ทำไม “Aliko Dangote” ถึงกลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปแอฟริกา

ทำไม “Aliko Dangote” ถึงกลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปแอฟริกา

3 min read  

ฉบับย่อ

  • จากการจัดอันดับของ Forbes ชื่อของ “Aliko Dangote” คือมหาเศรษฐีอันดับ 136 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ธุรกิจของเขาเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนเขาสามารถคืนเงินที่ยืมมาทั้งหมดได้ภายใน 3 เดือน หลังจากเริ่มเปิดธุรกิจ
  • หนึ่งในแนวคิดที่ทำให้ “Aliko Dangote” ประสบความสำเร็จ และเป็นแนวคิดที่เรามักจะได้ยินจากผู้ที่ประสบความสำเร็จอยู่บ่อยครั้ง คือ เขาจะตั้งมั่นไว้เสมอว่า ผู้คนที่เขารับเข้ามาทำงาน จะต้องฉลาดกว่าเขา

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ในทุก ๆ ปีเรามักจะได้ยินหลายคนพูดกันถึงทำเนียบมหาเศรษฐีของโลก ซึ่งส่วนมากแล้วก็มักจะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน จากทางฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป กลับกันในทวีปอย่างแอฟริกา เรามักจะได้ยินเรื่องราวของความยากจนมากกว่าความร่ำรวย ความขาดแคลนมากกว่าความมั่งมี แต่สิ่งที่เคยเกิดขึ้นและยังดำเนินอยู่เหล่านี้ เป็นส่วนผลักดันสำคัญที่ทำให้ “Aliko Dangote” กลายมาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในแอฟริกา เขาทำอะไรและทำไมถึงกลายเป็นผู้ที่รวยที่สุดในทวีปแอฟริกา พี่ทุยจะมาบอกให้ฟังในบทความนี้แหละ

จากการจัดอันดับของ Forbes ชื่อของ “Aliko Dangote” คือมหาเศรษฐีอันดับ 136 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ธุรกิจของ Dangote เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนเขาสามารถคืนเงินที่ยืมมาทั้งหมดได้ภายใน 3 เดือน หลังจากเริ่มเปิดธุรกิจ และหลังจากคว้าปริญญาทางด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยในอียิปต์ Dangote กลับมายังไนจีเรีย และย้ายไปอาศัยที่เมืองลากอส ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยที่สุดของแอฟริกา และยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินของทวีป ด้วยวัยเพียง 21 ปี Dangote เริ่มฉายแววความเป็นนักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ออกมาให้ได้เห็น เขาเริ่มต้นยืมเงินจำนวน 500,000 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 15 ล้านบาท จากลุงของเขา เพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจ ซื้อมาขายไป ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง ข้าว น้ำตาล

อีก 22 ปีต่อมา ในปี 1999 Dangote เริ่มขยายอาณาจักรของตัวเองเข้าสู่การเป็นผู้ผลิต ทั้งโรงงานน้ำตาลและแป้งสาลี ก่อนจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ธุรกิจสำคัญที่ทำให้ Dangote ขยับขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีแถวหน้าก็คือ ซีเมนต์ นั่นเอง นักธุรกิจชาวไนจีเรียผู้นี้ถือหุ้นถึง 85% ในธุรกิจซีเมนต์ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นผู้ผลิตที่ยักษ์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยกำลังการผลิตต่อปีสูงถึง 45.6 ล้านเมตริกตันต่อปี กระจายอยู่ใน 14 ประเทศ ทั่วทั้งแอฟริกา

หนึ่งในแนวคิดที่ทำให้ Dangote ประสบความสำเร็จ และเป็นแนวคิดที่เรามักจะได้ยินจากผู้ที่ประสบความสำเร็จอยู่บ่อยครั้ง คือ เขาจะตั้งมั่นไว้เสมอว่า ผู้คนที่เขารับเข้ามาทำงาน จะต้องฉลาดกว่าเขา ขณะเดียวกัน ด้วยวัย 62 ปี นักธุรกิจผู้นี้ดูเหมือนจะยังไม่ยอมหยุดนิ่งสำหรับการขยายอาณาจักรธุรกิจของเขา ที่ผ่านมาเขากระจายการลงทุนไปในหลากหลายธุรกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของผู้คน อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร ขนส่ง สิ่งทอ รวมถึงโปรเจกต์ที่ใหญ่ยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย นั่นก็คือ โรงกลั่นน้ำมัน

ในอีก 3 ปีถัดจากนี้ คาดว่าธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีของ Dangote จะก่อสร้างแล้วเสร็จ เขาทุ่มเงินลงทุนกับโครงการนี้ไปราว 1.2 – 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมันจะทำให้ประเทศไนจีเรียกลายมาเป็นผู้ส่งออกปิโตรเลียมรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกา ด้วยกำลังการผลิตราว 6.5 แสนบาร์เรลต่อวัน

เมื่อปี 2009 Dangote เคยกล่าวไว้ว่า “ไม่มีสิ่งไหนจะช่วยให้ไนจีเรียพัฒนาขึ้นมาได้เท่ากับคนไนจีเรียเอง ถ้าผมได้เงินมาอีก 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สิ่งที่ผมจะทำคือเอาเงินไปลงทุนเพื่อพัฒนาที่นี่ ไนจีเรีย” ขณะเดียวกัน Dangote ยังเป็นหนึ่งในผู้ที่บริจาคเงินมากที่สุดคนหนึ่งในแอฟริกา เขาเชื่อว่า “มีเพียงคนแอฟริกันเท่านั้นที่จะช่วยทำให้แอฟริกายิ่งใหญ่ขึ้นมาได้”

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply