มิ.ย. 66 https://bit.ly/buconq2
ใครที่กำลังสนใจจัดการเรื่องเงินและเตรียมทำประกันสุขภาพอยู่ พี่ทุยแนะนำเลยว่าให้กำหนดวงเงินที่สามารถจ่ายได้ต่อปี จากนั้นแบ่งเป็นสองส่วนสำหรับทำประกันทั้ง 2 ตัว ทั้งประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายและประกันโรคร้ายแรง ทีนี้ก็จะได้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดสำหรับการทำประกันสุขภาพของเรานั่นเอง
หมายเหตุ :
รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่เอไอเอกำหนด ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก แก้ไขรายละเอียดหรือเงื่อนไขต่าง ๆ โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
อ่านเพิ่ม