แนวโน้มลงทุน สินค้าหรู หุ้น luxury brand ปี 2023 เป็นยังไง ?

4 min read  

ฉบับย่อ

  • จีนเปิดเมืองแล้ว หนึ่งในกลุ่มที่คาดว่าจะรับอานิสงส์เต็ม ๆ คือสินค้าหรู จากกำลังซื้อที่อั้นมานาน บวกกับคนรุ่นใหม่เริ่มซื้อสินค้าหรูกันในช่วงอายุที่เร็วขึ้น ทำให้ธุรกิจนี้เป็นกลุ่มที่น่าลงทุนในปี 2023
  • นักลงทุนกลุ่มที่ร่ำรวยมาก ๆ จะมอง ของสะสมเป็นสินทรัพย์ทางเลือกส่วนหนึ่งที่มีในพอร์ตลงทุนเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตโดยรวมได้
  • ไวน์และนาฬิกา เป็นสินค้าหรูที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2021 ที่ 16% ส่วนกระเป๋าหรูให้ผลตอบแทน 7% แต่ถ้าดูผลตอบแทนที่ดีที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี จะเป็นวิสกี้ หายาก ตามด้วยรถยนต์​
  • วิธีการลงทุนสินค้าหรู ได้แก่ ลงทุนสินค้าหรูเลยโดยตรง ลงทุนในหุ้นสินค้าหรู และลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรู

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

หลังจากจีนประกาศเปิดประเทศให้เดินทางข้ามประเทศกันแบบไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่ 8 ม.ค.​ 2023 ธุรกิจหนึ่งที่ยิ้มกริ่มอยู่ในใจ ก็น่าจะเป็นสินค้าแบรนด์หรู หุ้น luxury brand เพราะว่าจีนเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก และเป็นตลาดสินค้าหรูที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

ซึ่งที่ผ่านมาความต้องการซื้อก็ถูกเก็บกดไว้มานาน จากการที่คนจีนไม่ได้ออกไปเที่ยวนอกประเทศ เมื่อทางการไฟเขียว หลายฝ่ายจึงคาดการณ์ว่า ความต้องการซื้อที่ถูกเก็บกดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ 

ถ้านึกไม่ออกว่า ตลาดจีนมีอิทธิพลกับตลาดสินค้าหรูขนาดไหน พี่ทุย ขอยกตัวอย่างช่วงคริสมาสต์​ปี 2022 ​หลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศปุ๊บ​ ในวันที่ 27 ธ.ค.​2022 หุ้นของ LVMH +2.7% ขณะที่หุ้น  Richemont +4% ทันที เรียกว่า ไม่ทันถึงวันเริ่มเปิดประเทศเป็นทางการ แค่ข่าวมา ความคาดหวังต่อผลประกอบการของสินค้าหรูก็ไปก่อนแล้ว

วันนี้ พี่ทุยก็เลยอยากชวนทุกคนมาวิเคราะห์ว่า กลุ่มสินค้าหรูเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนรึเปล่า และถ้าคิดจะลงทุน มีช่องทางใดบ้าง 

จีนเปิดเมืองและกำลังซื้อคนรุ่นใหม่หนุนยอดขายสินค้าหรูโต หุ้น luxury brand พุ่ง

Bloomberg มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2023 ยอดขายและผลการดำเนินงานของกลุ่มสินค้าหรูมีโอกาสเติบโตด้วยเลขสองหลัก (เกินกว่า 10%) โดยแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่น่าจะได้รับอานิสงส์ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการที่จีนเปิดเมือง ได้แก่ Louis Vuitton, Hermes, Chanel, Gucci, Dior, Cartier และ Rolex เป็นต้น​

ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบใหม่ มีการทำตลาดโดยตรง และการเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ  เช่น บริษัทรถหรูที่อัปราคารถได้ จากดีไซน์ นวัตกรรม และความร่วมมือใหม่ ๆ หรือกระเป๋าแบรนด์เนมหรูที่นำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นที่มีจำนวนจำกัด (Limited Edition)

ถ้าไม่ได้มองแค่ปัจจัยเรื่องจีนเปิดเมืองอย่างเดียว พี่ทุยพบว่า พลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สินค้าหรูเติบโต มาจาก กลุ่ม Gen Z (เกิดปี 1997-2012) ที่ให้ความสนใจซื้อสินค้าหรู เร็วขึ้น ตั้งแต่อายุ 15 ปี ขณะที่กลุ่ม Millennials​ (เกิดปี 1981-1996) เริ่มซื้อตั้งแต่อายุ 18-20 ปี ส่วน Gen Alpha (เกิดช่วงต้นคริศศตวรรษ 2010s – กลางศตวรรษ 2020s)  ก็น่าจะเริ่มซื้อสินค้าหรูเร็วไม่ต่างจาก Gen Z

สินค้าหรูนั้น ไม่เพียงแต่มีความต้องการซื้อสินค้าใหม่แกะกล่องเท่านั้นที่เติบโตดี แต่ตลาดสินค้ามือสองก็คาดว่าจะเฟื่องฟูเช่นกัน ถึงขนาดที่บางแบรนด์ เช่น Rolex หันมาเจาะตลาดนี้ ด้วยการเสนอขายสินค้ามือสองของแบรนด์ตัวเองที่ได้รับใบรับประกัน โดย Bain & Company คาดว่า ตลาดสินค้าหรูส่วนบุคคล จะเติบโต 3-8% ในปี 2023 และในปี 2030 ตลาดจะโตถึง​60% จากปี 2022

ขณะที่​เมื่อเดือน ก.ย.​2022 Bloomberg Intelligence ประเมินไว้ว่า ราคาต่อกำไรต่อหุ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า หรือ Forward P/E ของกลุ่มสินค้าหรู คาดว่าจะเพิ่มเป็น 22.5 เท่า จากเดือน ก.ย. อยู่ที่ 20 เท่า  

จีนเปิดเมืองและกำลังซื้อคนรุ่นใหม่หนุนยอดขายสินค้าหรูโต หุ้น luxury brand พุ่ง

จุดเด่นของกลุ่มแบรนด์หรูหรือ หุ้น Luxury Brand

การก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสินค้าที่ทุกคนอยากได้ ส่งให้รายได้และกำไรของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ก้าวผ่านช่วงเวลาสุดยากลำบากได้เสมอ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการสร้างภาพลักษณ์และตำแหน่งของแบรนด์อย่างเข้มงวด ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ใช้การบริหารแบบ In-house

การบริหารแบบ In-house ช่วยให้ควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพได้ดี แต่อาจทำให้ขยายกำลังการผลิตได้ยาก แต่คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับแบรนด์เหล่านี้เพราะยิ่งสินค้ามีปริมาณจำกัดก็ยิ่งหนุนภาพลักษณ์แบรนด์ให้แกร่งขึ้น

การตลาดที่เน้นการสร้างภาพลักษณ์ผ่านเซเลป ทำให้สินค้าหรูหราประเภทกระเป๋า เสื้อผ้า และเครื่องประดับ กลายเป็นสินค้าหรูหราอันดับหนึ่งในมุมมองประชากร Gen Y และ Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังซื้อหลักของโลกแทนที่ Gen X และ Baby Boomer ดังนั้นจะเรียกว่าเป็นกลุ่มที่เกาะกระแส Megatrend ก็ได้ เพราะกระแสนี้ยังอยู่ไปอีกนานจนกว่า Gen Y และ Gen Z จะแก่ตัว หรือมีอะไรมาแทนที่ความนิยมในสินค้าเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีอะไรแทนที่ได้เลย

สินค้าหรูกับสถานะของสะสมที่ใช้กระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุนของคนรวย

คราวนี้พี่ทุยจะชวนมาดูกันว่า ในเมื่อสินค้าหรูมีแนวโน้มเติบโตได้ดี แล้วสินค้าหรูอะไรบ้าง ที่ได้รับความสนใจเก็บสะสมเพื่อลงทุน 

จากรายงานของ Credit Suisse ระบุว่า สินค้าหรู​นั้น เป็นกลุ่มของสะสมที่สร้างความพึงพอใจและความสุขให้เจ้าของ ทำให้บางคนมองว่า สินค้าหรูเป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับการลงทุน จึงซื้อเก็บเอาไว้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ต่างจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์เก็บสะสมไว้ 

สอดคล้องกับข้อมูลของ Knight Frank ที่ทำการสำรวจเอาไว้เมื่อปี  2020 พบว่า ถ้าไปดูกลยุทธ์การจัดพอร์ตของนักลงทุนกลุ่มที่ร่ำรวยมาก ๆ หรือที่เรียกว่า ultra-high net worth จะพบว่า นอกจากมีหุ้นทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาด ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ เงินสด ทองคำหรือโลหะมีค่าในพอร์ต พวกเขาก็ยังมีของสะสมถึง 5% ในพอร์ตด้วย ซึ่งสินค้าหรู ก็จัดอยู่ในสินทรัพย์กลุ่มนี้ 

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ถ้าระยะยาว สินค้าหรูหลายรายการจัดอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ เช่น เครื่องประดับ นาฬิกา และกระเป๋าหรู โดยกลุ่มนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2-7% ต่อปี

ส่วนสินค้าหรูอีกอย่าง ที่เติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ รถยนต์โบราณ ที่มีการนำมาประมูลกัน โดยพบว่า ตลาดนี้แข็งแกร่งมาก ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์รุ่นตำนานที่คนต้องการครอบครองมาก เช่น รถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น 300SL Gullwing รถยนต์ Ferrari รุ่น 288, F40, F50, Enzo และ La Ferrari​ รถยนต์ Lamborghini Maura และรถยนต์ Porsche รุ่น Carrera GT และ 959

จากข้อมูลการประมูลรถยนต์โบราณของ Adolfo Orsi พบว่า ราคา Mercedes-Benz 300SL Gullwing เมื่อเดือน มี.ค. 2022 อยู่ที่ 1.888​ ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2021 อยู่ที่ 1.5​ล้านดอลลาร์ ส่วน Ferrari F40 ราคาในเดือน มี.ค. 2022 คือ 2.506 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจาก 2.051 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021

สินค้าหรูกับสถานะของสะสมที่ใช้กระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุนของคนรวย

สรุปข้อดีของการมีสินค้าหรูในพอร์ตลงทุน

  • กระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุน 
  • สู้เงินเฟ้อและภาวะตลาดผันผวนได้  
  • ทำให้พอร์ตอ่อนไหวต่อสถานการณ์ตลาดระยะสั้นน้อยลง

ผลตอบแทนการลงทุนในสินค้าหรู ปี 2021

ถ้าดูสถิติล่าสุดที่ Knight Frank จัดทำไว้เมื่อปี 2022 เกี่ยวกับผลตอบแทนของการลงทุนในสินค้าหรู พบความน่าสนใจ ดังนี้ 

ผลตอบแทนการลงทุนในสินค้าหรู ปี 2021

ไวน์และนาฬิกาหรูให้ผลตอบแทนดีสุดในปี 2021

ถ้าดูข้อมูลนี้ ก็จะพบว่า ไวน์กับนาฬิกาเป็นสินค้าหรูที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2021 ขณะที่กระเป๋าหรูให้ผลตอบแทน +7% ซึ่งก็ถือเป็นตัวเลขที่ไม่ขี้เหร่เลย แถมดีกว่าเครื่องประดับ หรือเพชรด้วยซ้ำ และเมื่อดูผลตอบแทนแบบย้อนหลังไป 10 ปี จะพบว่า วิสกี้หายาก ให้ผลตอบแทนดีที่สุด ตามด้วยรถยนต์ 

พี่ทุยเห็นตัวเลขแล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนที่มีเงินเยอะ ถึงซื้อสินค้าหรูไว้ในครอบครอง เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องหมายบ่งบอกฐานะแล้ว ก็ยังมีมูลค่าเพิ่มในอนาคตอีกด้วย 

กำลังซื้อจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง หนุน หุ้น Luxury Brand

ทำไม หุ้น Luxury Brand จึงน่าสนใจ - เติบโตแค่ไหน จะสู้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยได้หรือเปล่า

ความนิยมในกลุ่มคนทำงานและวัยรุ่น Gen Y และ Gen Z ส่งให้ทศวรรษที่ผ่านมารายได้ของกลุ่ม Luxury Brand เติบโตทุกปี แม้จะลดลงบ้างในปีที่เกิดวิกฤติแต่ก็กลับมาเติบโตทันทีในปีต่อมา เรียกได้ว่ารักษาการเติบโตได้แม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี โดยปี 2019 มูลค่าการซื้อขายสินค้าอยู่ที่ 281,000 ล้านยูโร ส่วนปี 2020 ร่วงมาที่ 220,000 ล้านยูโร จากนั้นปี 2021 ฟื้นมาที่ 283,000 ล้านยูโร

“การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง” เป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้น ประกอบไปด้วย 2 ปัจจัยสำคัญ คือ E-Commerce และการบริโภคจากประชากรจีน(และสหรัฐฯ) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

  • E-Commerce

ผลสำรวจจาก THEINDUSTRY.FASHION เผยว่า 78% ของนักชอปสินค้า Luxury ยังมองว่าการสัมผัสและเห็นสินค้าจำเป็นต่อประสบการณ์ซื้อสินค้า Luxury ส่วน Gen Y เป็นกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับโอกาสทดลองสินค้าก่อนซื้อ แม้จะดูเหมือนว่าช่องทางออนไลน์ยังไม่ได้เป็นช่องทางหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่องทางออนไลน์จะไม่มีส่วนส่งเสริมรายได้หรือก้าวขึ้นมามีบทบาทได้เช่นกัน

Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติอเมริกันเผยว่าปริมาณการซื้อสินค้า Luxury ผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างปี 2019 ถึง 2020 เพิ่มขึ้นถึง 50% และปี 2020 ถึง 2021 เพิ่มขึ้นอีก 27% ทำให้มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 62,000 ล้านยูโร คิดเป็น 21.9% ของการซื้อขายสินค้า Luxury ทั้งหมด โดยเว็บไซต์ของแบรนด์โดยตรงมีส่วนแบ่ง 40% ของการซื้อขายออนไลน์ เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ที่ 30% ตัวเลขการเติบโตนี้ชี้ชัดว่าช่องทางออนไลน์ช่วยพยุงยอดขายในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด

ด้านสื่อ Social media เป็นอีกช่องทางที่บริษัทแบรนด์หรูใช้ทำการตลาด มีผลสำรวจจาก THEINDUSTRY.FASHION ชี้ว่า Instagram คือ Social Media ที่มีอิทธิพลชี้นำการซื้อสินค้า Luxury ของกลุ่มเป้าหมายแบรนด์หรูอย่าง Gen Y ถึง 58% และ Gen Z ที่ 53% ขณะที่ Facebook อาจไม่ใช่เป้าหมายหลักเพราะมีอิทธิพลต่อกลุ่ม Gen X 73% และ Baby Boomer ที่ 86% ซึ่งไม่น่าเป็นเป้าหมายหลัก

  • การบริโภคจากประชากรจีน (และสหรัฐฯ) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

สัดส่วนการบริโภคสินค้า Luxury จากประเทศจีนเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2019 มาอยู่ที่ 21% ของทั่วโลก เนื่องด้วยชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศไม่สะดวก เมื่อดูการแบ่งสัดส่วนจากสัญชาติของผู้บริโภคแล้วก็พบว่าสัดส่วนประชากรจีนอยู่ที่ราว 21-23% นับว่าเทียบเท่ากับประชากรทั้งทวีปยุโรป

ซึ่งก็เป็นเพราะกำลังซื้อจาก Gen Y และ Gen Z ที่รับมรดกความมั่งคั่งจากคนรุ่นก่อนแถมยังมีภาระค่าใช้จ่ายเริ่มต้นน้อยกว่าสวนทางคนรุ่นก่อนที่มักเริ่มชีวิตวัยทำงานด้วยการซื้อที่พักอาศัย มีคาดการณ์ว่าประเทศจีนจะเป็นตลาดอันดับ 1 ของโลกภายในปี 2025

ด้านสัดส่วนการบริโภคจากประเทศสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 30% เมื่อปี 2019 มาที่ 31% ในปี 2021 ซึ่งดูเหมือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้บริโภคสัญชาติอเมริกันที่ปี 2019 มีสัดส่วน 22% กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนปี 2021 ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ที่ 30-32% ส่วนหนึ่งก็เพราะมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐที่ทำให้ประชาชนมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น ผลเลยปรากฎผ่านกำลังซื้ออันมหาศาลเช่นนี้

ตลาด Resale และการปล่อยเช่าหนุนยอดขายสินค้าใหม่

ตลาด Resale และการปล่อยเช่าเป็นอีกเทรนด์ใหม่มาแรงช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ความต้องการที่มากจนสินค้าขาดแคลนโดยเฉพาะกระเป๋าและนาฬิกา ราคาสินค้า Resale ก็เพิ่มขึ้นทำให้สินค้าแบรนด์หรูเหล่านี้กลายเป็นการลงทุนขึ้นมาทันที เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้คนก็กล้าที่จะจ่ายเพราะรู้ว่ายังไงก็ตามถ้าขายต่อก็ได้กำไร หรือจะหันไปปล่อยเช่าหารายได้เพิ่มก็ยังได้

ผลสำรวจชี้ว่า 18% ของผู้ซื้อพิจารณาราคา Resale ก็ซื้อสินค้า Luxury Brand ส่วนผู้บริโภค Gen Z ให้ความสำคัญถึง 23% ส่วนหนึ่งก็เพราะ Gen Z ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น

พี่ทุยเชื่อว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไปนักลงทุนก็จะเข้าลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งพร้อมผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งบริษัทกลุ่ม Luxury Brand ตอบโจทย์เหล่านั้นด้วยปัจจัยที่พี่ทุยเล่าให้ฟัง

How to ลงทุนสินค้าหรู

มาถึงตรงนี้ พี่ทุยเชื่อว่า หลายคนก็คงมีรสนิยมชอบใช้สินค้าหรูอยู่แล้ว หรือหลายคนเห็นข้อมูลผลตอบแทนจากการลงทุนแล้วก็อาจจะสนใจอยากลงทุนสินค้าหรู มาดูกันว่า ลงทุนกันทางไหนได้บ้าง

1. ซื้อสินค้าหรูเก็บสะสม

รูปแบบแรก คือ ซื้อสินค้าหรูมาเก็บสะสมเองเลย แล้วรอเวลาผ่านไป เมื่อมูลค่าเพิ่มจนถึงจุดที่พึงพอใจก็ขายทำกำไร

แต่หากเลือกวิธีนี้ ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีระดับหนึ่งเลยว่า สินค้าหรูที่เราสนใจ เช่น กระเป๋า นาฬิกา หรือเครื่องประดับ กลุ่มไหนมีโอกาสที่จะเติบโตในอนาคต เพราะไม่ใช่สินค้าทุกแบบที่จะได้รับความนิยม แต่จะมีเพียงบางรุ่น บางแบบเท่านั้นที่ไปต่อระยะยาว 

นอกจากนี้ยังมีความท้าทาย อีก 4 ประเด็น คือ 

  • ใช้เงินลงทุนสูง ตามราคาของสินค้า
  • มีความเสี่ยงเจอของปลอม กรณีซื้อจากบุคคล ไม่ได้ซื้อตรงจากแบรนด์สินค้า​
  • ต้องเก็บรักษาอย่างเหมาะสม เพราะสินค้าหรูหลายรายการจำเป็นต้องได้รับการเก็บรักษาอย่างเหมาะสม จึงจะรักษาสภาพให้ดีเหมือนของใหม่ก่อนนำไปจำหน่ายต่อเพื่อรับผลตอบแทน
  • สภาพคล่องต่ำ เพราะผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนก็ต่อเมื่อขายสินค้าออกไปได้ ดังนั้นก็จะไม่มีกระแสเงินสดเข้ามาระหว่างที่ยังเก็บสะสมสินค้าหรูไว้อยู่ 

2. ลงทุนหุ้นสินค้าหรู

วิธีการนี้ เหมาะกับสายเล่นหุ้น ที่ลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว รับมือความผันผวนของตลาดหุ้นได้ โดยการลงทุนในหุ้นสินค้าหรู ส่วนใหญ่ ก็จะเป็นหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เช่น ยุโรป สหรัฐฯ ดังนั้น ผู้ลงทุนก็จะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ 

3. ลงทุนกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนเกี่ยวกับสินค้าหรู

วิธีการนี้น่าจะถูกใจนักลงทุนรายย่อยที่สุด เพราะสามารถใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูงมากได้ โดยกองทุนรวมที่มีนโยบายเกี่ยวกับสินค้าหรู มี 2 ประเภท คือ

1. กองทุนรวมดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าหรู ซึ่งเป็นการลงทุนเชิงรับ ที่คาดหวังผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าหรู 

2. กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนว่าจะไปลงทุนในบริษัทสินค้าหรู ซึ่งอาจจะเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนเฉพาะสินค้าหรูอย่างเดียวเลย หรืออาจจะเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนที่เกี่ยวข้อง เช่น ลงทุนตามแนวโน้มการบริโภคของคนรุ่นใหม่ ลงทุนรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เพราะสินค้าหรูเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่สอดคล้องกับนโยบายเหล่านี้ 

เอาเป็นว่า ใครสนใจวิธีการลงทุนสินค้าหรูแบบไหน ก็ลองไปศึกษาดูได้ แต่ยังไงก็พิจารณาเงินในกระเป๋าด้วยว่าเหมาะสมกับวิธีที่คัดเลือกหรือไม่ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าหรูโดยตรง เพราะถ้าเราต้องไปกู้ยืมเงินมาลงทุน ก็คงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก เราควรจะมีกำลังซื้อที่สอดคล้องกับราคาสินค้าหรูจริงๆ จึงจะซื้อมา 

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย