3 ความเข้าใจผิดของ "ประกันชีวิต"

3 ความเข้าใจผิดของ “ประกันชีวิต”

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • “ประกันชีวิต” เป็นสินค้าที่มีคนเข้าใจผิดมากที่สุดตัวนึง ทั้ง ๆ ที่ประกันชีวิตเป็นสินค้าการเงินตัวนึงที่ดีมากและทุกคนควรจะมีประกันชีวิตอย่างน้อยคนละ 1 ฉบับ
  • “ประกันชีวิต” มีประโยชน์ตามหลักการวางแผนการเงินมากๆ เพราะการวางแผนการเงินจะเน้นไปที่การบริหารความเสี่ยงซึ่งประกันชีวิตถูกออกแบบมาเพื่อเรื่องการบริหารความเสี่ยงอยู่แล้วตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

พี่ทุยว่า “ประกันชีวิต” เป็นสินค้าการเงินตัวนึงที่ดีมากๆ อย่างแรกเพราะว่า เป็นสินค้าทางการเงินตัวหนึ่งที่เข้าใจง่าย ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนชัดเจน ที่สำคัญเป้นสินค้าการเงินตัวเดียวที่มีทุนประกัน ถ้าไม่นับรวมประกันชีวิตแบบใหม่ๆที่ออกมา เช่น ยูนิเวอแซลหรือยูนิตลิ้งค์

อย่างที่สอง ก็คือ มีประโยชน์ตามหลักการวางแผนการเงินมากๆ เพราะการวางแผนการเงินจะเน้นไปที่การบริหารความเสี่ยงซึ่งประกันชีวิตถูกออกแบบมาเพื่อเรื่องการบริหารความเสี่ยงอยู่แล้วตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุผลสองข้อ ทำให้ประกันชีวิตถือว่าเป็นสินค้าการเงินตัวแรกๆเลยล่ะที่เราควรจะมี แต่พี่ทุยเชื่อว่าหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบเราๆ หรือคนขายก็ตาม ยังมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับประกันชีวิตกันอยู่เพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น..

1. “ประกันชีวิต” เป็นสุดยอดสินค้าการเงิน

โลกนี้ไม่มีสินค้าการเงินตัวไหนที่ดีที่สุด แต่พี่ทุยจะย้ำเสมอว่ามีแต่ “เหมาะสมที่สุด” ถ้าพูดถึงเรื่องความเสี่ยง ประกันชีวิตดีกว่าสินค้าการเงินอื่นๆแน่นอน แต่ถ้าเป็นเรื่อง “ผลตอบแทน” หรือ “สภาพคล่อง” ประกันชีวิตไม่มีทางสู้สินค้าการเงินอื่นๆได้เลย เพราะว่าพอร์ตลงทุนของบริษัทประกันชีวิตมีผลตอบแทนแถวๆ 3-4% ต่อปี แปลว่าผลตอบแทนในกรมธรรม์ของเราไม่มีทางที่จะสูงกว่านั้นได้

แล้วเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปก่อนนำไปลงทุนจะต้องหัก ค่าคอมมิชชั่นฝ่ายขาย ค่าการตลาด ค่าดำเนินการต่างๆ ฯลฯ ออกก่อนนำไปลงทุน ทำให้กรมธรรม์ประกันชีวิตที่ขายกันอยู่ตอนนี้ไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงมากกว่า 4% ได้เลยเนื่องจากสภาวะ “ดอกเบี้ยต่ำ” ทั่วโลก

2. ทำประกันชีวิตแล้วกลัวใช้ไม่คุ้ม

“กลัวไม่คุ้ม” ซึ่งพี่ทุยว่าแปลกมากๆเลยนะ ลองนึกถึงเวลาที่ซื้อ “ประกันภัยรถยนต์” กันดูสิ เราก็คงไม่ได้อยากจะให้เราชน เพราะกลัวจะไม่คุ้ม แต่ที่เราทำก็เพราะเรากลัวว่าถ้าเกิดเหตุขึ้นมา เราต้องทำอย่างไรมากกว่า  เรื่องของประกันชีวิตก็เช่นกันเราไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เราจึงต้องมีสินค้าการเงินที่ช่วยบริหารความเสี่ยงนั่นเอง ถ้าอยากคุ้มคงต้องทำประกันชีวิตแล้วจากไปให้เร็วที่สุดนั้นแหละ

3. อยากลดหย่อนภาษี ซื้อประกันชีวิตสิ !

เรื่องลดหย่อนภาษีหรือ “ผลประโยชน์ด้านภาษี” นั้นเป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น แต่ประโยชน์ของประกันชีวิต ก็คือเรื่องของ “หลักประกัน” หรือว่าเรื่องของทุนประกันให้กับครอบครัวหรือคนที่เรารักนั่นเอง ถ้าตัวเราจะต้องจากไปก่อนวัยอันควร ภาระต่างๆก็จะตกไปอยู่กับคนหลังข้างหรือครอบครัวเราแทน

พี่ทุยยืนยันอีกครั้งว่า “ประกันชีวิต” จริงๆแล้วเป็นสินค้าทางการเงินตัวหนึ่งที่โคตรดีเลย แต่เราต้องเข้าใจว่าประกันถูกออกแบบมาเพื่ออะไร ? เราก็จะได้ใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่ และใช้งานมันได้อย่างถูกต้องยังไงล่ะ ! ถ้าใครจะยังๆว่าจะซื้อประกันชีวิตพี่ทุยแนะนำไปอ่านบทความ 3 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อประกันชีวิต

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile