"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

5 เหตุผลที่ใคร ๆ ก็อยากไป “ลงทุนที่เวียดนาม”

3 min read    Money Buffalo

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

ช่วงนี้ถ้าใครได้ติดตามสถานการณ์การลงทุนของปี 2021 ว่ามีอะไรน่าลงทุนบ้าง พี่ทุยเชื่อว่า น่าจะได้ยินกระแสหุ้นเทคโนโลยีที่เป็นสุดยอดโลกอนาคตแน่นอน หรือแม้กระทั่งหุ้นจีนที่น่าจะเป็นมหาอำนาจใหม่ของโลกเรา และอีกประเทศนึงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ “ลงทุนที่เวียดนาม”

ในปี 2020 ที่ผ่านมา เวียดนามมีเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment – FDI) สูงมากกว่า 28,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เม็ดเงินลงทุนนี้มาจากทั้ง สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน รวมถึงนักลงทุนประเทศไทยเองก็เข้าลงทุนในเวียดนามเช่นกัน วันนี้พี่ทุยจะมาสรุปให้ฟังเป็น 5 เหตุผล ว่าทำไมเวียดนามถึงเป็นประเทศที่เนื้อหอมอีกประเทศหนึ่งที่ถูกพูดถึงและมีนักลงทุนเข้าไปลงทุนมากอย่างต่อเนื่อง

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

1. เวียดนาม ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการทำการค้ามาก

ถ้าเราลองเปิดแผนที่ของประเทศเวียดนามดูเราจะเห็นว่าประเทศเวียดนามตั้งอยู่กลางอาเซียน อยู่ใกล้กับตลาดสำคัญหลายแห่งในเอเชียโดยเฉพาะตลาดของประเทศจีน แถมยังมีส่วนที่ติดแนวชายฝั่งทะเลลากยาวไปจนถึงทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าหลักของโลก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเวียดนามถึงเหมาะกับการทำการค้ามาก

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

2. เวียดนามมีการเปิดเสรีการค้า (FTA) มากกว่า 17 ฉบับ รวมกว่า 50 ประเทศแถมเศรษฐกิจก็ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ถ้าถามว่าการเปิดเสรีการค้า 17 ฉบับ รวมกว่า 50 ประเทศเยอะมั้ย พี่ทุยขอหยิบมาเทียบกับประเทศไทยที่ ณ ปัจจุบันมีการเจรจาเปิดเสรีการค้าเพียงแค่ประมาณ 20 ประเทศเท่านั้น แปลว่าเวียดนามมีการเปิดเสรีการค้ามากกว่าไทยถึง 3 เท่าตัว ยิ่งเปิดเสรีการค้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งแปลว่า ข้อจำกัดในการเข้าไปแข่งขันในตลาดใหม่ ๆ น้อยลง และยิ่งมองในแง่มุมของผู้บริโภคเองก็ยิ่งเปิดทางเลือกให้กับผู้บริโภคสินค้าที่ถูกลงด้วย

3. เวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ถ้าเราลองดูตัวเลขเศรษฐกิจในปีที่แล้วที่มีการระบาดของโควิด-19 เวียดนามนั้นสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างน่าสนใจ โดยกลับมาเติบโตได้ 2.91% เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่ติดลบไปกว่า -6.1% แถมในปี 2021 คาดการณ์กันว่าน่าจะเติบโตได้มากกว่า 6.5-7% อีกด้วย นอกจากนี้ถ้าเราไปดูหนี้ครัวเรือนเองก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ แปลว่าคนในประเทศเค้ายังมีพลังในการบริโภคเหลืออีกมหาศาลเลยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

4. เวียดนามมีค่าแรงถูก

ถ้าพูดถึงค่าแรงของเวียดนามนั้นมีอัตราค่าแรงที่ถูกมาก พี่ทุยลองพาไปเปรียบเทียบค่าแรงกับประเทศอื่น ๆ (คิดเป็นเงินบาท) จะได้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เวียดนาม – 27.5 บาทต่อชั่วโมง
ไทย – 40.5 บาทต่อชั่วโมง
มาเลเซีย – 43.15 บาทต่อชั่วโมง
ไต้หวัน – 170.09 บาทต่อชั่วโมง
เกาหลีใต้ – 227 บาทต่อชั่วโมง

ทำให้มีนักลงทุนต่างชาติมากมายมาตั้งฐานการผลิตในเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตที่เน้นแรงงาน (Labor-Intensive) ที่ต้นทุนค่าแรงมีผลกระทบต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก ก็จะช่วยทำให้ธุรกิจมีต้นทุนที่ถูกลง

5. มีจำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคน และส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยทำงาน

ถ้าเราเจาะลึกลงไปที่สัดส่วนประชากร เราจะเห็นว่าประชากรส่วนใหญ่ของเวียดนามกำลังอยู่ในวัยทำงาน ไม่ใช่วัยผู้สูงอายุแบบประเทศอื่น ๆ เมื่อรวมกับจำนวนประชากรที่สูงถึงเกือบ 100 ล้านคน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริโภคภายในประเทศ

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คน เริ่มอยากจะกระจายพอร์ตการลงทุนไปที่เวียดนามกันบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะ สำหรับใครสนใจ “ลงทุนที่เวียดนาม” พี่ทุยขอแนะนำ “Jitta Wealth Thematic” โดยสามารถเลือกได้ลงทุนได้สูงสุด 5 ธีม จากทั้งหมด 14 ธีม ซึ่งแน่นอนว่าทาง “Jitta Wealth Thematic” มีธีมการ “ลงทุนที่เวียดนาม” ให้เราเลือกลงทุนเช่นกัน

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

โดยทาง “Jitta Wealth Thematic” จะเลือก ETF ที่ดี มีคุณภาพ สภาพคล่องสูง และมีขนาดของกองที่เหมาะสมเพื่อเลือกลงทุน เรียกว่าคัด ETF ที่เป็นที่สุดในแต่ละธีมมาให้เลือกลงทุน ซึ่งข้อดีของการลงทุนผ่าน ETF ก็คือ มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และยังได้รับการกระจายการลงทุนไม่ต่างจากการลงทุนแบบทั่วไป โดยไม่ต้องคอยคาดการณ์จังหวะตลาด

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

ธีมเวียดนาม จากทาง “Jitta Wealth Thematic” จะลงทุนผ่าน VanEck Vectors® Vietnam ETF (VNM®) อ้างอิงดัชนี MVIS® Vietnam Index (MVVNMTR®) ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง ต้องมีมูลค่าทางตลาดอย่างน้อย 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐมากกว่า 28 บริษัท จดทะเบียนทั้งในเวียดนามและต่างประเทศ โดยธุรกิจที่จดทะเบียนต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จะต้องมีสินทรัพย์หรือรายได้จากการทำธุรกิจในประเทศเวียดนามไม่ต่ำกว่า 50% เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนบริษัทที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามแบบแท้ ๆ เลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ VNM® ยังมีข้อดี คือ ซื้อขายอยู่ในตลาดอเมริกา โดยจัดตั้งมากว่า 10 ปีแล้ว และมีมูลค่า ETF สุทธิอยู่ที่ 482 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพคล่องเหมือนเวลาที่เราไปซื้อหุ้นหรือ ETF ที่เวียดนามโดยตรง แล้วยิ่งลงผ่าน Jitta Wealth Thematic ก็ยิ่งสะดวก สามารถกระจายเงินลงทุนเวียดนามไปพร้อม ๆ ประเทศอื่น ๆ อย่างอเมริกา จีน อินเดียได้ เวลาปรับพอร์ตก็คล่องตัว ไม่ต้องคอยโยกเงินข้ามประเทศไปมาอีกด้วย

"ลงทุนที่เวียดนาม" Jitta Wealth Thematic

นอกจากการลงทุนผ่าน “Jitta Wealth Thematic” ที่เปิดให้เราเลือกลงทุนได้หลากหลายธีมตามความสนใจของเราแล้ว แต่ละธีมยังเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่น่าสนใจทั้งนั้นเลยด้วย ซึ่งถ้าเราสนใจอยากเริ่มต้นเปิดพอร์ตกับ “Jitta Wealth Thematic” ก็สามารถเริ่มต้นได้เพียงแค่ 100,000 บาท และถ้าใครต้องการลงทุนเพิ่มก็สามารถทยอยลงทุนได้อีกครั้งละ 10,000 บาทไปเรื่อย ๆ ได้เลย

สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปได้ ที่นี่ นอนอยู่บ้านก็เปิดบัญชีได้ ไม่ต้องส่งเอกสารให้วุ่นวายเลย ไปสมัครกันเลย

ส่วนใครที่คิดว่าการเริ่มต้นลงทุนที่เงิน 100,000 บาท คิดว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะ พี่ทุยอยากจะบอกว่า การไปลงทุนเองโดยตรงในต่างประเทศ ตามปกติแล้วเราควรมีเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท เพราะถ้ามีน้อยกว่านั้นจะไม่คุ้มกับต้นทุนค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าโอน ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่าง ๆ นั่นเอง

คำเตือน: ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
บทความนี้เป็นบทความ Advertorial