เคยไหมที่เพื่อนขอยืมเงินแล้วหายเงียบ ? หลายคนอาจลังเลว่าควรจัดการอย่างไร หากเงินจำนวนที่ให้ยืมเริ่มกระทบกับสภาพคล่องของตัวเอง วันนี้เรามาเจาะลึกคำตอบว่าถ้า เพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน แจ้งความหรือฟ้องศาลได้ไหม และต้องทำอย่างไรบ้าง
เพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน แจ้งความหรือฟ้องศาลได้ไหม ?
คำตอบสั้น ๆ คือ แจ้งความได้ในบางกรณี แต่ต้องเข้าใจว่าการยืมเงินเป็น “คดีแพ่ง” ไม่ใช่ “คดีอาญา” โดยตรง หมายความว่าตำรวจจะไม่มีอำนาจดำเนินคดีให้ในทันที
อย่างไรก็ตาม สามารถแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐานในกรณีที่เพื่อนเบี้ยวเงินหรือหายตัวไป เพราะการมีเอกสารลงบันทึกจากเจ้าหน้าที่จะช่วยยืนยันการติดตามเงินได้ในอนาคต
เพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน แจ้งความไม่ได้ แต่ฟ้องศาลได้! ต้องทำยังไงบ้าง ?
เรื่องเพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึง *“แจ้งความไม่ได้”* แต่ยังสามารถฟ้องศาลได้ เรื่องนี้มีคำตอบชัดเจนจากกฎหมายที่ช่วยให้เจ้าหนี้ยังมีโอกาสเรียกเงินคืนได้ ถ้ารู้จักวิธีและมีหลักฐานที่ถูกต้อง
ฟ้องศาลเรียกเงินคืนตามกฎหมาย
แม้ว่าจะไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีอาญาได้ แต่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ยังเปิดช่องให้เจ้าหนี้ฟ้องศาลเพื่อเรียกเงินคืนได้ โดยเฉพาะถ้าการกู้ยืมเงินมีมูลค่าตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ตาม **ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคหนึ่ง** ที่กำหนดว่าต้องมี “หลักฐานเป็นหนังสือ” หรือ “เอกสารที่เชื่อถือได้” เพื่อยื่นฟ้องศาล ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณีดังนี้
1. มีสัญญาเงินกู้
กรณีนี้ง่ายและชัดเจนที่สุด เพราะการทำสัญญากู้ยืมจะช่วยเพิ่มน้ำหนักในการฟ้องศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่สัญญาควรมี
- วันที่และสถานที่ทำสัญญา
- รายละเอียดของผู้กู้และผู้ให้กู้ เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์
- จำนวนเงินที่กู้ยืม
- กำหนดเวลาคืนเงิน
- ลายเซ็นของผู้กู้
เอกสารนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ศาลยอมรับได้ 100% หากเกิดปัญหาขึ้น
2. ไม่มีสัญญาเงินกู้
ถ้าไม่ได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะยังสามารถใช้หลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
หลักฐานที่ใช้ได้ เช่น
- ข้อความแชทที่ระบุการยืมเงิน เช่น การสนทนาที่มีข้อความชัดเจนว่าใครเป็นผู้ยืม, จำนวนเงินที่ยืม, และกำหนดวันคืน
- ชื่อบัญชีผู้ใช้ในแอปแชต ที่สามารถยืนยันตัวตนของผู้กู้ได้
- สลิปโอนเงินที่แสดงวันที่และเวลาของการโอน
ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดต้องไม่มีการแก้ไขดัดแปลง เช่น ตัดต่อภาพหรือเปลี่ยนแปลงข้อความ เพื่อความน่าเชื่อถือในชั้นศาล
ยืมเงินไม่เกิน 2,000 บาท ฟ้องศาลได้ไหม?
สำหรับกรณีที่เงินกู้ยืมมีจำนวนไม่เกิน 2,000 บาท หลายคนอาจสงสัยว่าฟ้องศาลได้หรือไม่ คำตอบคือ สามารถฟ้องได้ตามกฎหมาย แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น สัญญาเงินกู้ แต่ต้องพิสูจน์ได้ว่ามีการยืมเงินจริง เช่น การยืนยันจากพยานหรือหลักฐานอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนฟ้องร้องควรพิจารณาว่า คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายหรือไม่ เพราะการฟ้องศาลมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายความ ซึ่งอาจสูงกว่าเงินที่ให้ยืมไป หากเงินที่ให้ยืมเป็นจำนวนไม่มาก อาจพิจารณาทวงถามด้วยวิธีอื่น เช่น การเจรจาต่อรองก่อน
เพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน ผิดกฎหมายข้อไหนบ้าง?
กรณียืมเงินแล้วไม่คืน ถือเป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213 ซึ่งระบุว่าเจ้าหนี้สามารถยื่นฟ้องศาลเพื่อให้ลูกหนี้คืนเงินตามกฎหมายได้
แต่หากลูกหนี้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ เช่น ซุกซ่อนหรือโอนย้ายทรัพย์สิน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับคดี อาจเข้าข่ายความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การทำสัญญาเงินกู้ช่วยได้มากแค่ไหน?
หลายคนอาจละเลยเรื่องการทำสัญญากู้ยืมเงิน โดยเฉพาะเมื่อปล่อยกู้ให้คนใกล้ตัว แต่รู้ไหมว่า สัญญากู้ยืมเงินเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินที่ให้ยืมจะได้รับคืน
ตามกฎหมาย ถ้าการกู้ยืมเงินมีมูลค่าเกิน 2,000 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นเอกสารหรือการลงลายมือชื่อ มิฉะนั้น การเรียกร้องเงินคืนในชั้นศาลอาจมีปัญหาเพราะขาดหลักฐาน
คำแนะนำก่อนปล่อยเงินกู้
เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ลองพิจารณาขั้นตอนเหล่านี้ก่อนให้เพื่อนยืมเงิน:
- ประเมินความจำเป็น : เพื่อนต้องการเงินไปใช้ในเรื่องใด และมีแผนชำระคืนหรือไม่
- เขียนสัญญาเงินกู้ : ระบุจำนวนเงิน วันที่ยืม และกำหนดเวลาคืนให้ชัดเจน
- อย่าให้เกินกำลังตัวเอง : ควรปล่อยกู้เฉพาะจำนวนที่สามารถยอมเสียได้
คำแนะนำสำหรับเจ้าหนี้
การเก็บหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้มีโอกาสเรียกเงินคืนได้ในชั้นศาล
- ถ่ายรูปหรือสแกนหลักฐาน เช่น สัญญากู้ยืมหรือสลิปโอนเงิน เก็บไว้ในที่ปลอดภัย
- เก็บแชตการสนทนาไว้ครบถ้วน อย่าลบข้อความที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการยืมเงิน
- ติดตามเรื่องอย่างสม่ำเสมอ หากผู้กู้เริ่มเพิกเฉย อาจต้องเตรียมฟ้องเพื่อรักษาสิทธิของตัวเอง
การยืมเงินแล้วไม่คืนเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนเครียด แต่ยังมีวิธีจัดการตามกฎหมายทั้งการแจ้งความและการฟ้องศาล สิ่งสำคัญที่สุดคือการเก็บรักษาหลักฐานทุกอย่าง และอย่าลืมคิดให้รอบคอบก่อนปล่อยเงินกู้ เพราะความสัมพันธ์ที่ดีอาจพังได้ง่าย ๆ ถ้าปัญหาเงินเข้ามาเกี่ยว
“ไม่ว่าจะให้ใครยืมเงิน อย่าลืมปกป้องตัวเองด้วยเอกสารหลักฐานเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินที่ให้ยืมจะไม่กลายเป็นเงินที่สูญเปล่า”
อ่านเพิ่ม