ทำไมเราถึงไม่ควรสนใจแค่ "ลดหย่อนภาษี" ?

ทำไมเราถึงไม่ควรสนใจแค่ “ลดหย่อนภาษี” ?

 

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

พอเห็นชื่อหัวข้อแล้วพี่ทุยเชื่อว่าหลายๆคนต้องคิดว่าพี่ทุยเมาอะไรมาแน่ๆ อยู่ๆก็มาบอกว่าไม่ควรสนใจเรื่องลดหย่อนภาษีทั้งๆที่การลดหย่อนภาษีทำให้เราได้เงินเหลือเยอะขึ้นแท้ๆอยู่แล้ว

พี่ทุยจะบอกว่าถ้าเรามองในมุมที่ว่าเราเหลือเงินเก็บเงินเยอะขึ้น แน่นอนว่าการ “ลดหย่อนภาษี” ทำให้เราได้เงินภาษีคืนจริง แถมได้ทันทีด้วย ยิ่งถ้ามีพร้อมเพย์ก็จะได้คืนไวปานสายฟ้าแล่บเลย ปีที่แล้วพี่ทุยสมัครไปปกติต้องรอ 2-3 เดือน น้ำตาจิไหล แต่เหตุผลที่พี่ทุยบอกว่าเราไม่ควรสนใจเรื่องการลดหย่อนภาษีก็เพราะว่า.. บางครั้งการลดหย่อนภาษีทำให้ เราซื้อสินค้าการเงินที่ไม่เหมาะสมกับตัวเรา เพราะเรามัวแต่โฟกัสกับการลดหย่อนภาษีมากจนเกินไป ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจแก่นแท้ของสินค้าการเงินแต่ละตัวก่อนว่าถูกออกแบบมาเพื่ออะไรบ้าง ?

สินค้าการเงินแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่ออะไร ?

1. ประกันชีวิต เพื่อรับประกันอะไรบางอย่างให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสร้างความคุ้มครองให้กับคนในครอบครัวหรือการประกันว่าในอนาคตเราจะมีเงินใช้ก้อนนึง

2. Long Term Equity Fund (LTF) เพื่อให้นักลงทุนหรือคนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนศึกษาเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

3. Retirement Mutual Fund (RMF) เพื่อเป็นหลักประกันให้กับตัวเราเอง มั่นใจได้ว่าเมื่อเวลาที่เราเกษียณอายุ เราจะมีเงินอีกก้อนนึงให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้

จะเห็นได้ว่าสินค้าการเงินที่เอาไว้ลดหย่อนภาษีไม่ว่าจะเป็นประกัน LTF หรือ RMF ล้วนช่วยแก้ปัญหาได้เพียง 3 เรื่องหลักเท่านั้น แต่ปัญหาเรื่องการเงินในชีวิตจริงแล้วก็มีปัญหาที่มากกว่า 3 ปัญหาที่สินค้าการเงินสำหรับลดหย่อนภาษีแก้ได้แน่ๆ

เช่นเรื่อง “สภาพคล่อง” เงินส่วนที่เอาไว้ “เผื่อสำรองฉุกเฉิน” โดยทั่วไปแล้วเราควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายไว้เสมอ เผื่อเอาไว้ในกรณีที่รายได้ของเราหยุดชะงัก หรือตกงาน ดังนั้นธรรมชาติของเงินก้อนนี้ คือต้องการ “สภาพคล่องที่สูง” เพื่อที่จะได้เบิกง่ายถอนง่าย แหล่งที่น่าจะเหมาะสมที่สุดก็คงหนีไม่พ้น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือไม่ก็กองทุนรวมตลาดเงินที่ใช้เวลาถอน 1 วัน เป็นต้น

แต่หลายครั้งที่พี่ทุยเจอก็คือ หลายๆคนมองว่าเงินมันไม่โต ดูแล้วไม่น่าได้ใช้ ก็เลยเอาไปซื้อพวกสินค้าการเงินที่ลดหย่อนภาษีได้ พี่ทุยจะบอกว่าถ้าไม่มีอะไรแจ๊คพ็อตมาลงที่เราก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา เราเดือดร้อนต้องการใช้เงินทันทีขึ้นมา แล้วถ้าเราต้องไปถอนออกมาจากประกันชีวิต LTF RMF ก็ตาม พี่ทุยบอกได้เลยว่าสยองแน่นอน !

เพราะว่า “ต้นทุน” หรือว่า “ค่าปรับ” ที่เอาเงินออกมาจะสูงมาก พี่ทุยบอกได้เลยว่าไม่คุ้มเลย อย่างประกันชีวิตก็รู้กันว่าถ้าเราผิดเงื่อนไข เงินที่เราได้คืนจะน้อยมากๆเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป แล้วพวก LTF RMF ตอนขายถ้าเรามีกำไรก็ต้องเอาไปเสียภาษี แถมทั้ง 3 ตัว เราจำเป็นจะต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับมาพร้อมค่าปรับด้วย พี่ทุยว่ามีแต่ขาดทุนเห็นๆเลย !

ดังนั้นก่อนจะใช้เครื่องมือลดหย่อนภาษี เราควรตรวจดู “เป้าหมายการเงิน” เราทุกครั้งด้วยว่าเหมาะสมกับเป้าหมายการเงินของเราหรือไม่ก่อนเสมอ ป้องกันไม่ให้เราผิดเงื่อนไขเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเราเองเนอะ

แต่ถ้าถามต่อว่าจะไปซื้อสินค้าพวกนี้ที่ไหนดี เอาแบบไปที่เดียวครบเลยขี้เกียจเดินหลายที่ แล้วเอาบัตรเครดิตรูดเอาแต้มได้ด้วย พี่ทุยว่าตอนนี้ก็คงต้องไปที่ “ธนาคารกรุงไทย” แล้วล่ะ เพราะมีให้เราเลือกซื้อทั้ง 3 อย่างเลยทีเดียว

ช่วงนี้พี่ทุยเห็นที่ธนาคารกรุงไทยมี KTB Investment Festival” ถ้าเราซื้อประกันชีวิตกรุงไทยแอกซ่าที่ธนาคารกรุงไทย ตอนนี้มีรับ KTB E-Money Card สูงสุด 60,000 บาทด้วย แถมได้คะแนนสะสม KTC FOREVER REWARDS เพิ่มสูงสุด 1.5 เท่า เมื่อจ่ายเบี้ยผ่านบัตรเครดิต KTC ด้วย

หรือถ้าใครสนใจซื้อ LTF RMF ก็เริ่มต้นลงทุนที่ 500 บาทได้ แล้วก็มี LTF RMF ให้เลือกหลายสิบกองทุนตามความชอบของเราได้เลย แถมยังมี Morningstar Rating เป็นตัวช่วยในการลงทุนให้กับเราด้วย ยิ่งดาวสูงก็แปลว่าผลการดำเนินงานในอดีตทำได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้ก็ยังสามารถเอาคะแนนสะสม KTC FOREVER REWARDS ทุก 1,000 คะแนน แทนเงินลงทุนใน LTF RMF ได้ 100 บาทด้วย โอกาสดีๆแบบนี้ พี่ทุยว่าไม่ต้องรอแล้ว จัดไปเล้ยยยย !

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
บทความนี้เป็นบทความ Advertorial