มีคำกล่าวว่าชาวเวียดนามคนหนึ่ง สามารถเกิดในโรงพยาบาล VinMec เข้าเรียนโรงเรียน VinSchool ก่อนจบมหาวิทยาลัยจาก VinUni และอยู่อาศัยในบ้านของ VinHome รวมถึงเดินช็อปปิงในห้าง VinCom และไปเที่ยวรีสอร์ท VinPearl บรรดาชื่อบริษัทที่ขึ้นด้วย Vin นี้ ต่างเป็นธุรกิจในเครือของ Vingroup เครือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดใน “เวียดนาม”
วันนี้พี่ทุยพาไปรู้จักธุรกิจของ Vingroup และประวัติผู้ก่อตั้ง Pham Nhat Vuong ที่เป็นเศรษฐีพันล้านคนแรกของเวียดนามอีกด้วย
จากยาจกสู่คนที่รวยที่สุดในเวียดนาม
Pham Nhat Vuong เกิดในปี 1968 และเป็นพี่ชายคนโตสุดในครอบครัวยากจน โดยมีแม่ทำร้านชาเล็ก ๆ ในกรุงฮานอย ขณะที่พ่อเป็นทหารอากาศ ซึ่งความสามารถด้านคณิตศาสตร์ ทำให้ Pham Nhat Vuong สามารถคว้าทุนเรียนต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Moscow Geology University ในกรุงมอสโคว รัสเซีย
หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 Pham Nhat Vuong ได้ย้ายจากกรุงมอสโควไปอยู่ที่เมือง Kharkiv ประเทศยูเครน โดยเริ่มทำธุรกิจแรกเป็นร้านอาหารเวียดนาม ก่อนที่จะเปลี่ยนไปทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Mivina ซึ่งกลายเป็นธุรกิจแรกของ VinGroup
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในยูเครนดังกล่าวประสบความสำเร็จ ส่งออกจากยูเครนไปอีก 29 ประเทศ และกลายเป็นคำศัพท์เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในยูเครน เหมือนที่คนไทยเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่ามาม่า
Pham Nhat Vuong ขายธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับ Nestlé ด้วยมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ ในปี 2010 เพื่อกลับมายังเวียดนาม สานต่อธุรกิจอื่นที่เริ่มต้นไว้ก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งทศวรรษ
จากข้อมูลของนิตยสารฟอร์บส์ ปัจจุบัน Pham Nhat Vuong มีความมั่งคั่งประมาณ 6,200 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.24 แสนล้านบาท โดยเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลกเป็นอันดับที่ 411 และเป็นมหาเศรษฐีพันล้านคนแรกของเวียดนามด้วย
Vingroup ทำอะไรบ้างใน “เวียดนาม”
Pham Nhat Vuong เริ่มต้นทำธุรกิจในเวียดนามด้วยการเปิดให้บริการ VinPearl รีสอร์ทติดทะเลใปนี 2001 และธุรกิจห้างสรรพสินค้า VinCom ในปี 2002 โดย Vincom Center Ba Trieu เปิดให้บริการในปี 2004 และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแบบโมเดิร์นแห่งแรกของเวียดนาม
ในช่วงทศวรรษแรก ทางบริษัทให้ความสนใจกับการพัฒนาธุรกิจรีสอร์ทและห้างสรรพสินค้าอย่างเต็มที่ และเริ่มขยายไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Vinhomes ในปี 2010 และเริ่มขยายตัวไปยังธุรกิจด้านสังคม เช่น ด้านสุขภาพ VinMec ในปี 2012 และ VinSchool ในปี 2013
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนความสนใจของ VinGroup จะเทไปที่ภาคส่วนเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ในช่วงระยะหลังมานี้ หลังการประกาศเปิดบริษัท VinFast แบรนด์รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปี 2017
แน่นอน VinFast ไม่พลาดที่จะจับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV และได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกที่งาน Los Angeles Auto Show ในเดือนพ.ย.2021
ในปี 2019 VinGroup ขายธุรกิจ VinMart ร้านสะดวกซื้อ และในเดือนพ.ค.2022 ทาง VinGroup ก็ยังได้ขายธุรกิจโทรศัพท์มือถือแบรนด์ VinSmart แม้จะมีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศถึง 17% และยังวางจำหน่ายในสหรัฐฯ อีกด้วย โดยการขายธุรกิจต่าง ๆ ของ VinGroup มีเป้าหมายเพื่อถ่ายเททรัพยากรที่ตัวเองมีทั้งหมดไปให้ VinFast
ปัจจุบัน Vingroup ใหญ่ขนาดไหนใน “เวียดนาม”
ปี 2017
รายได้ 89,350,049 ล้านดอง
กำไร 4,462,412
2018
รายได้ 121,894,401 ล้านดอง
กำไร 3,823,739 ล้านดอง
2019
รายได้ 130,036,014 ล้านดอง
กำไร 7,545,915 ล้านดอง
2020
รายได้ 110,490,033 ล้านดอง
กำไร 5,464,627 ล้านดอง
2021
รายได้ 128,375,888 ล้านดอง
ขาดทุน 2,513,883 ล้านดอง
รายได้ของ VinGroup ในปี 2021 อยู่ที่ 128 ล้านล้านดอง หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2 แสนล้านบาท หรือเกือบ 1.5% เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจของทั้งเวียดนาม โดยในปี 2020 VinGroup คิดเป็นถึง 2.2% ของ GDP เวียดนามเลยทีเดียว
Vingroup จะไปทางไหนต่อ
VinGroup ได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตก หลังเตรียมทุ่มเงินถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.45 แสนล้านบาท ในการก่อตั้งโรงงานที่ North Carolina ในสหรัฐฯ โดยจะเริ่มผลิต 150,000 คัน/ปี เริ่มต้นในปี 2024 เป็นต้นไป รวมถึงประกาศวางแผนจะก่อตั้งโรงงานในยุโรปอีกด้วย
การลงทุนในครั้งนี้สร้างเสียงฮือฮาในสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีใครลงทุนใน Chatham County ของรัฐ North Carolina ด้วยเม็ดเงินมหาศาลขนาดนี้ หลังจากที่ VinFast บุกตลาดสหรัฐฯ ด้วยการเปิดโชว์รูม 6 แห่งในแคลิฟอร์เนีย
กลยุทธทางการตลาดของ VinFast ในการขายที่ตลาดสหรัฐฯ ก็สร้างเสียงฮือฮาไม่แพ้กัน เพราะราคารถของ VinFast จะไม่รวมค่าแบตเตอรีไปด้วย ซึ่งแบตเตอรี่ เป็นส่วนที่แพงที่สุดสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแล้ว
แทนที่จะขายแบตเตอรี่ไปพร้อมกับรถยนต์แบบธรรมดา ทาง VinFast จะให้เช่าแบตเตอรี่แทน ซึ่งจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน โดยเมื่อใดที่แบตเตอรีเสื่อมเกิน 70% ทาง VinFast ก็จะให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ฟรี
นอกจากนี้ VinGroup ยังได้จับมือกับรัฐบาลเวียดนามในการผลักดันให้จังหวัด Khanh Hoa ทางตะวันออกของเวียดนาม เป็นที่ตั้งโครงการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เวียดนามมี “ซิลิคอนวัลเลย์” เป็นของตัวเอง
จากความเคลื่อนไหวของ VinGroup ที่ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีใหม่มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2019 ก็ทำให้พี่ทุยพอเห็นภาพแล้วว่าเอกชนยักษ์ใหญ่ของเวียดนามเอาจริงเอาจังในเรื่องของเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก
จะสำเร็จหรือไม่ อีก 5 ปี หรือ 10 ปี เราอาจได้เห็นแล้วก็เป็นไปได้
อ่านเพิ่ม
รูปล่าง ของ mobile
