มนุษย์เงินเดือนจะต้องจ่ายประกันสัมคมกันเป็นประจำ ซึ่งก็ได้สิทธิประโยชน์หลายอย่าง แต่คำถามก็คือเงินที่เราจ่ายออกไปทุกเดือน เราสามารถ ขอคืนเงินประกันสังคม ได้มั้ย ขอได้มากน้อยแค่ไหน ได้คืนเมื่อไหร่ ไปฟังกัน
หักประกันสังคม 2567 หักกี่บาท ม.33 ม.39
ถ้าเราทำงานประจำ ตามกฎหมายแล้ว นายจ้างจะต้องทำประกันสังคมให้ลูกจ้าง เพื่อให้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่ช่วยเป็นหลักประกันในการดำเนินชีวิต
ประกันสังคม 2567 มาตรา 33 หักกี่บาท
ผู้ประกันตนมาตรา 33 คือ พนักงานบริษัทหรือลูกจ้างในบริษัทหรือสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป โดยอายุต้องไม่ต่ำกว่า 15 ปีและไม่เกิน 60 ปี
การคิดเงินสมทบประกันสังคม จะคิดจากค่าจ้างต่ำสุด 1,650 บาท/เดือน และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน โดยแบ่งเป็นสัดส่วนดังนี้
- ลูกจ้าง 5% ของค่าจ้าง ตั้งเเต่ 83 บาท/เดือน ถึงสูงสุด 750 บาท/เดือน
- นายจ้าง 5% ของค่าจ้าง (ลูกจ้าง) ตั้งเเต่ 83 บาท/เดือน ถึงสูงสุด 750 บาท/เดือน
- รัฐบาล 2.75% ของฐานเงินเดือนค่าจ้าง
โดยสิทธิประกันสังคมมาตรา 33 ได้รับความคุ้มครอง 7 กรณี คือ 1) เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ 2)ทุพพลภาพ 3) ว่างงาน 4) คลอดบุตร 5) สงเคราะห์บุตร 6) ชราภาพ และ 7) เสียชีวิต อ่านเพิ่มเติมที่ สรุปครบจบทุกอย่าง ประกันสังคมมาตรา 33 สิทธิประโยชน์
ประกันสังคม 2567 มาตรา 39 หักกี่บาท
ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือ ผู้ที่เคยทำงานและเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน โดยจ่ายเงินสมทบแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และออกจากงานมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกจากงาน และต้องไม่เป็นผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคม
การคิดเงินสมทบประกันสังคม คือ
- ผู้ประกันตนส่งเงินเข้ากองทุน 432 บาท/เดือน
- รัฐบาลสมทบอีก 120 บาท/เดือน
เงื่อนไขการส่งเงินสมทบ
- ต้องส่งเงินสมทบครบทุกเดือนต่อเนื่องกัน
- หากไม่ส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน หรือภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือน เท่ากับว่า สิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 ในทันที
โดยสิทธิประกันสังคมมาตรา 39 ได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี คือ 1) เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ 2)ทุพพลภาพ 3) คลอดบุตร 4) สงเคราะห์บุตร 5) ชราภาพ และ 6) เสียชีวิต อ่านเพิ่มเติมที่ ประกันสังคมมาตรา 39 จ่ายเท่าไหร่ สรุปสิทธิประโยชน์ล่าสุด
ได้เงินประกันสังคมคืนตอนไหน
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเงินสมทบที่จ่ายไปทุกเดือนนั้นประกันสังคมนำเอาใช้ทำอะไรบ้าง
สำหรับมาตรา 33 จากเงินสมทบ 5% ของเงินเดือน จะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ / ทุพพลภาพ / คลอดบุตร และเสียชีวิต จำนวน 1.5%
สุ่วนที่ 2 สงเคราะห์บุตร / ชราภาพ จำนวน 3 %
ส่วนที่ 3 ว่างงาน จำนวน 0.5 %
การแบ่งสัดส่วนเงินสมทบประกันสังคม
เงินที่เราจะได้คืนจากประกันสังคม เรียกว่า เงินชราภาพ ไม่ใช่จำนวนเงินทั้งหมดที่ส่งไป”
ซึ่งมีวิธีคิดคำนวณเงินชราภาพที่แต่ละคนจะได้แตกต่างกันไปตามมาตรา 33 มาตรา 39 มาตรา 40 ระยะเวลาการส่งเงินสมทบ และฐานเงินเดือนก็มีผลต่อการคำนวณเช่นกัน
แล้วเราจะได้เงินชราภาพคืนจากประกันสังคมตอนไหน ?
เงินชราภาพจะได้คืนตอนไหน ?
- เมื่อผู้ประกันตนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง คือ ลาออกจากงานและสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน ม.33 หรือ ม.39
- ต้องดำเนินการขอคืนเงินชราภาพประกันสังคมภายใน 1 ปี หลังสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน ม.33 หรือ ม.39 หรือที่เรียกว่า ลาออกจากกองทุนประกันสังคม
อ่านเพิ่ม
เงินบำนาญชราภาพ จะเข้าวันไหน
โอนเงินของเดือนที่ได้รับสิทธิ ในวันที่ 25 ของทุกเดือน หากวันที่ 25 ตรงกับวันหยุดราชการ สปส.จะโอนเงินให้ในวันทำการก่อนวันหยุดราชการ “แบบจ่ายเดือนตรงเดือน” โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
ขอคืนเงินประกันสังคม ก่อนอายุ 55 ได้ไหม – เงินชราภาพ
คำตอบ คือ ไม่ได้ แม้ว่าจะส่งเงินสมทบมาแล้วกี่เดือน กี่ปีก็ตาม
เช่น นางสาว A ทำงานทั้งเเต่อายุ 22 ปี ส่งเงินสมทบมาแล้ว 15 ปี (ส่งเงินสมทบทุกเดือน) ปัจจุบันมีอายุ 37 ปี เท่ากับว่า ยังอายุไม่ถึง 55 ปีบริบูรณ์ ก็ไม่สามารถ ขอคืนเงินประกันสังคม ก่อนอายุ 55 ปีได้
ทำยังไงถึงจะ ขอคืนเงินประกันสังคม ก่อนอายุ 55 ปีได้
การจะขอคืนเงินประกันสังคม ก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ได้นั้นต้องเข้าเงื่อนไขข้อยกเว้น 2 กรณีต่อไปนี้เท่านั้นคือ
กรณที่ 1 ผู้ประกันตนกลายเป็นผู้ทุพพลภาพ ก่อนอายุ 55 ปี จะขอคืนประกันสังคมได้เป็น “เงินบำเหน็จชราภาพ”
กรณที่ 2. ผู้ประกันตนเสียชีวิต ก่อนอายุ 55 ปี ทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเป็นเงิน “บำเหน็จชราภาพ” ตามกฎหมายประกันสังคมกำหนด ซึ่งจะไม่ได้สิทธิเป็นเงินบำนาญกรณีชราภาพแม้จะส่งเงินสมทบครบ 15 ปีแล้วก็ตาม
วิธีเช็กเงินชราภาพประกันสังคมมีสะสมเท่าไร
ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองว่า ณ ตอนนี้เรามีเงินชราภาพสะสมกับประกันสังคมเท่าไรแล้วบ้าง ผ่าน 3 ช่องทางคือ
- SSO Mobile App
- Line Official Account : @SSOTHAI
- Website : www.sso.go.th
อนาคตอาจจะ ขอคืนเงินประกันสังคม ก่อน 55 ปีได้
ตั้งแต่ วันที่ 10 พ.ค. 2565 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ 3 ประเด็น หรือที่เรียกว่า 3 ขอ : ขอเลือก, ขอคืน และขอกู้ รายละเอียด ดังนี้
- ให้ผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ สามารถเลือกรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญชราภาพได้ (ขอเลือก)
- ในกรณีเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์อื่นใดอันส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตน ก็สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ได้ก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ (ขอคืน)
- สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินได้ (ขอกู้)
- ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนได้
- ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพสามารถขอรับเงินบำนาญจ่ายล่วงหน้าได้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่น ๆ อีกที่ไม่ใช่กรณีชราภาพ เช่น
- ขยายอายุขั้นสูงของผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้าง จาก 60 ปีบริบูรณ์ เป็น 65 ปีบริบูรณ์
- เพิ่มเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ จาก 50 % ของค่าจ้าง เป็น 70% ของค่าจ้าง
- เพิ่มระยะเวลาจ่ายเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร จากเดิม 90 วัน เป็น 98 วัน โดยเหมาจ่ายครั้งละ 50% ของค่าจ้าง
- กรณีสงเคราะห์บุตร หากผู้ประกันตนสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง และภายหลังการสิ้นสภาพเป็นผู้ประกันตน จะยังได้เงินสงเคราะห์บุตรต่อไปอีก 6 เดือน
แม้ว่า ครม. อนุมัติหลักการแล้ว และต้องรอการประกาศให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
ทางพี่ทุยก็คิดว่า นี่ก็ผ่านมานานแล้วหลัง ครม. อนุมัติ ก็น่าจะเริ่มใช้แล้วหรือเปล่า ? ซึ่งพี่ทุยโทรศัพท์สอบถามกับประกันสังคมโดยตรง ณ วันที่ 20 มิ.ย. 2566 โดยได้คำตอบว่า
“สำหรับหลักการ 3 ขอ เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ขอเลือก , ขอคืน , ขอกู้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในหลักการแล้ว สำหรับปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเร่งดำเนินการทางกฎหมาย หากมีความคืบหน้าสำนักงานประกันสังคมจะมีการประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ทราบต่อไป” ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ประกันสังคม ณ วันที่ 20 มิ.ย. 2566
ก็คือ ยังไม่ได้อยู่ดี รอแล้ว รออยู่ ก็รอกันต่อไปนะ