“มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่” ประโยคนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ในปีที่ราคาทองคำพุ่งสูงปรี๊ด วันนี้พี่ทุยเลยจะพาไปส่อง “แนวโน้มราคาทองคำ” ปี 2022 เสียหน่อย
ซึ่งถ้าดูย้อนกลับไปในอดีต ก็จะพบว่า ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นในปีที่เศรษฐกิจมีปัญหา มีสงคราม มีเหตุการณ์ไม่แน่นอนอะไรเกิดขึ้น ที่ทำให้คนรู้สึกต้องการเก็บสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเอาไว้ (องค์การอนามัยโลกก็ยังให้เฝ้าระวังโควิด-19 ในปี 2022 อยู่นะ)
วันนี้พี่ทุยจะมาเจาะลึกกันว่า ปี 2022 ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่คนมองหาหรือเปล่า แนวโน้มราคามีโอกาสขึ้นไปอีกหรือว่าร่วงลงมายังไงบ้าง
หมายเหตุ: บทความนี้ยังมิได้รวมปัจจัยเรื่องของสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ที่เพิ่งเกิดขึ้นปลายเดือน ก.พ. 2022 ใครสนใจบทวิเคราะห์ราคาทองคำที่สูงขึ้นอย่างมากในช่วงสงคราม พี่ทุยสรุปไว้ให้แล้ว “ซื้อทองคำ” ตอนนี้ยังทันมั้ย ? – เมื่อราคาพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
“เเนวโน้มราคาทองคำ” จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี
ก่อนจะมาวิเคราะห์ราคาทองคำปี 2022 พี่ทุยอยากจะชวนย้อนไปดูข้อมูลราคาทองคำในอดีต 10 ปีว่าเป็นยังไงบ้าง
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกช่วง 10 ปี
ถ้าเราดูราคาทองคำในประเทศ 10 ปี เทียบกับราคาทองคำในตลาดโลก 10 ปี เราจะพบว่า ช่วงที่ราคาขึ้นไปสูงสุดนั้นสอดคล้องกัน คือ ปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มต้นมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ส่วนราคาต่ำสุดนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน ก็เพราะมีปัจจัยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมาเกี่ยวข้องด้วย
ส่วนการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำตลอด 10 ปี ก็ถือว่า มีโอกาสเหวี่ยงได้แรงในบางปี แต่ถ้าใครซื้อทองคำในปีที่ราคาร่วงไปมาก ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในปีที่ราคาทองคำขึ้นไปสูงมาก เช่น
ถ้าซื้อทองคำมาช่วงเดือน พ.ย. 2014 ราคา 17,750 บาท แล้วมาขายช่วงเดือน ส.ค. 2020 ที่ราคาขยับไปถึง 30,400 บาท ก็แปลว่า ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำไปถึง 71.26% หรือถ้าคิดผลตอบแทนโดยดูมูลค่าตามเวลาแบบคร่าว ๆ ก็จะพบว่า ได้ผลตอบแทนที่ได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 9.38%
ราคาทองคำขึ้นหรือลงจากอะไร ?
พี่ทุยจะชวนมาวิเคราะห์กันว่า อะไรที่มีผลกับราคาทองคำบ้าง ซึ่งจากการรวบรวมก็พบว่า มีปัจจัยสำคัญๆ 4 เรื่อง คือ
1. นโยบายการเงินและดอกเบี้ย – ถ้าดอกเบี้ยต่ำ นโยบายการเงินผ่อนคลายมาก ๆ ทำให้มีสภาพคล่องในระบบสูง จนคนรู้สึกว่า มูลค่าเงินในมือนั้นลดลง คนก็จะสนใจซื้อทองคำ เพื่อหวังเก็บรักษามูลค่าเงินไว้
2. เงินเฟ้อ – โดยปกติแล้ว ตัวแปรที่มีผลกับเงินเฟ้อมาก ๆ ก็คือราคาน้ำมัน พอน้ำมันขึ้นไปสูง ก็จะเกิดภาวะเงินเฟ้อ เพราะสินค้าตัวอื่น ๆ ก็จะขึ้นราคาไปด้วย แต่ก็เป็นไปได้ที่เงินเฟ้อจะมาจากสินค้าตัวอื่นได้
โดยรวมแล้ว พอมีภาวะเงินเฟ้อสูง ก็จะทำให้คนรู้สึกว่า มูลค่าเงินที่มีอยู่ในมือหายไป เช่น เคยซื้อบะหมี่หมูแดงกินในราคา ชามละ 30 บาท ยุคเงินเฟ้อพุ่ง หมูแพง แม่ค้าขอขึ้นราคาบะหมี่หมูแดงเป็น 40 บาท แปลว่า ถ้ามีเงินในกระเป๋าอยู่ 120 บาท เคยกินก๋วยเตี๋ยวได้ 4 ชาม ก็เหลือกินได้แค่ 3 ชาม เมื่อมูลค่าเงินในมือลดลงแบบนี้ ก็อาจรู้สึกว่าไปซื้อทองคำเก็บไว้ดีกว่า เพราะเชื่อว่า ทองคำช่วยรักษามูลค่าเงินได้
3. ค่าเงินดอลลาร์ – เงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลหลักที่ใช้ค้าขายกันทั่วโลก ซึ่งโดยปกติเวลาเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง นักลงทุนจะรู้สึกว่า มูลค่าเงินในมือหายไป ก็จะหันมาสนใจซื้อทองคำเพื่อเก็บไว้ เนื่องจากมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น ในทางกลับกันถ้าเงินดอลลาร์แข็งค่า ราคาทองคำก็จะลดลง
4. ความต้องการซื้อขายทองคำ – ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว ความต้องการซื้อและขาย ก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อราคา สมมติถ้าช่วงไหนคนอยากได้ทองคำไว้ครอบครองเยอะกว่าทองคำที่มีออกขายในตลาด ราคาทองคำก็ย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา โดยความต้องการทองคำนั้น มาจาก 3 ส่วน คือ อุตสาหกรรมการผลิตและการแพทย์ที่ต้องใช้ทองคำเป็นส่วนประกอบในการผลิต อุตสาหกรรมเครื่องประดับ และนักลงทุนที่เข้าไปซื้อเพื่อลงทุน
โดยรวมแล้ว ดอกเบี้ยต่ำ เงินเฟ้อสูง เงินดอลลาร์อ่อนค่า รวมถึงความต้องการทองคำสูง ๆ สิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นพร้อมกันในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยปกติ มีสงคราม มีวิกฤติโรคระบาด หรือเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งพี่ทุยคิดว่า ทุกคนน่าจะพอเห็นภาพนี้กันชัด ๆ แล้วในช่วงปี 2020 ที่โควิดเริ่มแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตามในยุคนี้มีคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะบิตคอยน์เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุนยุคดิจิทัล ซึ่งหลายคนก็หันไปซื้อคริปโตฯ เก็บไว้เสียมากกว่า เพราะมองว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับบริหารความเสี่ยงไม่ต่างจากทองคำ หรือจะเรียกว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” ในสายตานักลงทุนก็ว่าได้
อ่านเพิ่ม
- ทำไม “Bitcoin” ถึงได้ชื่อว่าเป็นทองคำดิจิทัล ?
- ทำไม Ray Dalio ถึงมองว่า “Bitcoin เป็นทองคำของคนรุ่นใหม่”
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนที่หันไปหาคริปโตฯ กันหมด เพราะก็ยังมีนักลงทุนที่มองเห็น “ทองคำ” เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่ในสายตาอยู่
“แนวโน้มราคาทองคำ” ปี 2022 รุ่งหรือร่วง
พี่ทุยมองว่า ปี 2022 นี้ มีปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกับราคาทองคำ คือ แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และเงินดอลลาร์ที่มีทิศทางแข็งค่าขึ้น จะเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองลง ส่วนปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองยังขึ้นได้คือ อัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่อง
แล้วก็ยังมีปัจจัยแวดล้อมที่จะมาทำให้ราคาทองคำผันผวน ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่แน่นอน ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ หรือก็คือความขัดแย้งระหว่างประเทศ ที่ก็เป็นความไม่แน่นอนที่ต้องจับตา และปัจจัยเรื่องความต้องการที่แข็งแกร่งจากภาคอื่น ๆ เช่น ธนาคารกลาง และอัญมณี โดยพี่ทุยขอสรุปมุมมองราคาทองคำจากสำนักต่าง ๆ มาดังนี้
ตัวอย่างมุมมอง “แนวโน้มราคาทองคำ” ปี 2022
ANZ หรือ ธนาคารออสเตรเลีย : มีปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 แต่มีแรงกดดันให้ปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังลดการเข้าซื้อสภาพคล่องจนจบ แต่จากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยแท้จริง (ดอกเบี้ยหักลบด้วยเงินเฟ้อ) ที่ยังติดลบ ก็เป็นตัวที่ช่วยปกป้องราคาทองคำในช่วงขาลง
ราคาทองคำน่าจะยังรักษาระดับอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 แต่ด้วยแรงกดดันจากการที่ Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ราคาทองคำสิ้นปี 2022 อยู่ที่ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ABN Amro : มองราคาทองคำอยู่ในภาวะตลาดหมี (ขาลง) โดยลงมาอยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามแนวโน้มราคาโลหะที่ลดลง จากนั้นก็ลดลงต่อเฉลี่ยอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปี 2023
Scotiabank : ราคาทองคำน่าจะกลับขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2022 แล้ว ก็ลดลงไปเหลือ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปี 2023
ซื้อทองคำได้มั้ยในปี 2022 ?
หลังจากดูแนวโน้มราคาทองคำมาแล้ว ก็มาถึงบทสรุปที่ว่า แล้วตกลงปีนี้จะลงทุนทองคำได้มั้ย พี่ทุยขอแนะนำว่า ทองคำก็เป็นสินทรัพย์ทางเลือกอย่างหนึ่งสำหรับการลงทุน ซึ่งโดยปกติเวลาที่เราลงทุน เราควรจะกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่า เห็นหุ้นขึ้น คริปโตฯ มา ก็เทเงินไปลงทุนในสินทรัพย์พวกนี้หมดเลย เพราะหวังว่ามูลค่าจะได้เพิ่มมาก ๆ
เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์อะไรที่ให้ผลตอบแทนดีตลอดเวลา โดยไม่ปรับตัวลงเลย ดังนั้นถ้าเรากระจายใส่เงินไว้ในสินทรัพย์หลายประเภท ก็จะช่วยเราลดความเสี่ยงลงได้ สมมติหุ้นตก เรามีตราสารหนี้อยู่ หรือมีทองคำอยู่ในช่วงนั้น มูลค่าสินทรัพย์โดยรวมของเราก็จะไม่ได้ตกฮวบไปตามหุ้นมาก เพราะเรายังมีสินทรัพย์อื่น ที่ราคาไม่ได้ปรับลง หรืออาจจะปรับขึ้นสวนทางกับหุ้นก็ได้
ในเมื่อปี 2022 นี้ เเม้ว่าจะมีทั้งปัจจัยที่ส่งผลกระทบทำให้ราคาทองปรับตัวลดลง เเละปัจจัยหนุนให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้น เเต่ไม่ได้มีแนวโน้มราคาพุ่งสูงจนทำลายสถิติสูงสุดได้ ซึ่งสามารถมองเป็นโอกาสสำหรับเก็บสะสมลงทุนไว้บ้างในช่วงที่ราคาตกลงไป โดยอาจจะลงทุนทั้งในรูปแบบซื้อทองคำแท่งโดยตรงก็ได้ หรือใครไม่สะดวกเก็บทองแท่งไว้กับตัว ก็อาจจะใช้วิธีการทยอยซื้อสะสม ออมทองผ่านบริษัทค้าทอง หรืออาจจะเลือกซื้อผ่านกองทุนรวมทองคำที่มีอยู่ในตลาดก็ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เเนวโน้มราคาทองคำก็อาจจะมีการเปลี่ยนเเปลงตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงโรคระบาดโควิด-19 ด้วย ซึ่งต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด และหากใครสนใจลงทุนกับสินทรัพย์อย่างทองคำก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยนะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ทองคำความบริสุทธิ์ 99.99% มาตรฐานทองคำที่นิยมซื้อขายกันในตลาดโลก
– ทองคำ 1 ออนซ์ เท่ากับ 31.1040 กรัม
ทองคำความบริสุทธิ์ 96.5% ทองคำมาตรฐานที่นิยมซื้อขายกันในประเทศไทย
– ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.16 กรัม
– ทองคำแท่ง น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.244 กรัม