สำหรับเรื่องของการวางแผนการเงิน ถ้าหากเรามีการวางแผนเพื่อรับมือกับเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดได้ ชีวิตและครอบครัวของเราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเรื่องของ “การปกป้องความเสี่ยง” ถึงมาเป็นเรื่องแรกๆของการวางแผนการเงิน โดยเรื่องของ “การปกป้องความเสี่ยง” หลักๆก็จะประกอบไปด้วย
1. ปกป้องความเสี่ยงในกรณีบาดเจ็บหรือป่วย
อันนี้น่าจะเป็นความเสี่ยงที่เรานึกออกอยู่แล้วว่า ถ้าป่วยจะไปโรงพยาบาล ค่ารักษาจะเอามาจากไหน ประกันสังคม ประกันสุขภาพหรือสวัสดิการของบริษัท ตรงพี่ทุยว่าน่าจะเข้าใจกันดี แต่หลายๆอาจจะรู้สึกว่าถ้าต้องทำประกันสุขภาพเอง รู้สึกเป็นภาระเพราะเป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง แล้วก็คิดว่าเราคงไม่โชคร้ายป่วยหรอก..
แต่ส่วนตัวพี่ทุยคิดว่าคงไม่มีใครซื้อประกันแล้วอยากป่วย อยากใช้จริงมั้ยล่ะ ? ไม่ป่วยนั่นแหละดีแล้ว แต่ถ้าเกิดป่วยจริงๆก็ให้เจ็บแค่ร่างกาย อยากเจ็บปวดมาถึงเงินในกระเป๋าเลยเน้าะ
2. ปกป้องความเสี่ยงในกรณีรายได้หยุดลง
ข้อนี้หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง จริงๆแล้วอันนี้เป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่ารายได้เราจะหยุดลงเมื่อไหร่ แต่เรารู้ว่ารายจ่ายเรามีเท่าไหร่บ้างในแต่เดือน นั่นแปลว่าถ้าเราไม่ “สำรองเงินฉุกเฉิน” ไว้เลย เกิดรายได้หยุดลงขึ้นมาแล้วรายจ่ายยังอยู่ เราก็จะมีโอกาสเป็นหนี้ ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะทางการเงินเลยล่ะ
ถ้าให้พี่ทุยแนะนำ ก็จะแนะนำให้มีเงินเก็บแบบ “เงินฝากออมทรัพย์” เลยสักประมาณ 6-12 เดือนของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เอาแบบถอนง่ายๆ ฉุกเฉินแล้วถอนได้เลย ทำแค่นี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้แล้ว ถ้าสมมติว่าต้องหางานใหม่เราก็ยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปแบบไม่ขัดสนได้อย่างสบายๆอีกอย่างน้อยก็ 6 เดือน เวลานั้นโดยทั่วไปก็น่าจะหางานใหม่หรือปรับตัวได้แล้ว
3. ปกป้องความเสี่ยงในกรณีเสียชีวิต
ความเสี่ยงสุดท้ายที่เราช่วยจัดการก่อนไปคุยกันเรื่องลงทุน ก็คือ ความเสี่ยงในกรณีที่เราเสียชีวิต โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวถ้าเกิดไม่อยู่สักคนครอบครัวเราจะอยู่อย่างไร เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรที่จะมี “ทุนประกัน” เตรียมเอาไว้ด้วย สินค้าการเงินที่ตอบโจทย์ตรงนี้ก็คงต้องใช้ “ประกันชีวิต” ช่วยเนี้ยแหละไม่มีอย่างอื่น
พี่ทุยว่าเรื่องของความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้อยู่แล้วล่ะว่ามี แต่บางครั้งมันมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเกินไปแล้ว ดังนั้นเรื่องการปกป้องความมั่งคั่งในเรื่องของการวางแผนการเงินเนี้ย ก็เป็นการที่เราดึงความเสี่ยงพวกนี้ออกมาดูกัน แล้วพยายามป้องกันให้ได้มากที่สุดนั้นแหละ