สินเชื่อ CIMB

ทำความรู้จัก “สินเชื่อ” แบบรู้ครั้งเดียว ใช้ได้ทั้งชีวิต

   Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • สินเชื่อสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อแบบมีหลักประกัน และสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน
  • สินเชื่อแบบมีหลักประกันมักจะมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า อย่างเช่น สินเชื่อบ้านแลกเงินหรือสินเชื่ออเนกประสงค์
  • สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน อย่างเช่น หนี้บัตรต่าง ๆ ทั้งบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด จะมีดอกเบี้ยสูงกว่า

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ณ ปัจจุบันการใช้บริการสินเชื่อต่าง ๆ ถือว่ามีอยู่แพร่หลายและทุกคนน่าจะใช้บริการกันมาบ้าง แค่เปิดกระเป๋าตังค์ขึ้นมาพี่ทุยเชื่อว่าแทบทุกคนก็ต้องมี “บัตรเครดิต” ติดกับตัวอยู่แน่นอน หรือถ้าใครจะซื้อรถ ซื้อบ้าน ต้องมีโอกาสได้ใช้บริการ “สินเชื่อ” ในอนาคตกันแน่ ๆ

แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมสินเชื่อแต่ละแบบ แต่ละประเภท ทำไมถึงคิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน แถมวงเงินก็ให้ไม่เท่ากันอีก วันนี้พี่ทุยจะพาทุกคนไป รู้จักสินเชื่อกันให้ลึกขึ้น รับรองรู้ครั้งเดียวใช้ได้ทั้งชีวิต

สนใจ สินเชื่อบ้านแลกเงินหรือสินเชื่อบ้านอเนกประสงค์ อ่านข้อมูลเพิ่มและสมัครได้ที่นี่
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารประกาศกำหนด

สินเชื่อ มีหลากหลายประเภท แต่ละแบบคิดดอกเบี้ยและมีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน

ถ้าหากเราจะเข้าใจเรื่อง “สินเชื่อ” ได้ดีมากขึ้น เราจำเป็นต้องใส่หมวกของ “เจ้าหนี้” หรือลองจินตนาการว่าถ้าเราเป็นเจ้าของเงินเราจะมีมุมมองอย่างไร

สมมติว่าถ้ามีคนสองคนเดินเข้ามาขอกู้เงินเหมือนกัน คนนึงเดินมาบอกว่า ผมขอกู้เงินหน่อย 10 ล้านบาท เชื่อผมได้เลย ยังไงผมก็คืน กับอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่า ผมขอกู้ 10 ล้านเหมือนกันแต่…. เอารถเฟอร์รารี่รุ่นใหม่ผมไปเป็นหลักประกันได้เลย

ถ้าเราเป็นเจ้าของเงิน เราจะอยากให้คนไหนกู้มากกว่ากัน ? แน่นอนว่าคนที่มีของมาเป็นประกันไว้ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า

ซึ่งก็แปลว่าเวลาที่เราจะปล่อยสินเชื่อ เชื่อว่าเรื่องแรกที่เราจะมองเลยก็คือดูว่าคนที่เข้ามาขอกู้เราเนี้ยสามารถ “จ่ายคืน” ได้มั้ย ? ถ้าหากมีแนวโน้มจะจ่ายคืนได้มาก แน่นอนว่าดอกเบี้ยที่เราเรียกเก็บก็อาจจะไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบกับคนที่ดูไม่น่าเชื่อถือ หรือถ้าเกิดมีการมาขอกู้แบบมีหลักประกัน ถ้าหากเกิดเบี้ยวหนี้ขึ้นมา เราก็มั่นใจได้ว่าเรายังมีหลักประกันเอาไปขายทอดตลาดแล้วนำเงินมาคืนได้

เจ้าหนี้มักจะประเมินความสามารถก่อนให้กู้

นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมสินเชื่อแต่ละประเภทของสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ออกมาถึงคิดดอกเบี้ยไม่เท่ากันและให้วงเงินได้ไม่เท่ากัน อย่างเช่น สินเชื่อที่เรียกว่าคิดดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำในบรรดาสินเชื่อทั้งหลาย ก็คือ สินเชื่อบ้านแลกเงินหรือสินเชื่ออเนกประสงค์ ที่ถือว่าเป็นการขอ “สินเชื่อแบบมีหลักประกัน” ก็คือบ้านที่ปลอดภาระแล้ว

ตัวอย่างเช่น สินเชื่อบ้านแลกเงินหรือสินเชื่ออเนกประสงค์ จาก ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่เสนอดอกเบี้ยเริ่มคงที่ปีแรก 3.99% วงเงินกู้ให้สูงสุดถึง 30 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับมูลค่าบ้าน และเปิดให้ผ่อนได้ยาวนานถึง 20 ปี สำหรับเจ้าของบ้านที่เป็นพนักงานประจำหรือเจ้าของกิจการที่มีรายได้  50,000 บาทขึ้นไป

หรือถ้าใครอยาก “รีไฟแนนซ์บ้าน” ก็สามารถมาใช้บริการได้ ดอกเบี้ยเฉลี่ยปีแรก 3.865% (ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 5.065%) วงเงินให้กู้สุด 30 ล้านบาทเช่นกัน และให้ระยะเวลาผ่อนยาวถึง 30 ปี สำหรับเจ้าของบ้านที่เป็นพนักงานประจำหรือเจ้าของกิจการที่มีรายได้  30,000 บาทขึ้นไป

สินเชื่อประเภทนี้จะเหมาะกับการเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ เพราะมีต้นทุนเรื่องดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำและมีวงเงินค่อนข้างสูง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วธุรกิจต่าง ๆ ก็จะมีสินทรัพย์เป็นบ้านหรือออฟฟิศ ที่สามารถนำมาเป็นหลักประกันได้

สินเชื่อบ้าน แบบมีหลักประกัน และการรีไฟแนนซ์บ้าน

ทีนี้ถ้าหากเราขยับมาดู “สินเชื่อที่มีหลักประกัน” อย่าง สินเชื่อรถ เราจะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยที่ถูกเรียกคิดอาจจะไม่ได้แตกต่างกับสินเชื่อบ้านมากนัก แต่จะเห็นได้ว่าระยะเวลาผ่อนสั้นกว่าสินเชื่อบ้านมาก ๆ ทำให้งวดผ่อนเทียบกับวงเงินกู้ค่อนข้างสูงกว่า

เนื่องจากรถส่วนใหญ่นั้นมีแต่มูลค่าลดลง ดังนั้น มูลค่าหนี้ต้องลดตามมูลค่ารถให้ทัน ทำให้งวดผ่อนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับบ้านที่แนวโน้มของราคาจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในแง่ของหลักประกันแล้ว ทำให้สินเชื่อบ้านมีความปลอดภัยมากกว่า อีกทั้งยังปล่อยกู้ได้เยอะและระยะยาวกว่า

สินเชื่อ รถ ถือเป็นสินเชื่อประเภทมีหลักประกัน

หรือถ้าขยับมาที่ “สินเชื่อไม่มีหลักประกัน” ตัวเริ่มต้น จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยเริ่มถูกคิดสูงขึ้นมา และวงเงินที่ให้จะอ้างอิงกับรายได้ของเราเป็นหลัก ส่วนใหญ่ทำให้วงเงินไม่สูงมาก

เริ่มที่ “สินเชื่อส่วนบุคคล” ดอกเบี้ยมักจะเริ่มต้นแถว ๆ 10% มาต่อที่หนี้บัตรต่าง ๆ สุดยอดฮิตอย่าง “บัตรเครดิต” ก็คิดดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 16% ต่อปี หรือ “บัตรกดเงินสด” ก็จะสูงแถว ๆ 25% ต่อปี เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นหนี้บริโภคและไม่มีหลักประกัน

สินเชื่อ ส่วนบุคคล บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ถือเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน

สุดท้ายพี่ทุยอยากฝากไว้ว่า การใช้บริการสินเชื่อไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เราต้องใช้ให้เป็น ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหวเท่านั้น

พอรู้ประเภทของสินเชื่อแบบนี้แล้ว อย่าลืมเลือกใช้ประเภทของสินเชื่อให้เหมาะสม จะช่วยทำให้เราจ่ายดอกเบี้ยและมีงวดที่เหมาะสมนั่นเอง

พี่ทุยขอขอบคุณ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่ร่วมเข้ามาให้ความรู้เรื่องสินเชื่อในครั้งนี้ด้วย
สนใจรายละเอียดสินเชื่อบ้านแลกเงินหรือสินเชื่อบ้านอเนกประสงค์สามารถเข้าไปได้ที่นี่

กู้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนไหว สินเชื่อ CIMB

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารประกาศกำหนด

หมายเหตุ
– สำหรับรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านแลกเงินจากธนาคารอื่นๆ มาที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 6.59% – 6.75% ต่อปี
– สินเชื่อบ้านแลกเงินสำหรับบ้านปลอดภาระ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 6.66% – 6.71% ต่อปี
– โดยคำนวณจากเงินกู้ 2 ล้านบาท อายุสัญญา 15 ปี และอ้างอิง MRR = 9.125% ต่อปี ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567
– ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้

เงินเดือนเท่ากันทำไมกู้ได้ไม่เท่ากัน ?

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile