วันนี้พี่ทุยจะมาจัดอันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของเมืองไทย 20 อันดับแรก ซึ่งพี่ทุยได้แจงรายละเอียดไว้ด้วยว่า 20 มหาเศรษฐีในไทย เนี่ย เค้ามีมูลค่าทรัพย์สินมากมายแค่ไหน ? แล้วทรัพย์สินนี้มีรายได้มาจากธุรกิจอะไร ? ถ้าอยากรู้ไปดูกันได้เลยในบทความนี้
20 อันดับ มหาเศรษฐีในไทย 2020
อันดับ 1 ธนินท์ เจียรวนนท์
ยังคงครองตำแหน่งอันดับหนึ่ง แม้ว่าทรัพย์สินของพวกเขาจะลดลง 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปอยู่ที่ 2.73 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้เข้าซื้อกิจการของ Tesco ในไทย และมาเลเซียมูลค่า 1.06 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้สำเร็จอีกด้วย
อันดับ 2 เฉลิม อยู่วิทยา
เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังระดับโลกอย่าง Red Bull เป็นกรรมการธุรกิจมาแล้ว 16 บริษัท ปัจจุบันการบริหารธุรกิจของ นายเฉลิม ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างอย่างกว้างขวางนั่นคือ การดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องดื่ม สปาย ไวน์คูลเลอร์, เป็นผู้ผลิตไวน์ชื่อ “มอนซูน แวลลีย์” และ เครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ล่าสุดภายใต้แบรนด์ MOOSE ( มูส )
ในปี 2020 นี้เค้าขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 จากอันดับ 3 ในปี 2019 เขาเป็นหนึ่งในแปดผู้มีรายชื่อในทำเนียบที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แม้ภาพรวมจะย่ำแย่ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.99 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปีก่อน เป็น 2.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้
อันดับ 3 เจริญ สิริวัฒนภักดี
จากเครือไทยเบฟเวอเรจ ในปีนี้ได้ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 จากอันดับที่ 4 เมื่อปี 2019 ด้วยทรัพย์สิน 1.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ฯ อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินสุทธิของเขาลดลงจาก 1.62 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในปีที่ผ่านมา ลงลดมาเพียง 0.57 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
อันดับ 4 ตระกูลจิราธิวัฒน์
หล่นจากอันดับ 2 ในปี 2019 มาอยู่ในอันดับ 4 ในปีนี้ ด้วยความมั่งคั่งที่ลดลงกว่าครึ่งนึงไปอยู่ที่ 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปีที่แล้วถึง 1.15 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยกัน พวกเขาเพิ่งนำบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
แต่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวและนักช้อปที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ราคาหุ้นของเซ็นทรัล รีเทล ต่ำกว่าราคา IPO ถึง 27% โดยตกลงต่อเนื่องตั้งแต่เข้าการซื้อขาย
อันดับ 5 สารัชถ์ รัตนาวะดี
เป็นผู้ที่ทำเงินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ พุ่งขึ้นมา 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ และยังคงสถานะอยู่ในอันดับที่ 5 ตั้งแต่ปี 2019-2020 เลย ขณะที่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ของเขาเปิดโรงงานผลิตพลังงานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มเติม ตลอดจนเข้าดำเนินการโครงการใหม่ ๆ อาทิ ท่าเรือ และถนนอีกด้วย
อันดับ 6 อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
อันดับที่ 6 สองปีซ้อน ขอยกให้ ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี ในประเทศอังกฤษ และดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลเอาด์-เฮเฟอร์เลเลอเฟิน ในประเทศเบลเยียม คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ยังไม่หมดแค่นั้น เขาและครอบครัวยังถูกจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 290 ของอันดับมหาเศรษฐีของโลกอีกด้วย ซึ่งในปีนี้เขามีมูลค่าสินทรัพย์ลดลงจากปีที่แล้ว 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ด้วยกัน
อันดับ 7 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ
เรียกได้ว่าพึ่งขึ้นมาอยู่ 10 อันดับแรก ในปีนี้ จากอันดับที่ 15 ในปี 2019 หากพูดถึงสีที่ใช้ทาบ้าน ทาอาคาร ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ Captain, SuperShield, 4Seasons และ TOA ล้วนมีเจ้าของคนเดียวกันนั่นก็คือ ตระกูลตั้งคารวคุณเป็นเจ้าของธุรกิจสีทาอาคารและเคมีภัณฑ์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ภายใต้บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า TOA ที่มีคู่แข่งอย่างสีดูลักซ์ เบเยอร์ โจตัน นิปปอนเพนต์ และอื่น ๆ ซึ่งมูลค่าสินทรัพย์ของเขาเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เลยทีเดียว
อันดับ 8 ตระกูลโอสถานุเคราะห์
มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยขึ้นมาอย่างโดดเด่นอีกราย คือ ตระกูลโอสถานุเคราะห์ ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังขายดี M-150 และ ธุรกิจขายสินค้าอุปโภคบริโภคเก่าแก่ของไทย ได้คว้าอันดับ 8 คนที่รวยที่สุดในไทยไปเป็นที่เรียบร้อยมา 2 ปีแล้ว และมีทรัพย์สินสุทธิที่คงอยู่ที่ 3.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ด้วย
อันดับ 9 วานิช ไชยวรรณ
อดีตพ่อค้าข้าว ได้อยู่ในมหาเศรษฐีอันดับที่ 9 ของไทย ซึ่งอันดับคงที่จากปี 2019 เลย ซึ่งในปีนี้วานิช ไชยวรรณ มีมูลค่าสินทรัพย์ 2.80 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ สินทรัพย์ของเขาส่วนใหญ่มาจาก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยมีบริษัท Meiji Yasuda จากประเทศญี่ปุ่นร่วมถือหุ้นด้วย บริษัทนี้มีชื่อเสียงจากโฆษณาโทรทัศน์ในรูปแบบสะเทือนอารมณ์ มีกลยุทธ์การขายผ่านตัวแทนเป็นหลัก และวานิช ไชยวรรณ ยังถือหุ้นใน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อีกด้วย
อันดับ 10 ชูชาติ และ ดาวนภา เพชรอำไพ
มูลค่าสินทรัพย์ ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 ในปี 2020 จากอันดับที่ 13 ในปีที่แล้ว เป็นเจ้าของบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งก็คือบริษัทสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา ในปัจจุบัน มีสาขาถึง 3,279 สาขา มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 0.21 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ทั้งนี้สองสามีภรรยาได้รับเรื่องให้ติดในทำเนียบเศรษฐีใจบุญแห่งเอเชียประจำปี 2019 อันเนื่องจากการสนับสนุนเงินและแรงให้กับวงการด้านการศึกษาและสาธารณสุขด้วย
อันดับ 11 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
มีธุรกิจโรงพยาบาลที่อยู่ภายใต้ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ปัจจุบันมีมูลค่าราคาตลาด (Market Cap) รวมเฉียด 4 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีหุ้นอื่นอีกหลายบริษัทที่ “หมอเสริฐ” ถือหุ้นใหญ่ เช่น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA และ บริษัทโรงพยาบาลนนทเวช จำกัด (มหาชน) หรือ NTV ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวม “หุ้นสื่อ” ที่หมอเสริฐถือลงทุนผ่าน บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง จำกัด หรือ “ช่องพีพีทีวี” และ “ช่องวัน” ผ่าน บริษัทเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งปีนี้ได้ร่วงมาอยู่อันดับที่ 11 จากอันดับ 7 เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา และมีมูลค่าสินทรัพย์ลดลง 0.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในปีนี้
อันดับ 12 Harald Link
เป็นคนเยอรมันที่มีสัญชาติไทยมีชื่อภาษาไทยว่า “หรัณ เลขนะสมิทธิ์” ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัท บี กริม เป็นบริษัทที่มีการบริหาร และจัดการกลุ่มธุรกิจชั้นนำหลายด้านภายในประเทศไทยด้วยกัน อาทิ ด้านพลังงาน เครื่องปรับอากาศ สุขภาพไลฟ์สไตล์ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งภาพรวมของกลุ่มบริษัท บี.กริม นั้นมีธุรกิจหลัก 6 ธุรกิจ คือ
- ธุรกิจด้านพลังงาน
- ธุรกิจด้านคมนาคม
- ธุรกิจด้านเครื่องปรับอากาศ
- ธุรกิจด้านสุขภาพ
- ธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์
- ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งปัจจุบัน Harald Link ได้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 ของคนที่รวยที่สุดในประเทศจากเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่อันดับ 17 โดยมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 0.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในปีนี้
อันดับ 13 กฤตย์ รัตนรักษ์
เป็นประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 หนึ่งในผู้นำตลาดสื่อโทรทัศน์ของไทย และเป็นผู้ถือหุ้นรองใน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 นอกจากนี้เขายังมีหุ้นส่วนใน บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ที่ก่อตั้งโดย ชวน รัตนรักษ์ ผู้เป็นบิดา โดยปีนี้อันดับของเขาร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 13 จาก 11 และมีมูลค่าสินทรัพย์ 2.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงจากปีที่แล้ว 0.55 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ด้วยกัน
อันดับ 14 คีรี กาญจนพาสน์
เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ผู้ให้บริการรถไฟลอยฟ้าที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ โดย กวิน กาญจนพาสน์ ลูกชายของเขาเป็นผู้ควบคุมการดำเนินกิจการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่มาตั้งแต่ปี 2558 และบีทีเอสเป็นบริษัทหนึ่งในกิจการร่วมค้าที่ชนะการประมูลระบบขนส่งมวลชน 2 โครงการใหม่ในเดือนธันวาคม 2559 ยังรวมไปถึง บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย ซึ่งให้บริการด้านสื่อโฆษณาอีกด้วย ในปัจจุบันถูกจัดอันดับมหาเศรษฐีในไทย อยู่ที่อันดับ 14 ขึ้นมาจาก อันดับ 16 ในปี 2019 มีมูลค่าสินทรัพย์ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงมาจากปีที่แล้ว 0.17 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เท่านั้น
อันดับ 15 สันติ ภิรมย์ภักดี
เป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการเบียร์ และเป็นแม่ทัพของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “เบียร์สิงห์” เป็นบริษัทที่ผลิตแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย นอกจากนี้ ตระกูลภิรมย์ภักดียังขยายไลน์ธุรกิจไปยังกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ผ่าน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจด้วยการลงทุนมหาศาล ปัจจุบันสิงห์ เอสเตท ร่วมกับกลุ่มบริษัท FICO เป็นเจ้าของ Jupiter Hotels ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นองค์กรผู้บริหารเชนโรงแรม Mercure อีกด้วย โดยในปัจจุบัน อันดับตกลงมาแค่ลำดับเดียวจากปี 2019 อยู่ลำดับที่ 14 มาอยู่ที่อันดับ 15 มูลค่าสินทรัพย์ของเค้ามี 1.86 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ซึ่งลดลงมาเพียง 0.39 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ จากปีที่แล้ว
อันดับ 16 ทักษิณ ชินวัตร
เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองชาวไทย และยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้ซึ่งลี้ภัยไปอาศัยอยู่ที่ดูไบจากปัญหาทางการเมือง แต่ทักษิณยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) อยู่ อีกทั้งยังเคยเป็นอดีตเจ้าของและประธานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้อีกด้วย ในปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์ 1.85 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงจากปีที่แล้วเพียง 0.05 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เท่านั้น แต่ในเรื่องของการจัดอันดับความเป็นมหาเศรษฐีเมืองไทย ปีนี้อันดับขึ้นมาถึง 3 อันดับ จากปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 19 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 16 ในปีนี้
อันดับ 17 วิชัย ทองแตง
จริง ๆ แล้วเขาเคยเป็นทนายความให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มาก่อน แต่ด้วยความเก่งในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน เล่นหุ้น ทนายคนนี้ก็ควบตำแหน่งนักธุรกิจไปด้วย ซึ่งนอกจากจะผนึกกำลังกับลูก ๆ บริหาร โรงพยาบาลแล้ว เขายังได้รับฉายาเพิ่มมาอีกว่าเป็น “ทนายนักช้อป” และ “พ่อมดตลาดหุ้น” อีกด้วย ด้วยความเป็นนักลงทุน พอร์ตของวิชัยยังมีอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น TWZ บริษัทผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ร่วมลงทุนหลักในบริษัท ลิงค์ เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายกระจายสินค้าหลายประเภทไปถึงร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมทั่วประเทศ บมจ.อี ฟอร์ แอล เอ็ม บริษัทแม่ของวุฒิศักดิ์คลินิก คลินิกเสริมความงามชื่อดัง เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดนักลงทุนเลยล่ะ โดยอันดับของเขาก็ขึ้นมา 3 อันดับจากอันดับที่ 20 เมื่อปี 2019 มาเป็นอันดับที่ 17 ในปีนี้ และมีมูลค่าสินทรัพย์ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงมาจากปีที่แล้ว 0.04 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
อันดับ 18 สมโภชน์ อาหุนัย
เป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตพลังงานทดแทน เมื่อปี 2549 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2556 โดยล่าสุดทรัพย์สินของเขาลดลงจากปีที่แล้ว 38% เหลือ 1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนขายหุ้น เนื่องจากสมโภชน์มีแผนจะเช่าอสังหาริมทรัพย์สำหรับใช้เป็นโรงงานใหม่จากบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของเอง และอันดับของเขาก็ตกลงมาเยอะด้วยจากปีที่แล้วติด TOP 10 แต่ปีนี้กลับลงมาอยู่อันดับที่ 18 เรียกได้ว่ามีขึ้นก็มีลงปะปนกันไป
อันดับ 19 ฤทธิ์ ธีระโกเมน
เป็นนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ และวิศวกรชาวไทย เป็นประธานกรรมการบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเขาก็มาจาก บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป นี่แหละ ปัจจุบันเอ็มเคมีแบรนด์ภายใต้บริษัท 9 แบรนด์ รวมทั้งหมด 638 สาขาในไทย นอกจากนี้ยังมีสาขาในต่างประเทศที่ขยายไปทั้งรูปแบบร่วมลงทุนและให้สิทธิแฟรนไชส์ เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เวียดนาม สปป.ลาว ด้วย ล่าสุด ได้ใช้เงิน 2.06 พันล้านบาทเข้าซื้อหุ้น ‘แหลมเจริญซีฟู้ด’ โดยหลังจากนี้จะเข้าเป็นหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วน 65% และถือเป็นดีลซื้อกิจการร้านอาหารเป็นครั้งแรกของ MK หลังจากเข้า IPO ไปเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา ในปีนี้เขามีมูลค่าสินทรัพย์ 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว 0.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
อันดับ 20 ศุภลักษณ์ อัมพุช
เรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งวงการค้าปลีกเลยสำหรับรายนี้ ก็คือเป็นเจ้าของเครือเดอะมอลล์ เชนค้าปลีกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อาณาจักรค้าปลีกของตระกูลนี้สร้างรายได้ให้กว่า 5.8 หมื่นล้านบาทในปี 2561 และพี่น้อง 6 คนของเขาก็ร่วมบริหารอยู่ในอาณาจักรนี้ด้วยเช่นกัน เครือเดอะมอลล์บริหารศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือ สยามพารากอน , เอ็ม ดิสทริค, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ ล่าสุดเตรียมลงทุนหลักหมื่นล้านเพื่อสร้าง “อารีน่า” จัดคอนเสิร์ตและจัดงานอีเวนต์ระดับโลก 2 แห่ง ในช่วง 5 ปีนี้ คือ EM LIVE ในศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ ความจุ 6,000 ที่นั่ง และ แบงค็อก อารีน่า ในโครงการแบงค็อก มอลล์ บางนา ความจุ 16,000 ที่นั่ง ซึ่งตอนนี้ต้องติดตามต่อเนื่องจากการสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยปีนี้ ศุภลักษณ์ อัมพุช มีมูลค่าสินทรัพย์ลดลง จากปีที่แล้ว 0.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เหลือ 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
รูปล่าง ของ mobile
Comment