เมื่อ NETFLIX เจอกับดักของตัวเอง

เมื่อ NETFLIX เจอกับดักของตัวเอง

3 min read  

ฉบับย่อ

  • NETFLIX บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ให้บริการสตรีมมิ่งวีดีโอผ่านทางอินเทอร์เน็ต ตอนนี้มีผู้ใช้บริการทั่วโลกรวมกว่า 150 ล้านบัญชี
  • NETFLIX กำลังถูกคู่แข่งหน้าใหม่ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Apple, Disney หรือ Amazon เข้ามาแย่งชิงลูกค้าไปมากขึ้น
  • NETFLIX ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 581 เหรียญสหรัฐฯ ต่อการเพิ่มขึ้นของ 1 บัญชีใหม่ หมายความว่า รายได้และจำนวนผู้ใช้บริการกำลังเติบโตช้าลง

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

NETFLIX บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ให้บริการสตรีมมิ่งวีดีโอผ่านทางอินเทอร์เน็ต ตอนนี้มีผู้ใช้บริการทั่วโลกรวมกว่า 150 ล้านบัญชี และเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากมูลค่าตลาด 2.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อต้นปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 1.27 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 4.6 เท่าในปัจจุบัน

พี่ทุยจะพามาดู ผลประกอบการของ NETFLIX เอง ในช่วงปี 2558-2561 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปี 2558 มีรายได้ 6.78 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิ 122 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปี 2559 มีรายได้ 8.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิ 187 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปี 2560 มีรายได้ 1.17 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิ 559 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปี 2561 มีรายได้ 1.58 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิ 1,211 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2562 มีรายได้ 9.44 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิ 614 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กลับปรับตัวลดลงราว 30% จากจุดสูงสุดที่ 423 เหรียญ เมื่อกลางปี 2561 พร้อม ๆ กับความกังวลที่ว่าอาจจะกำลังผ่านจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว

จะเป็นเพราะอะไรนั้น ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันเลย

1. การเติบโตที่ช้าลงของจำนวนผู้ใช้บริการ

แม้โดยภาพรวมในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ยอดผู้ใช้บริการจะยังเพิ่มขึ้น 21.9% เป็น 151.6 ล้านบัญชี แต่สำหรับในไตรมาส 2/62 ที่ผ่านมา ยอดผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบัญชี ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 5 ล้านบัญชี ในส่วนนี้มีการวิเคราะห์กันว่า กำลังถูกคู่แข่งหน้าใหม่ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Apple, Disney หรือ Amazon เข้ามาแย่งชิงลูกค้าไปมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่การเพิ่มขึ้นของคู่แข่งหน้าใหม่เท่านั้น NETFLIX ยังได้เสียลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์หรือซีรีส์บางส่วน กลับคืนไปยังเจ้าของเดิมอีกด้วย

ขณะเดียวกันมีการวิเคราะห์ว่า ที่ผ่านมาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาต่ำ เพื่อขยายฐานลูกค้าอย่างรวดเร็ว แต่การจะขึ้นอัตราค่าบริการในอนาคตนั้น จะทำได้ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ  เพราะจากสถิติแล้ว 18% ของผู้ใช้งานจะยกเลิกการใช้บริการในแต่ละปี หากค่าบริการเพิ่มขึ้น

2. การลงทุนสร้างคอนเทนท์ใหม่ แต่เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ไม่ได้ตามเป้าหมาย

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากการเติบโตที่ช้าลงของจำนวนผู้ใช้บริการ จากปี 2555 ได้ใช้เงินลงทุน 308 เหรียญสหรัฐฯ​ ต่อการเพิ่มขึ้น 1 บัญชีใหม่ แต่มาในปีนี้ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 581 เหรียญสหรัฐฯ ต่อการเพิ่มขึ้นของ 1 บัญชีใหม่ หมายความว่า รายได้และจำนวนผู้ใช้บริการกำลังเติบโตช้าลง

โดยหนึ่งในเรื่องที่ถูกจับตามอง คือ การตัดสินใจทุ่มเงิน 200 ล้านเหรียญ เพื่อทำสัญญากับ David Benioff และ D.B. Weiss โปรดิวเซอร์และผู้เขียนบทของซีรีส์ Game of Thrones เพื่อพัฒนาคอนเทนท์ใหม่ ๆ ร่วมกัน ซึ่งมีมุมมองจากคนในแวดวงการลงทุนว่า เป็นราคาที่สูงเกินไป

3. หนี้สินของ NETFLIX เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ผลจากการลงทุนที่สูงขึ้นเกือบ 90% เพื่อขยายฐานลูกค้าต่อหนึ่งราย ทำให้หนี้สินนั้น เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของ เพิ่มขึ้นถึง 20% ในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นก็เพิ่มขึ้นแตะระดับ 2 เท่า เป็นครั้งแรก แต่ในมุมมองที่ (ผ่านจดหมายถึงผู้ถือหุ้น) บริษัทเชื่อว่าจำนวนผู้ใช้บริการที่เติบโตพลาดเป้าในไตรมาส 2/62 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเพิ่มอัตราค่าบริการ ขณะเดียวกันบริษัทไม่เชื่อว่าการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตที่ชะลอตัว แต่เป็นผลจากคอนเทนท์ที่ไม่ค่อยดึงดูดนัก

สำหรับไตรมาส 3 ปี 2562 ซึ่งมีภาคต่อของซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Stranger Things และ La Casa de Papel (Money Heist) ได้เข้าฉาย เชื่อว่ายอดผู้ใช้งานของพวกเขาจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยตั้งเป้าไว้เพิ่มขึ้น 7 ล้านบัญชี เทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อน ที่เพิ่มขึ้น 6.1 ล้านบัญชี ในมุมของผู้ใช้บริการ การที่บริษัททุ่มเงินเพื่อพัฒนาคอนเทนท์อย่างต่อเนื่อง และยังคงเก็บให้บริการในราคาย่อมเยาว์ ย่อมเป็นสิ่งที่ดี

แต่ในมุมผู้ลงทุนแล้วก็อาจจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าแนวทางที่บริษัทกำลังลงทุนอยู่นี้ จะคุ้มค่ากับการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานหลังจากนี้หรือไม่ และเมื่อการแข่งขันรุนแรงขึ้น NETFLIX จะปรับตัวไปอย่างไร ? พี่ทุยเอาใจช่วยอยู่ห่าง ๆ  อย่างห่วง ๆ นะ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply