ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่า สินค้าการเงิน การลงทุน มีเยอะมาก ทั้งฝากออมทรัพย์ ฝากประจำ ฝากไม่ประจำ ฝากประจำเผื่อเรียก บัตรเครดิต ก็มีหลากหลายบริษัทให้เลือกใช้ โปรโมชั่นก็ไม่เหมือนกัน
ประกันชีวิต ตอนนี้ก็มี 6 แบบได้ กองทุนรวม ก็มีระดับความเสี่ยงถึง 8 ระดับ หุ้นก็มีเป็นร้อย ๆ ตัว หลายสิบอุตสาหกรรม
ยังไม่นับการลงทุนทางเลือกอีก ทองคำ น้ำมัน ข้าวเปลือก (อันนี้ก็ลงทุนได้นะ หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้)
คำถามก็คือ เงินเรามีอย่างจำกัด เราจะเอาไปลงทุน สินค้าการเงิน ไหนดีล่ะ ?
นอกจากเราจะรู้ว่า เป้าหมายการเงินของเราคืออะไรแล้ว สินค้าการเงินบางอย่างก็มีความคล้ายคลึงกันมาก ๆ เช่น ถ้าเป็นเป้าหมายการเงินระยะสั้น ๆ 1-2 ปี สินค้าการเงินที่น่าจะเหมาะสมก็มี เงินฝากประจำ กองทุนรวมตลาดเงิน หรือจะกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ก็พอได้เหมือนกัน
แต่ถ้าเรารู้ว่าสินค้าแต่ละตัวมีลักษณะนิสัยเป็นยังไง เราก็จะสามารถเลือกสินค้าได้ตรงและเหมาะกับเรามากที่สุด
วันนี้พี่ทุยเลยมี “การบ้าน” มาแนะนำ (เป็นการบ้านที่พี่ทุยเคยทำมาแล้ว) ที่ช่วยให้พี่ทุยเข้าใจ “สินค้าการเงิน” การลงทุน มากขึ้นก็คือ
ลองไปหา “ข้อดี” และ “ข้อเสีย” ของสินค้าการเงินนั้นมาอย่างละ 10 ข้อ (ถ้าขยันหน่อยก็ 20 ข้อ ไปเลย) ฟังดูอาจจะดูเยอะนะ ตอนแรกพี่ทุยก็ตกใจเหมือนกัน
แต่การที่เราคิดไปจนคิดไม่ออก แล้วพอเราคิดออกจะทำให้เราเข้าใจดีมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น กองทุนรวมตลาดเงิน
ข้อดี
– สภาพคล่องดี
– ความเสี่ยงต่ำ
– เหมาะสมแก่การลงทุนถ้าดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น
– ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์
– ฯลฯ
ข้อเสีย
– ผลตอบแทนต่ำ
– เปลียนเป็นเงินสดช้ากว่าเงินฝาก
– ถ้าดอกเบี้ยอยู่ในขาลง จะไม่เหมาะแก่การลงทุน (ใช้ตราสารหนี้ระยะยาวดีกว่า)
– ฯลฯ
ลองไปทำกับทุก ๆ สินค้าดู เราจะเห็นภาพกว้างมากยิ่งขึ้น แล้วเราจะสามารถเลือกสินค้าการเงินได้เหมาะกับตัวเองมากขึ้น
อ่านถึงบรรทัดนี้ หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมพี่ทุยไม่ยอมบอกมาเลยล่ะ ว่าแต่ละสินค้ามันมีดีอะไร และมีข้อเสียอะไรบ้าง ?
เหตุผลหลัก ๆ ที่พี่ทุยไม่บอกเลยว่ามี ข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง เพราะอยากให้กลับไปทำเอง มันเป็นเรื่อง “จิตของนักลงทุน”
ถ้าเราแค่อ่านแต่ไม่ได้ “คิดวิเคราะห์” เอง สุดท้ายข้อมูลนั้นแทบจะไม่มีประโยชน์เลย อ่านแล้วก็มีโอกาสที่จะลืมสูงมาก
แต่ถ้าเราได้ผ่านกระบวนการคิดของตัวเอง โอกาสที่จะลืมแทบไม่มี และต่อให้ลืมก็คิดใหม่ได้ง่าย ๆ แล้วเรื่อง Asset Allocation ก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการลงทุนซะด้วย
เรียกได้ว่าใช้หากินได้ตลอดชีวิต ตราบเท่าที่เรายังลงทุนอยู่ !! หรือใครพอคิดได้บ้างแล้ว ก็ลองมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันก็ได้นะ