A
Accredited Investor
เป็นนักลงทุนที่ไม่ใช่รายย่อย โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ 1. นักลงทุนสถาบัน เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนต่างๆ เป็นต้น 2. นักลงทุนรายใหญ่ ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็คือนักลงทุนที่มีเงินลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไปหรือรายได้ต่อปีมากกว่า 4 ล้านบาทขึ้นไป มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป แต่ถ้าเป็นกรณีของนิติบุคคลต้องมีส่วมของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป
A-Shares
คือ ดัชนีของหุ้นจีนที่นำเอาหุ้นในตลาดหลัก 2 ตลาดมาคำนวณเป็นดัชนี นั่นก็คือ Shanghai และ Shenzhen มารวมกันแบบถ่วงน้ำหนัก โดยตลาด A-Shares หุ้นในตลาดจะถูกซื้อขายเป็นสกุลเงินหยวน (RMB) เป็นดัชนีที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในจีน
Arbitrage
คือ การทำกำไรจาก “ความแตกต่างของราคา” ของสองตลาด ง่ายๆก็คือการซื้อถูกจากตลาดหนึ่ง เพื่อมาขายแพงในอีกตลาดหนึ่งนั่นเอง
B
หุ้นกู้ (Bond)
เป็นตราสารหนี้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี โดยที่ผู้ออกตราสารหนี้ดังกล่าวคือก็คือภาคเอกชน
ติดดอย (Buy High)
เป็นสถานะที่บอกว่า เราเกิดการซื้อสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งราคาสูง แล้วราคาตกลงมาอย่างรวดเร็ว ถ้าหากเราไปดูกราฟราคาของสินทรัพย์นั้นๆ เราจะเห็นได้ว่าราคาที่เราเข้าซื้อเหมือนกับยอดภูเขาหรือยอดดอยนั่นเอง
Bad Debt
หนี้เลว
คือ หนี้ที่ก่อให้เกิดรายจ่ายมากกว่ารายได้ เช่น การกู้ยืมเพื่อการบริโภคต่างๆ เพื่อความสบายเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการกู้ซื้อรถโดยไม่มีความจำเป็นหรือไม่สามารถนำรถไปหารายได้เพิ่มได้ การกู้ยืมเพื่อไปเที่ยวก่อน แล้วกลับมาจ่ายทีหลัง
อ่านเพิ่มเติม Buy on dip
คือ การที่เราจะเข้าลงทุนเพิ่มเมื่อตลาดมีการปรับตัวย่อลง เป็นวิธีการลงทุนที่นิยมๆมากในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น เพราะเวลาที่ตลาดปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางทีเราอาจจะไล่ซื้อทำให้เราได้ราคาแพงกว่าความเป็นจริง การ “Buy on dip” จะช่วยทำให้เราได้ต้นทุนที่ต่ำลงได้ในแต่ละช่วงเวลา การ “Buy on dip” เป็นเพียงวิธีการลงทุนวิธีนึงที่ “ช่วยเพิ่มโอกาส” ให้เราได้ต้นทุนที่ต่ำลง สุดท้ายแล้วเราก็ยังต้องอาศัยการวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อที่จะดูว่าสินทรัพย์การลงทุนที่เราทำ “Buy on dip” นั้นมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอยู่ ถ้าเป็นการลงทุนในหุ้นตรงนี้ก็ต้องใช้ความรู้เรื่องการวิเคราะห์พื้นฐานและการลงทุนเชิงเทคนิคเพื่อเข้าดูว่าแนวรับอยู่ตรงไหนที่ตลาดมีแนวโน้มจะย่อลงนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม c
Credit Rating
Credit Rating เป็นระดับความน่าเชื่อของตราสารหนี้ฉบับหนึ่งๆว่ามีระดับ Default Risk หรือความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้เป็นอย่างไรบ้าง ในประเทศเรามี 2 บริษัทจะคอยจัดลำดับความเสี่ยงถือกันอยู่ก็คือ TRIS และ FITCH
Cut Loss
คือ การขายหลักทรัพย์ออกไปโดยที่ “ขาดทุน” แต่เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ก่อนที่ จะขาดทุนมากไปกว่าปัจจุบัน
d
เงินปันผล (Dividend)
คือ ค่าตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้ผู้ถือหุ้น
Default Risk
ความเสี่ยงในการโดนเบี้ยวหนี้
คือ ความเสี่ยงที่เราโดนเบี้ยวหนี้ การลงทุนในหุ้นหรือในบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนใหญ่จะแบ่งวิธีการลงทุนออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ลงทุนในสถานะ “เจ้าของ” และการเป็น “เจ้าหนี้” การเป็นเจ้าของอย่างที่เราเข้าใจกันเป็นอย่างดี คือการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือผ่าน App Streaming เค้าเรียกว่าการเข้าลงทุนแบบความเป็น “เจ้าของ” แต่การลงทุนอีกแบบนึงก็คือการเป็น “เจ้าหนี้” ประเภทลงทุนผ่านตั๋ว B/E ผ่านหุ้นกู้ต่างๆ ข้อดีของการเป็นเจ้าหนี้ คือ เราจะได้รับดอกเบี้ยแน่นอน แล้วเมื่อถือจนครบอายุหนี้นั้นๆก็จะได้เงินต้นคืนตามที่ลงทุนไป ดังนั้นความเสี่ยงของการลงทุนแบบเป็นเจ้าหนี้นั้นมีเพียงอย่างเดียวหลักๆ คือ Default Risk หรือความเสี่ยงเบี้ยวหนี้นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม E
ETF
ย่อมากจาก Exchange Traded Fund เป็นกองทุนรวมดัชนีที่ลงทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้เหมือนกับดัชนีหรือราคาสินทรัพย์อ้างอิง
ECB
ย่อมาจาก European Central Bank หรือธนาคารกลางของกลุ่มยูโรโซน
Emerging Market
ตลาดเกิดใหม่
คือ ประเทศกำลังพัฒนาที่อยู่ในช่วงพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมประเทศที่พัฒนาแล้ว มีเศรษฐกิจที่ขยายตัวรวดเร็ว การเติบโตทางเศรษฐกิจสูงบางทีอาจจะสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยซ้ำ แต่ว่ายังรวยไม่เท่านั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม F
FIF
ย่อมาจาก Foreign Investment Fund เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV เพื่อเป็นการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยการจัดตั้ง FIF ต้องได้รับความเห็นชอบจากตั้ง กลต. และ ธปท.
FOMC
ย่อมาจาก Federal Open market Committee เป็นคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่มีหน้าที่กำหนดควบคุมดูแลเรื่องอัตราดอกเบี้ย
FED
ย่อมาจาก Federal Reserve หรือธนาคารกลางของประเทศสหรัฐอเมริกา
G
GDP
ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเป็นมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายของประเทศนั้นๆ ประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก คือ C + I + G + X – M C = Consumption คือการบริการโภคของภาคเอกชน I = Investment คือการลงทุนของภาคเอกชน G = Government Spending คือการใช้จ่ายของภาครัฐหรือการลงทุนจากภาครัฐ X = Export คือการส่งออก M = Import คือการนำเข้า
Good Debt
หนี้ดี
คือ หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้มากกว่ารายจ่าย เช่น กู้ธนาคารเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้วนำค่าเช่ามาจ่ายดอกเบี้ยในแต่เดือนได้ หรือ การกู้เงินไปซื้อรถเพื่อมาให้ประกอบอาชีพ กู้ซื้อรถแล้วมีรายได้มากขึ้นเพราะอาชีพหรืองานที่เราทำมันจำเป็นต้องใ้ช้รถ เป็นต้น แต่รถยนต์มีค่าเสื่อม ก็อาจจะต้องคิดค่าเสื่อมเพิ่มเติมเข้าไปด้วยนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม h
H-Shares
คือ ดัชนีของหุ้นจีนที่บริษัทจดทะเบียนและทำธุรกิจในประเทศจีน แต่มาจดทะเบียนบริษัทในตลาดประเทศฮ่องกงแทน โดยจะซื้อขายกันเป็นสกุล ฮ่องกงดอลล่าร์ (HKD) หรือที่มักคุ้นหูเรียกว่ากันว่า Hang Seng China Enterprise Index (HSCE)
i
ดอกเบี้ย (Interest)
คือ ค่าตอบแทนที่ผู้กู้จ่ายให้กับผู้ให้กู้
IPO
ย่อมาจาก Initial Public Offering ก็คือหุ้นใหม่ที่กำลังจะเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถูกเสนอขายให้กับประชาชนโดยทั่วไปเป็นครั้งแรก เพื่อนำเงินเสนอขายไปเป็นทุนของบริษัท
j
Post
Post is now empty.
k
Post
Post is now empty.
l
Liquidity Risk
คือ ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง หมายความว่าเราอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ดังกล่าวเป็น “เงินสด” ได้ ยิ่งเราแปลงเป็นเงินสดได้ยากเท่าไหร่ความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องก็จะยิ่งสูง สินทรัพย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูง เช่น อสังหาริมหาริมทรัพย์ อีกตัวอย่างที่หนึ่งที่ชัดเจนมากขึ้นก็คือ “เงินฝากประจำ” ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงด้านสภาพคล่องมากกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปเช่นกัน เพราะถ้าเรานำเงินออกมาก่อนกำหนดเราจะได้ดอกเบี้ยน้อยลง
m
Mutual Fund
กองทุนรวม (Mutual Fund) คือ การนำเงินลงทุนของนักลงทุนหลายๆคนมารวมกันให้เป็นเงินก้อนใหญ่ๆ แล้วนำเงินก้อนดังกล่าวไปจดทะเบียนให้มีสถานะเป็น “นิติบุคคล” เพื่อนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในสินทรัพย์และหลักทรัพย์ต่างๆตาม “นโยบายของกองทุนรวม” นั้น โดยจะมีคนที่ดูแลเงินดังกล่าวเราจะเรียกว่า “ผู้จัดการกองทุน”
Money Market
เป็นตลาดที่นำพา “คนมีเงินออม” และ “คนต้องการเงิน” มาเจอกันผ่านวิธีการกู้ยืมระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วแลกเงิน ตั๋วเงินคลัง ฯลฯ หรือเป็นตลาดที่มีการซื้อขายตราสารหนี้ที่อายุสั้นกว่า 1 ปี
N
Post
Post is now empty.
o
Overweight
เรามักจะเห็นคำนี้ในบทวิเคราะห์ต่างๆ โดยเราจะเห็นคำว่า OW หรือ Overweight ในกรณีที่นักวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินทรัพย์หนึ่งน่าจะปรับขึ้นต่อได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ การให้สัญลักษณ์ OW หรือ Overweight ก็คือเราสามารถขายสินทรัพย์อื่นในพอร์ตแล้วมาเพิ่มสัดส่วนของสินทรัพย์ตัวดังกล่าวได้ หรืออาจจะนำเงินลงทุนก้อนใหม่มาซื้อเพิ่มก็สามารถทำได้ในช่วงดังกล่าว
p
Private Equity
คือ การเข้าซื้อหุ้นหรือลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป้าหมายหลักของการทำ Private Equity คือนำหุ้นดังกล่าวเข้าเทรดในตลาดหรือทำการ IPO เพื่อให้ราคาของหุ้นเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
Portfolio
คือ พอร์ตหรือพอร์ตการลงทุน เป็นการสร้างกลุ่มของสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่มากกว่า 2 อันขึ้นไป เป้าหมายเพื่อกระจายการลงทุนและลดความเสี่ยงจากการลงทุน
P/E Ratio
เป็นอัตราส่วนทางการเงินตัวหนึ่งที่เราสามารถใช้วัดความถูกหรือแพงของหุ้นได้เมื่อเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือ การนำราคา (Price) มาหารด้วย กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earning Per Share) ความหมายพื้นฐานเลยก็คือเราจะต้องถือหุ้นตัวนี้ไปกี่ปีถึงจะคืนทุน แปลว่า P/E Ratio ยิ่งสูงแปลว่าราคาหุ้นดังกล่าวยิ่งแพง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราคำนวณ P/E Ratio ออกมาแล้วเท่ากับ 10 เท่า แล้วเราต้องถือยาว 10 ปีถึงจะคืนทุนเสมอไป อาจจะเร็วหรือนานกว่านั้นก็ได้ เพราะหุ้นมีการเติบโตของกำไรได้เรื่อยๆ ดังนั้นควรดูปัจจัยอื่นๆประกอบด้วยเช่นกัน
q
Credit Rating
Credit Rating เป็นระดับความน่าเชื่อของตราสารหนี้ฉบับหนึ่งๆว่ามีระดับ Default Risk หรือความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้เป็นอย่างไรบ้าง ในประเทศเรามี 2 บริษัทจะคอยจัดลำดับความเสี่ยงถือกันอยู่ก็คือ TRIS และ FITCH
QE
QE ย่อมาจาก Quantitative Easing เป็นนโยบายการเงินตัวหนึ่ง ที่เป็นนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการพิมพ์เงินแล้วใช้เงินดังกล่าวเข้าระบบเศรษฐกิจเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจมีสภาพคล่องมากขึ้น กล้าใช้จ่ายกันมากขึ้น
Cut Loss
คือ การขายหลักทรัพย์ออกไปโดยที่ “ขาดทุน” แต่เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ก่อนที่ จะขาดทุนมากไปกว่าปัจจุบัน
r
Post
Post is now empty.
s
ขายหมู (Sell Low)
เป็นสถานะที่บอกว่าเราได้ทำการขายซื้อสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งออกไปแล้ว เมื่อขายเสร็จ ราคาสินทรัพย์ดังกล่าวก็ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ขายไป ทำให้เรากำไรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
Stop Loss
คือ การหยุดเพื่อไม่ให้ ราคาหลักทรัพย์ในพอร์ตลดลงไปมากกว่านี้ ซึ่งขณะที่ทำการ Stop loss นั้น นักลงทุนอาจ ขาดทุนหรือได้กำไรอยู่ในขณะที่ขายก็ได้ แต่ขายออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้กำไรลดลงกว่าที่เป็น หรือขาดทุนมากยิ่งขึ้น
Sharpe Ratio
ผลตอบแทนต่อ 1 หน่วยความเสี่ยง
คือ ผลตอบแทนต่อ 1 หน่วยความเสี่ยง โดยเราจะสามารถเปรียบเทียบได้ว่ากองทุนไหนน่าสนใจกว่ากันได้ดีมากขึ้น แต่เราจะต้องใช้ Sharpe Ratio เปรียบเทียบกองทุนรวมประเภทเดียวกันเท่านั้น ถึงจะเปรียบเทียบแล้วเห็นผลมากที่สุด สำหรับผลตอบแทน หลายคนน่าจะเข้าใจความหมายแล้ว ส่วน ความเสี่ยงในที่นี้ก็คือ ความผันผวนของราคา ราคามันขึ้นลง เยอะไหม ราคามันสวิงเยอะไหม ราคาเหวี่ยงเยอะมั้ย ? กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงยิ่งสูงก็จะทำให้เรามีโอกาสเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันสูงขึ้นนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม T
Trailing Stop
คือการที่เรากำหนดจุดออกหุ้นจาก “ราคาสูงสุด” ที่หุ้นทำราคาไว้ เช่น เราซื้อหุ้นตัวนึงที่ราคา 100 บาท แล้วเรากำหนด Trailing Stop ไว้ที่ 5% สมมติว่าหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 130 บาท เราจะยังไม่ขายหุ้นออกไป แต่ถ้าหุ้นขยับลงมาที่ 122 บาท (5% ของ 130 บาทเท่ากับ 7.5%) เราจะขายออกไปทันทีแล้วคอยมาว่ากันใหม่กับหุ้นตัวนั้น
อ่านเพิ่มเติม u
Underweight
เรามักจะเห็นคำนี้ในบทวิเคราะห์ต่างๆ โดยเราจะเห็นคำว่า UW หรือ Underweight ในกรณีที่นักวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินทรัพย์หนึ่งน่าจะปรับลงตัวลงด้วยปัจจัยต่างๆ การให้สัญลักษณ์ UW หรือ Underweight ก็คือเราสามารถขายสินทรัพย์ดังกล่าวออกไปบางส่วนแล้วถือเงินสดแทนหรือสามารถเอาเงินดังกล่าวไปกระจายซื้อสินทรัพย์อื่นๆในพอร์ตแทน
v
Underweight
เรามักจะเห็นคำนี้ในบทวิเคราะห์ต่างๆ โดยเราจะเห็นคำว่า UW หรือ Underweight ในกรณีที่นักวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินทรัพย์หนึ่งน่าจะปรับลงตัวลงด้วยปัจจัยต่างๆ การให้สัญลักษณ์ UW หรือ Underweight ก็คือเราสามารถขายสินทรัพย์ดังกล่าวออกไปบางส่วนแล้วถือเงินสดแทนหรือสามารถเอาเงินดังกล่าวไปกระจายซื้อสินทรัพย์อื่นๆในพอร์ตแทน
Value Investor
คือนักลงทุนที่เน้นลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) จะเน้นลงทุนหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆที่ตัวนักลงทุนเองมองเห็นว่า “ราคา” ในปัจจัยนั้นต่ำกว่า “มูลค่าพื้นฐาน” ที่ควรจะเป็น ก็จะทำการเข้าไปซื้อ แล้วรอให้ราคากลับมาเท่ากับหรือมากกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ประเมินไว้ก็จะขายหุ้นหรือสินทรัพย์ ณ ดังกล่าวออกไป
w
Post
Post is now empty.
x
Post
Post is now empty.
y
Post
Post is now empty.
z
Post
Post is now empty.