“หนี้สิน” ดูเหมือนจะเป็นเรื่องการเงินที่คนในยุคปัจจุบันมีปัญหามากที่สุด ส่วนตัวพี่ทุยก็ไม่ได้แอนตี้เรื่องการเป็นหนี้สิน เพราะจริงๆก็มีหนี้อยู่หลายตัวเหมือนกันที่เราสามารถเป็นได้ แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ก็คือเป็นหนี้สินที่ไม่ควรเป็นมากจนเกินไป
แล้ว “หนี้สิน” อะไรที่เราควรเป็นมากที่สุดล่ะ ?
ถ้าถามพี่ทุยแบบนี้พี่ทุยก็คงตอบว่าให้เป็น “หนี้ดี” และเราก็ห้ามเป็น “หนี้เลว” หรือถ้าเป็นก็เป็นให้น้อยที่สุด “หนี้ดี” ก็คือหนี้ที่สร้างรายได้ให้เรามากกว่ารายจ่ายดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดขึ้น ตัวอย่างง่ายๆที่เป็นที่นิยมมาก คือ การกู้ธนาคารไปซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้วนำมาปล่อยเช่า โดยหลักการก็คือค่าเช่าที่เราได้รับต้องมากกว่ารายจ่ายที่เราจ่ายให้กับธนาคารในแต่ละงวด หนี้ประเภทนี้เป็นได้เยอะเท่าที่เราต้องการ
แต่อย่าลืมบริหารความเสี่ยงด้วยนะ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ การบริหารความเสี่ยงหลักก็คือการลดโอกาสที่จะทำให้รายได้จากหนี้สินก้อนนั้นลดน้อยลงไปมากกว่าดอกเบี้ยหรือรายจ่าย
ส่วน “หนี้เลว” ก็เป็นอะไรที่ตรงกันข้ามเลยเพราะจะก่อให้เกิดรายจ่าย หนี้ประเภทนี้ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยง แต่ถ้า “จำเป็นจริงๆ” ก็พิจารณาให้ดีและเป็นให้น้อยที่สุด
แล้วนอกจาก “หนี้ดี” ที่เราสามารถเป็นได้เยอะแล้ว จริงๆยังมีหนี้อีกประเภทที่เราสามารถเป็นได้ก็คือ “หนี้สินที่ปลอดดอกเบี้ย” มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า พี่ทุยมีด้วยเหรอ ? มีที่ไหนคนให้ยืมเงินแล้วไม่คิดดอกเบี้ยเรา พี่ทุยบอกได้เลยว่ามันก็คือ “บัตรเครดิต” ยังไงล่ะ !!
บัตรเครดิตอย่างที่เรารู้กันว่ามันจะมีช่วงปลอดดอกเบี้ยอยู่แล้ว แต่บัตรบางบัตรก็ 30 วัน บางบัตรก็ 45 วัน ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยตรงนี้เนี้ยแหละที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้ เวลาที่เรารูดบัตรเครดิตก็ให้เราเอาเงินสดจำนวนเท่ากันไปฝากบัญชีธนาคารแยกไว้ เอาพวกบัญชีธนาคารที่โปรโมชั่นดอกเบี้ย 1.5 – 2% ก็พอหาได้เหมือนกัน แล้วพอถึงรอบจ่ายบัตรก็ให้ถอนออกมาจ่าย นอกจากที่เราจะได้ดอกเบี้ยถึงแม้เล็กน้อย เราก็ยังได้แต้มสะสมหรือเงินคืนจากการใช้บัตรเครดิตด้วย พี่ทุยว่าก็ดีนะได้ประโยชน์สองเด้ง
แต่ก็อย่างที่เรารู้ว่าดอกเบี้ยปรับของบัตรเครดิตมหาโหดเหมือนกัน ถึงแม้จะมีการควบคุมจากทางธนาคารแห่งประเทศไทยให้ลดจาก 20% เหลือ 18% แล้วก็ตาม ก็ยังถือว่าเยอะอยู่ดี หนี้บัตรเครดิตถ้าเราไม่มั่นใจว่าเรามีวินัยในการใช้เงินที่มากพอ พี่ทุยก็แนะนำว่าไม่ควรเป็นเหมือนกัน เพราะถ้าเราเกิดใช้เงินเพลินไม่มีเงินมาจ่ายค่าบัตร สุดท้ายเรามาโดนค่าปรับพี่ทุยว่าไม่คุ้มกันเลยจริงๆ
การเป็นหนี้สินไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การเป็นหนี้สินผิดประเภทต่างหากที่ไม่ควรเกิดขึ้น และหนี้สินที่ก่อให้เกิดปัญหามากที่สุด ก็คือ หนี้สินเสียหรือว่าหนี้การบริโภคต่างๆที่เราบริโภคเกินตัว จนไม่สามารถนำเงินมาชำระคืนได้นั่นเอง